ตอนีที่ 40 เสียงเพลงนี้มันสะเทือนใจฉัน "ขอแวะฟังเพลงเดี๋ยวที่รัก"
เนื้อร้องที่ชาร์กำหนดแต่งขึ้นเองเพืาอไว้ทุกข์ให้ยอดรักคือวิเวียนน์ขบองชาร์ผู้ที่ตายไปแล้ว
"เสียงรัก"
นี่หรือเสียงแห่งรัก
นี่หรือคือความจริง
แน่หรือว่าไม่หลอกลวง
แน่หรือว่าไม่เพ้อเจ้อ
แน่หรือมิใช่แค่รำพัน
มันคือเสียงเพงลง
มันคือเสียงเพลง
มันคือเสียงเพลง
มันคือความรัก
มันคือความ ฝัน
มันคือดวงใจ
มันคือความจริง
แน่นอน ...มันคือดวงใจ
ฉันไม่เข้าใจว่ามันเป็นงี้ๆ...ได้งัย
มันเป็นงี้ได้งัย
ทันทีที่โทรมือถือวางลง
ฉันรู้สึกว่าใจของฉันมันถูกขโมยไป
ทำงัยดี
ทำงัยดี
ทำงัยดี
ฉันรักเธอ
ฉันรักเธอ
แต่ว่าเธอซิ
แต่ว่าเธอซิ
แต่ว่าเธอซิิ
พอดี ฝนมา
พอดี ฝนมา
โอ้ฝน !ฝนจ๋า !ฝน!
คืนนี้ขอฉัน ขอฉันนอนกอดเธอน่ะ..นะ่..น่ะ..ฝน
แม้เธอจะเปียกฉันก็จะเปียก ..ฉันก็ยอม..ฉันก็ยอม
แม้ฉันจะหนาว.. ฉันจะหนาว
ฉันก็ช่างหัวมัน..ๆๆๆ
แต่ตอนนี้ที้ฉันรู้ ฉันมีเธอ
แต่ตอนนี้ฉันรู้. ฉันมี..เธอแล้ว
ฉันพอใจ
ฉันพอใจนะที่รัก..จะจ๋า
น้องฝนคนดี
น้องฝนคนดี
ขออย่าจากพี่ไป.
จบ
พอเสียงเพลงงจบลประตูแง้ม
"ใครนะ"ชาร์คิด
ปรากฏว่า "เป็นผู้หญิง"ถ้าสายตา ของชาร์
ไม่มั่วนิ่ม แม้จอประสาทตาของขาร์บางครั้งไม่น่าไว้ใจ มันสั้นบ้างยาวบ้าง แล้วแต่อารมณ์
พร้อมเสียงตามมาอีก
"วิเวียนน์งัย"
โอ้ยผีหลอกกูอีกแล้ว "ชาร์ตวาด"
ก็วิเวียนน์ตายไ ปตั้ง10ปีแล้ว แล้วจะมาวิเวียนน์อะไรอีก
ไม่เข้าใจ
ชาร์ทบทวนความคิดสักนิด
ลำดับไปจากวินาทีที่ได้ยินเสียงว่า"ก็วิเวียนน์งัย"
จนวินาทีนี้
มีแต่ความว่างเปล่ากับความมืดผสมด้วยไฟน้อยแรงเทียนสีโคซี่(Cozy อบอุ่นสบาย)ที่ติดอยู่
เมื่อตะกี้ชาร์แต่งเพลงพึ่งจบลง
จบลงด้วยเสียงตอบรับแบบละเมอออกไป
"ก็นั่นงัย"-"ความรักที่มีต่อเธอ"
แต่นั่นมันเป็นอดีต
"ชาร์มั่นใจ"
นั่นมันเป็นอดีต"ชาร์ย้ำ
เราไม่ใช่เด็กอมมือ"ชาร์ปรามตนเอง"
"จะมาคิดเรื่องรักๆ
ใคร่ๆอะไ่รอีกป่านนี้แล้ว"
ชาร์ลั่นวาจาอยู่ในใจ
แต่ปรากฏการณ์นี้ไม่จบแค่นี้
ชาร์คิดว่าจำเป็นต้องคิดต่อไปเพราะสมองมีไว้เพื่อคิด
"อะไรก็ได้ แม้จะคิดมากหรือมากคิด"
ชาร์จึงคิดต่อไปทันทีที่ชาร์บอกใจด้วยประโยคนี้จบลง
คือทบทวนความคิดเสียใหม่
"แต่เสียงแว่วๆ ที่ได้ยินไปสักครู่เมื่อตะกี้ คือสงสัยว่า
มีใครจริงๆไม่รู้มากระซิบเบาๆว่า
"วิเวียนน์งัย"
ชาร์รู้ว่า"เจน"ไม่กล้ามาดอดทะเล้นกับเจ้านายของเธอแม้เจ้านายของเธออย่างชาร์เองจะดู "บ๋องๆ"ซักหน่อยก็จริง
"ผีแน่" ชาร์คิดอย่างสงบและสงสัยขึ้นมา
ทันที
จึงหวนคิดถึงหนังสือเล่มหนึ่งที่ชาร์เคยอ่านนานมาแล้ว
ที่เกาะสุมาตรา ขณะชาร์โดยสารเรือข้ามไปสุมาตราจากสิงคโปร์มันเป็นฉบับภาษาอังกฤษชาร์จำได้
"ไม่มั่นใจว่าที่ท่าเรือชื่ออะไร"
ต่อท่าอะไรติดต่อกันไป
ในการเดินทาง "แต่เป็นกลางทะเลระหว่างเกาะ"ที่เรือกำลังแล่นไป
เพราะตอนนั้นเป็นเว
ลากลางคืน " และชาร์ยังจำได้ว่า
ออกมาเดินเล่นที่ท้ายเรือ พบน้ำทะเลและเรือพาเร
าที่กำลังพุ่งหน้าไปสู่จุดหมายปลายทาง "มันเป็นเรือโดยสาร" เพราะแรงปั่นของเรือแล่นไปข้างหน้าอย่างเร็ว อันนี้มิใช่เรือประมงหาปลา
ที่"เราอาศัยมา'" เพราะเหตุจำเป็น
แต่จำได้ว่าถึงเกาะสุมาตราตอนเช้าอย่างปลอดภัยพร้อมความเหนื่อย
ก็ที่จะบอกคือ
มีหนังสือเล่มหนึ่งที่คาบิน (Cabin)ของเรือ
ที่ชาร์นอน หนังสือเล่มนั้
นดูเหมือนหรือเกี่ยวกับที่มีชื่อว่า Extra sensory perception: transmeditation by Lubsang rampa
เป็นหนังสือเกี่ยวกับสมาธิทางจิต และวิญญาณ และตาที่สามและและ ประสาทที่6 แม้จะคาบเกี่ยวยาหรือความจริงที่ทำให้คิดอย่างนั้นนี้โน้น คือมิใช่หนังสือเรื่องยาและผลข้างเคียงขอ
งผู้เสพยาLSD( Lysergic acid diethylamideสกัดจากราบนข้าวไรย์ สารเสพติดชนิดรุนแรง คนเสพเข้าไปลืมตัวอาจจะกระโดดจากที่สูงเช่นตึกได้ ชาร์จำได้ว่าหมอทางจิต"ทีโมที"ทำให้ยานี้มี
ชื่อเสียงรู้จักปรากฏไปทั่วทั่งเชิงลบเชิงบวก
ต่อมา ชาร์คาดว่าผลจากการทดลองของ หมอทิมอที
แลรี :Timothy Learyผู้ดังกับยาขนานนี้เขาเป็นหมอจิตบำบัดที่เป็นภัยกับประธานาธิบดีนิกสัน)สมัยนั้น ยากล่อนประสาทอะไร
ก็อันนี้ ชาร์เลยมองว่า ระบบESP ตามที่หนังสือนี้กล่าว ถึงมันคือทาวอ้อมใหม่ของคนติดยานี้คิดหรือไม่ คือคิดแบบตาสามคือคิดแบบเสพLSDที่ไม่อาศัยสูตรเคมีทางเชื้อราแต่เป็นการอาศัยสูตรเคมีทางจิตสมาธิแบบที่ปรากฎในหนังสือ เกี่ยวกับที่ชื่อ "ลุบซางรามพา"Lunsan-rampa อันนี้สื่อไปทาง
ทิเบต
และเรื่องฝ่ายจิตที่มีสภาพนามธรรม สัมพันธ์กับเรื่องสมาธิที่ธิเบต สมัยหนึ่ง
sixth sense ที่พบหนังสือเรื่องนั้นเรียกมันว่าคือESP:Extra Sensory Perception(เรื่องนี้ชาร์ไม่นำมาเขียนเป็นประเด็นหลักในนิยายเป็นเพียงแสวงหาเหตุผลมาสนับสนุนเรื่องที่ไม่มีข้อเท็จจริงชัดเจน เช่นเสียงเพรียกร้องเรียกที่ชาร์ได้ยินขณะแต่งเพลงอยู่และสดุดลงและเสร็จได้ยินเสียงเพรียก
ดังมา:วิเวียนน์งัย:แม้วิเวียนน์ตายไป เสียงนี้มันเกิดขึ้นได้งัย แล้วมันเกิดขึ้นได้อย่างไร "ถามซ้ำ": การให้คนนอกและตนเองยอมรับ เช่นเรื่องนี้จึงอ้างเรื่องในหนังสือที่เป็นเรื่องของ"ลุบซางรัมพา": Lunsang Rampaใมโนคติของตาที่สาม
แม้ชาร์เคยเรียนเทววิทยามาบ้างแต่มิใช่ประเด็นจะมาสมอ้างเรื่องลี้ลับนี้ แม้ตอนนี้ชาร์เองก็มี"มิเม
ย์"และ"หิมะ"เป็นตาที่สามของชาร์อยู่ตลอดเวลาว่า
"วันนี้ควรทำอะไรและไม่ควรทำอะไร"
"อย่าไปตรงนั้นไปตรงนี้มีงูมีอันตราย" ซึ่งชาร์เองรับรู้จน ชาร์เองไม่มั่นใจว่าอันนี้เป็นตาที่สามที่มิเมย์และหิมะบ่งถึงจริงๆ หรือเพราะความปกติของชาร์ที่ต้อง
คิดเอาเอง
เพราะมิเมย์และหิมะเป็นสัยว์แม้ขาร์ยกให้เป็นนางเองและนางรองของชาร์คือเป็นเมียหลวงเมียน้อยของตนเองนั่นเอง
ต่อมาชาร์
ตัดสินสรุปไม้ได้ว่าอะไรคืออะไร แน่
ชาร์ก็รับฟังในข้อเชื่อว่าตาที่สามมีจริงไว้นอกจากหนังสือที่พบในที่เรือข้ามทะเลไปเกาะสุมาตราวันนั้นที่ห้องนอนบนเรือ
ชาร์ได้อ่านและะสนใจและวางไว้ที่เดิม ที่สำคัญเป็นภาษาอังกฤษสื่อและมีข้อน่าอ่านสัมพันธ์กับลัทธิในประเด็นศาสนาและจิตวิญญาณผสมอยู่มากที่เกิดขึ้นในทิเบต
และตอนนี้
จึงเอาหนังสือเล่มนี้มาเปรียบเทียบความคิด
หาข้อสรุปจากการได้ยินเสียงคนตายไปแล้ว
ว่าจริงเท็จหรือประสาทหลอนที่ไม่ได้เสพLSDกันแน่ ไปเท่านั้
นเองอันเป็นประเด็นสำคัญ
)
เอาละทันทีหนังสือเล่มนี้วางลง ชาร์หลับสนิทเพราะเหนื่อยจากการเดินทาง
หลังชาร์นอนหบับไปงีบใหญ่
พอลุกขึ้นมาอีกครั้งจึงได้ความคิดว่า
"ในสังคมมนุษย์
มีอะไีรอีกหลายอย่างที่เรายังไม้รู้กันคือ เช่น
เรื่องวันนั้น มีเสียงดังกล่าว
"ก็วิเวียนน์งัยละ"นั่นเป็นเสียงของเมียตนเองที่ตายไปนานแล้ว
เพราะฉะนั่นเสียงนั้นคือ
ผี หรือคน
เป็นหนึ่งคำถาม
หรือโจร หรือเสียงใครอำพรางล้อเล่น
หรือผู้ร้ายหรือ"ดามุก"แอบมาทำหลอนประสาทให้สติอ่อนไปรึป่าว
ที่ชาร์คิดว่าทั้งหมดนั้น"เราประสบมาตลอดทุก
วินาทีที่เราอยู่ที่คฤหาสน์เขร์นัวร์"
และอีกต่างหากคือ
รวมทั่งเวทย์มนต์
ที่มีอันตรายบ้างไม่จริงบ้าง จริงบ้าง สงสัยบ้าง การเมืองบ้าง
แต่ขาร์ไม่เคยใช้สารเสพติดทุกชนิดแม้ระดับยาหลอนประสาทLSD
นอกจากกาแฟและชา
เมื่อหวนกลับมาคิดถึงเรื่องเมื่อวานนี้
เป็นเสียงว่า"วิเวียนน์งัย" ทันทีที่เสียงนี้หยุดสงบลง
และเงียบไป
ชาร์มั่นใจว่านี่คือ"คุณ"วิ "นิ"
แต่คุณวิตายไปแล้วเกือบ10ปี แล้วจะมาทำ
อะไรอีกล่ะ"ที่รัก"
ชาร์โพล้งตอบทันควัน
ผีกับคนรักกันไม้ได้ตามสูตรของคนและมันเป็นไปไม่ได้แน่นอน "ชาร์ย้ำ"
แต่ถ้าบังเอิญวิเวียนน์ฟื้นคืนชีพขึ้นมา โอ้ย!ชาร์ชอบถ้าจริง
"เจน"นั่นไม่มายุ่งกับเรา
เมื่อชาร์มาวิเคราะห์แล้ว
อาจจะเป็นเสียงวิญญาณของ"คุณวิ"ก็ได้
เพียงการคิดการนึก จิตสัมผัสแนวใหม่ของคนอาจจะมีการสื่อทางวิญญาณ มันอา
จจะมีได้
เพราะบางอย่างมีวิชาการยอมรับอยูแม้แบบ
คลับคล้ายคลับคลาแต่ก็มีเหตุผลหนุนรอ เหมือน
ในหนังสือตาที่สามมี
หนังสือนั้นกล่าว
รองรับอยู่พอฟังได้บ้าง
เพราะฉะนั้น
ไม่จำเป็นเสมอไปที่จะปฏิเสธว่า
"ผีไม่มีจริง"
หรือว่าวิเวียนน์ฟื้นคืนชีพ
มาจริงๆ
ถ้าจริงพรุ่งนี้ไปหลุมฝังศพคุณวิ ศพคุณวิต้องหายไป
ชาร์หยุดคิดไว้เท่านี้
แล้วไปฟังเสียงเพลงจากมือถือต่อ เพราะนั่นคือ
"ความสุข"
ต่อไปคือเสียงของสุภาพสตรีผู้นี้ที่เคยฟังมากในสมัยเรียนมหาวิทยาลัย
แต่ก็อยากจะฟังอีก..มันไม่เบื่อนั่นคือเสียงของ
ของ
Connie Francis
มี
เนื้อ
เพลงด้วย
เนื้อร้อวดังต่อไปนี้ สมัยก่อนฟังไม่มีเนื้อร้องให้ได้ดู
"Women in Love
by
Barbra Streisend
Life is a moment in space
When the dream is gone
It's a lonelier place
I kiss the morning goodbye
But down inside you know
We never know why
The road is narrow and long
When eyes meet eyes
And the feeling is strong
I turn away from the wall
I stumble and fall
But I give you it all
I am a woman in love
And I do anything
To get you into my world
And hold you within
It's a right I defend
Over and over again
What do I do?
With you eternally mine
In love there is
No measure of time
We planned it all at the start
That you and I
Live in each other's hearts
We may be oceans away
You feel my love
I hear what you say
No truth is ever a lie
I stumble and fall
But I give you it all
I am a woman in love
And I do anything
To get you into my world
And hold you within
It's a right I defend
Over and over again
What do I do?
I am a woman in love
And I'm talking to you
You know, I know, how it feels?
What a woman can do
It's a right
I defend over and over again
I am a woman in love
And I do anything
To get you into my world
And hold you within
It's a right I defend
Over and over again
อ้างซ้ำจากGoogle.com
07/08/21
ตอนวิเวียนน์ยังไม่ตายเธอชอบกิน
น้ำปลาญี่ปุ่นชนิดเหยา
ะๆสายพันธุ์ซอสถั่วเหลืองโชยุญี่ปุ่น คล้ายตราตราทาคูมิ-อายิปัจจุบันเธอชอบ
มากกับไข่ดาว
อันนี้อันเดียวของ
สำนักผงชูรส
"อายิโนะโมะโต๊ะ"
ต่อไปอีก
เพลงที่ชื่นชอบที่ทำให้ชาร์มกำลังใจทบทวน
ตรวจทานและเพิ่มเติมงานวรรณกรรมของคุณวิ
ผู้เป็นเมียและนางเอกผู้อาภัพของชาร์ใน
เรื่องนี้ที่ตายไปแล้ว
แต่ศพยังไม่เผาโดยฝั
งไว้ตามสูตร จนกว่างานวรรณกรรมคฤหาสน์เชร์นัวร์นี้เสร็จสิ้นลงสมบูรณ์
เพลง
ืคือเพลงในอดีต ยุค -50 -60 -70 (นับแบบจากปีคริสต์ศักราช)มีเพลงเหล่านี้เป็นอุทาหรณ์ ที่ชาร์โปรดปรานเป็นพิเศษ
Kiss Me Good Bye
by
Petula Clark และ
Kelvin Williams
"We choose it, win or lose it
Love is never quite the same
I love you, now I've lost you
Don't feel bad, you're not to blame
So kiss me goodbye and I'll try not to cry
All the tears in the world won't change your mind
There's someone new and she's waiting for you
Soon your heart will be leaving me behind
Linger awhile, then I'll go with a smile
Like a friend who just happened to call
For the last time pretend you are mine
My darling, kiss me goodbye
I know now I must go now
Though my heart wants me to stay
That girl is your tomorrow
I belong to yesterday
So kiss me goodbye and I'll try not to cry
All the tears in the world won't change your mind
There's someone new and she's waiting for you
Soon your heart will be leaving me behind
Linger awhile, then I'll go with a smile
Like a friend who just happened to call
For the last time pretend your are mine
My darling, kiss me goodbye
My darling, kiss me goodbye"
พบเพลงนี้ในช่วงโควิด-19ระบาดและอ้างเชื่อมโยงและอ้างซ้ำจากGoogle.com
07/08/21
ประเด็นเขียนและการอ้างเพื่อไม่ให้เกิดการละเมิดสิทธิ์ในเอกสารที่เรียกว่าลิขสิทธ์นี้
ชาร์ยอมรับเรื่อง
Economic value fair use in copyrights
ในการอ้างอิงและเวอชั่นส์ของชาร์คือจะไม่เว่อร์ เช่นการนำเนื้อร้องมาผนวกในงานเขียนแม้อันนี้วิเวียนน์เขียนไว้ทั้งหมดแต่ตอนนี้ชาร์รับผิดชอบและกำหนดว่าอะไรควรไม่ควร ลิขสิทธ์หมดอายุหรือยังไม่หมดอายุรวมทั้งการขออนุญาต
ชาร์มั่นใจว่าต้องให้ถูกต้องเสมอ ถ้าไม่ถูกทำเสียให้ถูกอันนี้เป็นมอราลเลี
ย
ก่อนเราจะได้พบกันอีกกับตัวหนังสืออันมากมายนี้ รวมทั้งข้อกำหนดของสังคมที่ชาร์ไม่ชอบละเมิด
ในสิทธิของผู้อื่นในการธำรงตนที่คฤหาสน์เชร์นัวร์และที่อื่นใดอย่างเป็น
สุ
ขและนอนได้ตาหลับเ
มื่อ"ชาร์"ได้ตายลงอย่างสมบูรณ์พร้อมใบมรณะบัตรอันทรงเกียรติแด่ผี
ผู้วายชมน์ต่อไป
แต่ช่วงก่อนตายและหลังตาย" ดามุก"ต้องมารับผิดชอบในการกระทำทุกเรื่องที่ที่มันทูตกันด้วยเพราะพบว่าดามุกชอบมากวนสมาธิชาร์และคณะทำให้เรือของ
ชาร์เสียหลัก อันนี้เป็นคำสาปจากเทพเจ้าแห่งความจริง