ตอนที่ 15(นิยายกระท่อมเชนัวร์)
15.ม้าสีหมอกลงมารับวิ่งเมล์พาคนไปดวงจันทร์
ในชั่วโมงหยุดพัก เมื่อชาร์ได้มีโอกาสพบกันในตอนเที่ยงๆอากาศดีๆ
เจนบอกว่า: คนสมัยก่อนพอทำบุญจะอุทิศให้เจ้ากรรมนายเวร แต่สมัยใหม่ เขาจะอุทิศว่า "ขออย่ามี "มด และหนูยุง"มากวนใจเท่านั้น"
ชาร์หนุนแนวคิดของเจนตัวนี้ คือเห็นด้วยกับเจนที่จุดนี้!
"ใช่ " โลกเริ่มย่างเข้ามิติแห่งความจริงมากขึ้นนอกจากการฝันเพ้อที่ไร้สาระและจับต้องไม่ได้
"แล้วงัยต่อ" ชาร์ซัก
ก็ไม่มีอะไีร แค่บอกอะไรคุณบ้าง
ประโยคนี้ทำให้เจน
สบายใจ ขึ้น
งั้นว่าไป"ชาร์ตอกกลับและกล่าวต่อไปว่า
"
ถ้าไม่ได้ฟังความจาก"คุณ"แล้วใจมันไม่ค่อยเคลียร์อยู่เหมือนกัน แต่ผมสนใจเรื่อง"ดามุก"ที่คุณชอบกล่าวถึงอยู่
"เพราะถ้าดามุกมีจริงอย่างที่เจนกล่าวตามความฝัน จะได้กำจัดมันเสีย"
เพี่อสำหรับ"ผม"และโลกใบนี้จะได้สมบูรณ์ที่สุด และไม่เอียง ก็"ดามุก "ข่าวโหดเหี้ยมอย่างบาปเหลือผมก็พึ่งรู้จากคุณนี่ล่ะ หรือมันเป็นแฝงเข้ามาเป็นพยาธิสภาพที่ผมไม่รู้และมันเกิดในตัวผมด้วย ผมเองก็ไม่รู่เช่นกันเพราะไม่เคยสน!
เจนตอบชาร์ว่า "แล้วหนูจะบอกถ้าพบกิจกรรมของ"ดามุก"เคลื่อนไหว"
เจนกล่าวต่อ
คนสมัยนี้คิดเรื่องคอมมิวนิสต์หรือไม่คอมมิวนิสต์เป็นอีกเริ่องที่ตรงข้ามไป จริงอยู่คอมมิวนิสต์เป็นแฟชั่นของอดีตแต่ปัจจุบันมันเป็นตำรานะหนูว่า! "เจนปรารภ"
มีอะไรหรือเจน ชาร์ย้อนถาม
' ก็ดามุกนี่งัยประเด็นค่ะ'
คือว่า ...."เจนกล่าวต่อ"
คำถามในใจหนูมีว่า "ดามุกเป็นทาสของการเมืองหรือเป็นเครื่องมือของการเมือง
หรือเป็นเพราะการวิวัฒน์ทางสังคมกลุ่ม
หนึ่งที่เป็นเของเชิงลบ หรือมีสันดานบาปในตัวมันเอง หนูสงสัย
เพราะดูเหมือนว่ามันเป็นพยาธิสภาพในสังคมตามที่หนูเห็นมาหรือไม่ ..แต่ไม่ใช่คอมมิวนิสต์
นะหนูคิดว่า เพราะการเมืองกับการร้ายทันต่างกันนะ!
"เจนยังไม่หาคำตอบได้ลงตัวคือเพื่อจะหาอะไรมาตอบโจทย์ที่สงสัยนี้ได้
แต่เจนไม่ชอบ"ดามุก"เป็นเดิมพันอยู่แล้ว เพราะดามุกทำให้เจนมีหายนะมากับมันตลอดชีวิตที่เจนผ่านเลยมา เช่นชอบแซวหนูเมื่อพบกัน
และการที่เจน
ต้องมาเป็นทาสที่คฤหาสน์นี่ก็เพราะดามุก"นี่คือสิ่งที่เจนเข้าใจประโยคนี้ดี แต่เจนไม้ได้บอกให้ชาร์รู้เพราะอาย
"ต่อไป"
หรือว่าสันดานดามุกมันเป็นเช่นนั้นเอง ดามุก "เ
จนครุ่นคิด"
ชาร์ไม่ชอบบทสนทนาหนักๆแบบนี้แต่ ก้อพอทนฟังได้ เพราะชาร์เป็นนักสังคมเชิงวิกฤตในตัวมันเองอยู่แล้ว แบบเชิงลึกและชั้น
สูง และมีบทบาททุี่เข้าใจยากแต่มีมอเรล และวงเล็บแต่มิใช่สายลับให้องค์กรใดนะ"
"ชาร์"
ในฐานะปัญญาชนขนิดหนึ่งแบบทวนกระแสดูเหมือนว่าจะเป็นอย่างที่เจนเป็น แต่ที่สำคัญคือ
ชาร์ที่ปฏิเสธมาโดยตลอด ที่จะไม่ไปข้องแวะการเมือง แม้ชาร์ยอมรับว่ามนุษย์เป็นสัตว์การเมืองและสัคว์สังคม
และโดยเฉพาะ ตอนนี้ชึ่งชาร์งดไปทำกิจกรรมใดๆทางการเมือง การวัด การบ้าน รัยๆทั้งสิ้น คือตัดสังคมทุกอย่างออกไปเพราะไ
้ว้ทุกข์ให้คุณวิ "ว่าอย่างนั้น"
สังคมในชนบทชาร์
มัวร์พยายามเข้าใจเรื่องนี้ของชาร์กันทุกคน
เพราะ"ความรักความอาลัยอาวรณ์เป็นสิ่งที่มนุษย์ปฏิเสธหรือละเว้นไม่ได้เหมือนแม่หมารักและหวงลูกอ่อน" นี่เป็นบรรทัด
ฐานของสังคมเชร์มัวร์ที่เกิดเขึ้นอยู่แบบองค์รวมตอนนี้ เท่าที่ชาร์มองเห็น คือคนที่เชร์มัวร์นี่เน้นสนใจเรื่อง
"ฝนตกกับแดดออกเมื่อไหร่เท่านั้น"ในวันๆหนึ่งที่เขาเสพชีวิตกันอยู่ !ว่างั้น