วันเสาร์ที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2565

ปูจิโอคนถางป่าในเวบDek-D. com

วันนี้
"ปูจิโอ"เริ่มรู้จักใช้คำนี้ จากคำว่ารัก
แท้ที่ปูจิโอคือผมเคยเเสวงหาถึง40ปีแต่ไม่พบ หรือว่าพบแล้วแต่มิได้สังเกต

วันนี้ที่30 กค2555 ทศวรรตที่60
ตอนกลาง

ผมมาพบสิ่งนี้แทน
และพึ่งรู้ว่าการถูกกฏหมายฟอกเงินพาดพิงมาถึงการเปิดเผยข้อมูล
และให้คนอื่นรู้อาจจะมีความผิ
ดด้วย แม้จะสงสัยว่าเป็นแผนซ้อนแผน
ผมแก้ว่า" เราต้องคิดวิเคราะห์ต่อไปและไม่หิวข้าวถ้าเหนื่อย
นอนพักก่อนถ้านอนไม่หลับ หาหมอมิใข่คิดฆ่าตัวตายหรือวิ่งหนีความจริง ผมสอนรึป่าว
ตอบว่าป่าวสอน แต่นี่เป็นนิยาย


           phisingคือ  มีคนแอบเอาข้อมูลออนไบน์ของพระเอกไปทำมิชอบ
และมีหมายศาลมาแต่พระเอกไม่
ได้รับหมายประวัติพระเอกก็ขึ้นทะเบียนอาญากรรม"ทำงัย"
แจ้งความออนไลน์ได้พระเอกทำ
 แล้วเชื่อว่าฝ่ายเอคงคอยจ้องว่า
จะทีจดหมายมาที่ตู้จดหมายที่วังเวงแล้วส่งจารชนมาแอบหยิบจดหมายที่ถึงพระเอกไป

กรณีหนึ่ง
สงสัยไปรษณีรวมหัวกันกับฝ่ายเอ
ทำมิดีเกิดปมสอบสวนขึ้นมา
พระเอกชอบการสอบสวนเพราะ
สนุก และได้วัตถุดิบถ้าเสียเงิน
ตอบว่าไม่มีอานาถา
จบเท่านั้ถ้างั้นไร้ความสามารถ!
"ไม่ซิ" พระเอกมีที่ดิน5เอเคอร์
ชื่อพระเอกคือผม
ถ้างั้นพาเข้าจำนองคำตอบทำไม่ได้เพราะผมอายุเกินไวกู้เงิน

จึวติดอยู่ตรงนี้ หาเงินจากคนใกล้ชิด
ส่วนใหญ่มีพิพาท

ต่อไปเป็นเรื่องศาล
จะเอาผมล้มละลาย
ผมไม่มีหนี้สินกับใคร

ต่อมาผมจะติดคุกเพราะไม่ไปตามนัดศาล
จึงเกิดการต่อรอง


ให้นำเงินทรัพย์สินมาบรรเทา
ผ่านวิธีการบังคับคดี
พระเอกคิดว่าต้อวดูคำสั่งศาลว่ายุติธรรมหรือไม่
ต่อไปจึงค่อยจัดกาไปตามศาลสั่ง
ก็มีเท่านี้
แต่ตอนนี่ทีคำเตือนว่าระวังพวก
มิจฉาชีพแบบฟิซอ่งนี้เข้าทามนชีวิตอีก
 ผมคิดว่าเรายืนพื้"ที่ไม่มีเจตนาทำมิดี"
ก็คงปลอดภัยเพราะหลักนิติธรรมทุกชนิดเป็นธรรมและสัจธรรม
"ขออย่างเดียวอย่าลื่นขณะปีนปาย"
เพราะถ้าลื่นมีกติกามากที่ต้องรับผิดสิ่งที่มิใข่ความผิดของเราในสมัยนี้ที่ผมต้องเฝ้าระวัง แม้จะเวทนา "ผมก็ต้องยอม"
ศาลคงเมตตาที่สุด

















                ปูจิโอ

คนถางป่า"ปูจิโอ" ตอน95

"คิดๆไว้ที่ยังไม่ลืม"

 นางเอกของผมคหนึ่ง"ยังนา"



เธอเป็นหญิงเชื้อสายมอญ พบกันครั้งแรกในคืนเทศกาลศิวราตรี
เธอสวยมากตอนคืนเพ็ญ. ผิวเหลืองอมขาวของเธอรับกับแสงจันทร์ ที่ชานมุข "บ้านหทัย"ของพ่อเธอแต่พ่อเธอตายไปแล้วเหลือแต่แม่ซึ่งพิการมี"ยางน
า"คอยรับผิดชอบดูและพร้อมน้องชายที่กำลังเรียนที่มหา
วิทยาลัยคนหนึ่งชื่อเยโน

           หลังจากวันเทศกาลศิวราตรี
ต่อมาเราก็เป็นเพื่อนกับยางนา
คบกันและเป็นนางเอกของผมในที่สุด ในคืนที่เธอจะเป็นางเอกของผมซึ่งไม่มีอะไรกัน คุยกันเฉยๆพบว่า
          เธอมีเงื่อนไขอย่างหนึ่งในเมื่อ
เราเป็นเพื่อนกัน " เธอบอก"
ด้วยสีหน้าแจ่มไส และไร้เดียงสา
"
คือเธอสั่งห้าม"ผมบอกเล่าโคตรเง่าอดีตตระกูลของเธอที่มีศักดิ์สูงมาก่อน และคืนนี้ได้มาคุยกันที่มุขของบ้านนี้ เพราะเธอเชื่อว่า
การมานั่งคุยกันแบบนี้แล้วไมีมีอะไรกันที่สมบูรณ์กว้านี้ "เป็นเหตุอาเพทผีบอก"
        เพราะที่ๆยังนาและผม
เราสองนั่งคุยกันคืนอาเพทคืนนั้นคือที่มีเตียงเป็นเตียงนอนของพ่อแม้เธอก่อนมีเธอจะได้ ยัวนามามี
ชีวิตมาดูโลกนั่นคือสิ่งที่พ่อเธอเล่าเมื่อ
4ปีก่อนตาย

มันเป็นมุขรับแสงจันทร์มีไม้จามจุรีใหญ่ด้านหน้าพุ่ม ดูเหมือนมี"กามิ雅味/がみ
=Gami
"=เทพชนิดหนึ่งครองสรรพสิ่งที่ชาว
ญี่ปุ่นขื่อว่ามี"กามิ"เช่นตามโรงนา เปลี่ยวกระท่อมเปลี่ยว เป็นต้น

"ใช่"ผีไม้สิงอยู่ 
ผมเป็นคนกลัวผี
แต่"ยังนา"ถือว่าผีคือเพื่อนและไม่กลัว
 เหตุนี้คืนนั้นผมและ"ยังนา"จึงได้นั่งคุยกันสองต่อสองในมุมมืดที่ที่มีลมเบาๆพัดผ่านตอนนั้น4ทุ่มดึกแล้ว



เพราะเหตุว่า"มันเกิดสงครามในอดีตในครอบครัวเธอ  จึงอยากให้เพื่อนรู้เพียงเธอคนสามัญธรรมดาๆพอ"
     ผมรับปาก"ยางนา" จะทำตามและ"ปกปิด"


และเธอเคยบอกผมว่าเธอไม่อยากดูอะไรที่มันมีลีลามากมาย
คือจะทำอะไรก็ทำจะคิดอะไรก็คิด
จะพูดอะไรก็พูดออกมา
ขอแต่ว่ามันมาจากใจเท่านั้น
เป็นพอ




คือเธออยากบอกผมว่า
อยากทำอะไรขอให้เข้าเนื้อหากันเลย อย่ามารีรออะไร
เราต้องการวันนั้ เราไม่ต้องการ
พรุ่งนี้ เว้นแต่สัญญารักก่อนแต่งงานเท่านั้นที่เราต้องเคารพประเพณี


      ผมจึงนำเอาวรรณศิลป์แนวนี้มาใช้
ทันทีเพราะตอนนี้ป็นยุคเศรษฐกิจแบบเงินตรานี้แบบชอบอะไรๆที่ทันทีและทันทีเลย! ฉะนั้น

ตอนนี้ผมกับยังนา
นั่งทันทีเลยนั่งคุยกันในที่ลับๆหูลับคาคนเปลี่ยวแต่มีแสงจันทร์เป็นเพื่อน
และผมสำนึกตนเองเสมอว่า"ผมมิใช่กบๆที่แอบซ่อนในสระและขึ้นขขี่หลังผสมพันธุ์กันเพื่อเอาลูก มากมายให้เกิดมาในสระเพียงพอเพื่อไว้ให้มนุษย์ที่ชอบกินผัดเผ็ดกบกินยามหิว


ตอนแรกผมคิดว่าทำอะไรแบบด่วนสรุป"ทำงี้มันนอกรีดร้อนรนเกิน"
คือผมคิดว่า"คนมิใช่ม้า คนต้องทำแบบค่อยๆไป"จึงศิริวิไลซ์วัฒนะ!

คิดให้ดีอีกที

มันคงไม่เหมือนภาพรถไฟที่กำลังวิ่งไปกลางดงหิมะที่มีทางเหล็กรองรับให้ม้าเหล็กแรงสูงที่วิ่งไปด้วยความเร็วควบกับวามเร่งและถึงปลายทางปลอดภัย

คือวิ่งได้เลยสบายๆไม่มีไม้หมอนกรือไม้ล้มหรือรถรบทหารมาขวางกั้น

และในกลางคืนเดือนหงายแบบนี้
ทุกคนรู้ดีว่าอะไร?จะเกิดขึ้นกับสายตาและอามณ์ของตนเองเมื่อใครได้โอกาสมาพานพบมัน
"คือหญิงชายกำลังจะกอดกัน"
"กำลังจะจูบกัน"

ประโยคต่อไปให้คนแอบเห็นไป
หาคำตอบเองว่า"มันดีหรือไม่ดี"



แต่ยุคนี้เป็นยุคซัดเดนลี่ (sudden-suddenly) ที่ผมนิยามและผมเคยแอบคิดซาโตริ (Satori =悟り)คือ"รู้แจ้ง"ภาษาของศาสนาลัทธินิกายมหายายญี่ปุ่น
    
         ใน'เซนญี่ปุ่น'แปลว่า"รู้"ทันทีของเซนญี่ปุ่นนั่น"ที่คิดสมาธิจิตทำให้ นั่นที่ทำให้ผมมีสมาธิคิดทันที และเผลอๆ ผมเอาปรัชญาว่าคำว่า"ทันที"แล้วจัดระเบียบสมองใหม่และจึงนำออกมาใช้ดูต่อมา

แม้จะรู้หรือไม่รู้ว่ามันจะ"ทันที"หรือไม่ทันทีตามหลักคำสอยของลัทธิทันทีเดิมหรือไม่

ก็ตาม 

  และผมไม่ได้เอา"ยังนา" มาเป็นสัญลักษณ์แห่งความรักของผมในค่ำคืนนี้และเอาคำรู้แจ้งในเซ็น
ของศาสนามาพาดพิงไรใน
ความคิดนี้เลยเพื่อทำให้คดีความ

แต่สมาธิอันกระจ่างเกิดขึ้นตอนผมกับเธอก็หาไม่!

แต่การคิดได้คิดดีว่า

ผมคือเพื่อนรักของเธอ
ผมจะไม่ละเ