ตอนที่9 ตอน"เสียใจเว่อร์"
(4820)
"เมคะนอสารถาพเรื่องสตรีเพศ"
เพศผู้หญิงทำให้ผมเสียใจเว่อร์ในอดีต
ผมไม่ชอบผู้หญิงเพศวายๆเอกซ์ๆน่ะหลังประสบการณ์ตัวนี้
เพราะจุดนี้เองที่มันเคยทำให้ผมเป็นไข้และผมเคยมีสภาพเหมือนคนติดคุก
ผมเมคะนอเคยอกหัก2ครั้ง
ในชีวิต
" เนฟฟังจบแล้วเฉยพร้อมแสดงอาการตกกระใจนิดๆให้เขาเห็น"
เมคะนอกล่าวต่อ
"ผมจึงตัดสินใจทำตามสิ่งที่ผมสัญญากับตนเองและเคยพูดมาเมื่อตะกี้ และด้วยรนี้ละ่กระมังผมจึงอยากออมาจากเมืองโหราอินเพื่อพเนจรมาขอลี้ภัยที่นี้ด้วยอันเป็นสาเหตุบวกของผม
"ทันทีที่เขากล่าวจบเนฟอมยิ้ม
เขาจะพักการกล่าวต่อเพื่ออยากให้เนฟคุยบ้าง
แต่เนฟก็ไม่คุยอะไร?
เนฟรู้จักแต่ยิ้มรับอย่างเดียว
เนฟเมื่อคิดอยู่ต่อมาพบว่าเมคะนอเป็น"ผู้ชายคนนี้มแปลก"
แต่ไม่สำหรับพระจ้าพระองค์ท่านมิใช่คนเมืองจิ "เมคะนอเชื่อ"
เมคะนอเชื่อว่าพระเจ้าคง
ไม่อาย้ดตัดตอนสื่อสารอะไรเราที่เป็นมนุษย์เพราะเหตุผลอันดีงามของพระองค์ และกระนั้นการกระทำของพระองค์ที่ไม่มีใครเห็นได้เลยคือ"ลับมีแต่ลมจะเห็นได้ก็แต่แรงโน้มถ่วงของความลับ""
และการกระทำของพระองค์จะมีอุบัติการณ์ปรากฏออกมา
นอกจากท่านเทพอสูรตนหนึ่งซึ่งมีหน้าที่ทำลายมนุษย์
ที่หลายคนเชื่อว่าท่านชั่วร้ายและอาจจะทำด้วยมิติแห่งความพลั้งเผลอ
จากลูกน้องทีาเป็ยเสมือนหนึ่งเป็น"ยมพบาล"ตามวรรณคดีที่ครีเอท(create) ขึ้นมาน่าเชื่อถือและเป็นที่เป็นทุจริตชน
ก็ ถ้าภาษาเราไม่ดีพอมันอาจจะทำให้เข้าใจผิดกันได้
เคยพูดมาแล้วเนฟจะใช้เข็มมีด้ายเย็บปากเอาไว้
ด้วยภาษาที่ตนเองพูดไม่เป็น
พูดไปสองไพเบี้ยและเสียเวลาที่หายไปเพื่อข้อมูลวิจัย ไม่พูดเสียเป็นตำลึงทอง และไมรทำให่ซูกิเหนื่อยอีกด้วย ที่สำคัญซูจิก็เป็นล่ามพูดเป็นภาษาเจอร์ซี่ (jer c y= ภาษาปรวนๆ)ค็อกนี่(c o c k n e y=ภาษาต่ำๆมิใช่ทางการ) อีกด้วยเพราะ
เมคะนอเป็นต่างด้าว
แต่เนฟฟังสื่อและอาการรู้ ด้วยสัญชาตญาณชน อฃะภาษาใบ้และอากัปกิริยาอาการและการกินกระท่อมการดูดกัญชานั่นเขาที่เมืองจินี้เขาทำงัยกัน !
แต่บางส่วนบางส่วนเนฟได้อัดเทปมาให้ซูจิอ่านฟังสำนวนแปลให้อีกครั้งแล้วเนฟจึงมาเรียบเรียงรายงานปรับเป็นข้อมูลเชิงคุณภาพ
ที่นี่เป็นหมูบ้านกัญชาและกระท่อม เนฟขอให้มันแต่ชื่อหมู่บ้านนี้คือ"คะธาและมายตาย" 2หมู่บ้านชื่อติดกันเพราะมันอยู่ติดกันเพียงคลองเป็นเส้นแบ่งเท่านั้นมีบ้านนับได้
บ้านส่วนหนึ่งเป็นกระจุกส่วนหนึ่งแยกห่างกัน เดิมมีคนรักกันมีหนึ่งคู่
รักกันมากคือวันสมรสพอเสร็จพิธีก็ลงไปลอยคอดื่มน้ำปึ้งพระจันที่คลอง"เกชาน"หน้าบ้านนั่นเอง
แก้ผ้าเปลือยทั้งคู่เป็นประเพณี
ในหมู่บ้านนี้ถ้าลงอาบน้ำในคลองนี้ต้องแก้ผ้าหมด เพราะถือว่าเป็นการชำระมลทินเป็นความเชื่อน้อยๆว่าคลองเกชานนี้เป็นคลองศักดิ์สิทธิ์ดุจดั่งแม่น้ำคงคาของอินเดียทีเดียว
แต่วันนั้นทั้งคู่ได้เสียชีวิตและเธอคือ"คะธา"และ"มายตาย"นั่นเอง
เพราะถูกงูเห่าน้ำกัดปกติที่คลองนี้
ไม่มีงูเห่าน้ำ จะมีเพียงปลาปู่และปลาตะเพียนสีทองที่คนหม๊บ้านนี้ไม่กินเพร่ะถถือว่าเป็นปลาศักดิ์สิทธิ์ ที่เป็นเทพเจ้าคอยรักษาคลองนี้มาเป็นเวลาหลายร้อยปีนับได้7ชั่วคนได้ "ซูจิเป็นคนเล่าและยืนยัน"
บังเอิญวันที่คะธาและมายตายนนั้นตายลงเพราะพิษงูเห่าน้ำกัดตาย
เป็นงูที่ มีคนไม่รู้จักนำมาปล่อยไว้
ในช่วงน้ำหบากเพราะคิดว่าเป็นลูกปลาบู่
ที่รู้ว่าทั่งคู่รักถูกงูเห่ากัดตาย
เพราะทั้งคะธาและมายตายและงูกอดรัดกันแน่นอยู่ ตาคลินีมาหาเม็ดทรายไปปักธูปเพื่ทำพลีกรรมบางอย่างได้เดิมาที่ท่าน้ำ"เกชาน" นั่นตอนบเช้าหลังงานแต่งงานเสร็จเมื่อวานของคะธาและมายตาบพอดี
พบศพที่ริมคลองททั้งงูและคะําและมายตายตายศพททั้งสองนอนทับงูอยู่
ต่อมาทางหมู่บ้านจึงคั่งชื่อหมู่บ้านนี้
ว่าหมู่บ้านคะธาและมายตาย
นั่นเองทางสภาเมืองจิรับรองเรื่องนี้
จากอดีตหมู่บ้านนี้ไม่มีชื่อมีแต่ต้นกระท่อมตามริมคลอง และกัญชาตามป่สละเมาะแดดรำไรเรียกได้ว่าเป็นทุ่วเลยทีเดียวส่วนตามไกลเขา
"นับนาน" ใกล้คลองเกชานมีทุ่งฝิ่น
ที่นี่จึงเป็นสวนสมุนไพรตัวสำคัญของเมืองจิในอดีต แต่ต่อมาเมื่อบางเมืองประกาศวมุนไพรชนิดนี้เป็นยาเสพติดให้โทษประเ
ภทหนึ่ง ทุงกัญชาป่ากระท่อม ทุ่งฝิ่น
จึงค่อยๆหมดไปแต่กบับกระจายมาอยู่ตามถนนและตามบ้านใรเมืองจิทั่วไปและคนเมืองคะธาและมายตายถือว่ากัญขากระท่อมฝิ่นนี้เป็นยาของเทพเจ้าพระองค์ที่ประทานให้มนุษย์
เพราะทรงเห็นว่ามนุษย์ที่คะธาและมายตายนั้นลำบากและเป็นคนมีมโนธรรมกว่าสัตว์เดรัจฉาน
ประวัติโดยย่อของหมู่บ้านทั้งสองนี้มีดังนี้แล
แต่เมคะนอ มาทำชีวิตลี้ภัยแบบ
ลูนาติกไซเลม(lunatic asylem)ที่บ้านคะธานี้มิใช่เพราะเหตุาถรรพณ์ใดๆหรือมีสมุนไะรต้องห้ามในเใทองโหราอินขึ้นอยู่ก็หาไ
ม่
เเต่เขามาอยู่ที่นี้ได้โดยบังเอิญด้วยเงินซื้อสัญชาติของเขาและตอนที่
เมคะนอมาอยู่ที่นี้ทุ่งยาเสพติดทุกอย่างมันไม่มีสภาพเป็นทุ่งไปแล้ว
แต่เป็นสภาพวัขพืชขึ้นทั่วไปหมด
ตามถนนหนทางและหมู่บ้านและในเมือง แทนวัขพืชชนิดอื่นเช่ยหญ้าแพรกหญ้าเกรยและหญ้าปากควาย
เพราะมันจะโดนเหยียบแล้วเหยียบอีกเพื่อคนเข้ามาเด็ดใบกระท่อมมากินและมาเด็ดดอกกัญชาแห้งไปสูบอยู่ตลอดเวลานั่นเอง
คนที่นี่ถือว่ากัญชากระท่อมและฝิ่นเป็นอาหารชนิดหนึ่ง และกฎหมายเมืองจิกำหนดให้เสรี ยกเว้นยาบ้ายาม้าที่สกัดจากสารเคมีผสมสูตรถ้าตำรวจพบที่ใครมีโทษหนักมาก
คือจะเนรเทศไปอยู่เกาะร้างที่มีงู
มีพิษชุมและตายที่นนั่นทุกคน โทษนี้เทียบเท่าโทษประหารชีวิตนั่นเอง
ทางเมืองจิจะประกาศเป็นเสรีทุกอย่าง แต่เคยคือไม่ผ่านสภาเลยสักครั้ง มีการต่อสู้กันมานมนานแล้ว ขณะที่เนฟเดินทางมาถึงเมืองจินี้กฎหมายทุกอย่างยังเหมือนเดิมเว้นกัญชากระท่อมฝิ่นและกาแฟชาที่เสรีสุดขีด
เคยพบว่าคนเสนอสถาให้ยาบ่ายาม้าเป็นสิ่งเสพติดเสรีด้วยแต่ถูกจับเรฝนรเทผสปล่ิยเดาะเพราะพบมีสิางผิดๆเหล่สนี้ไว้ใรครอยครองขณะไแหาเสียงเสนอกฎหมายนี้
ที่สภาและตายที่เกาะร้างดังกล่าว
อนึ่งเกาะร้างนี้เป็นเกาะเล็กๆ
ที่ทางเมืองจิกำกนดให้นักโทษเด็ดขาดและหนักขั้นประหารชีวิตเท่า
นั้นอยู่ได้คนละหนึ่งเกาะเท่านั้น และตามแต่ละเกาะมีทะเลรอบเกา
ะมีปลาฉลามเสือชุกชุมและไม่มีเรือเดินน้อยใหญ่แล่นผ่านเพราะมีหินโสโครกจำนวนมาก มีประภาคารปรากฏอยู่