วันอาทิตย์ที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2564

ตอนที่ 17 : เอาเสียเถิดจะดีเอง

16. นวนิยายเชร์นัวร์(8506)


ตอนที่16

ชาร์ให้ชื่อตอนนี้ว่า"แอบมอง"

     เชนัวร์เป็นทั้ง บทกวี บทนิพนธ์ นวนิยาย
บทเพลงและอะไรทั้งหมดที่ทำหมดที่ทำ"ให้สบายใจ"


           นโยบายแอบมองของชาร์มีดังนี้ เจนก็คงรู้
เพราะเจนเป็นปัญญาชน และตัดสินใจมาทำงานตามสัญญาว่าจ้างที่คฤหาสน์ก็เพราะว่าเห็นว่าเจ้านายเป็นคนมีมรรยาทและแ
น่นอนการริดรอนและการละเมิดทางเพศจะไม่มีขึ้นที่เจนคนประสบภัยดามุกมามากแต่เก็บความไว้ในมจ "ไม่เคยพูดเปิดเผยให้ใครรู้แต่บอกกับชาร์"" ถ้าหากมีอะไรเกิดขึ้น ก็ต้องมีการรับผิดชอบตามมาเป็นมั่นเหมาะ "มิใช่คว้าน้ำเหลว" นี่คือสิ่งทั่เจนคิดอยู่ในใจเสมอ และไว้ใจชาร์ แม้บางครั้งเจนจะปล่อยตัวเกินไป เ
ช่น บางครั้ง "นุ่งผ้าหลุดลุ่ย วอบๆแวมๆขณ
ะทำงานที่คฤหาสน์ตลอดเวลาทำงาน4ปีผ่านไป แต่ชาร์ไม่ตำหนิ และชาร์กฌไม่ติดใจวะตถุทสงเพศเมื่อมีเหตุส่ออาการบัดสีบัดเถลิงเกิดขึ้น และเจนเองก็ไม่เจตนา เพราะเธอมีภารกิจมาก จนทำงานลืมไว้เนื้อไว้ตัว และที่คฤหาสน์ก็เป็นเขตลับปกปิดและหวงห้ามสำหรับบุคคลภายนอก"
และ
เพราะเห็นว่ามีชาร์เป็นเจ้านายดีมีคุณธรรมและมีมอรัลเลีย

     "คนจะรักกัน ชาร์ไม่ชอบให้ใครมาแอบมอง คนมาขอเหล้ากินฟรีไม่มีแรงงานตอบแทนชาร์ถือว่าเป็นคนขาดมอรัลเลีย"


       มาที่ทัศนคติของชาร์ต่อ ข่าวเด่นของโลกที่มีดาวเด่นของโลกเกิดขึ้นในโลกอีกหนึ่งดวง เธอเป็นมนุษย์
รู้จักกันในนามว่า"ลิซ่า" นี้คือความเห็นของชาร์

          Lalalisa_m in Instagram

          Lalalisa_m in Instagram

          Lalalisa_m in Instagram

          Lalalisa_m in Instagram

ในอินสตากราม เธอดังก้องโลกชั่ววินาทีจากขีดวัดด้วยสื่อมีเดียยักษ์ใหญ่ตัวนี้ตัวหนึ่ง

        ชาร์รู้มาจากเจน และเปิดดูพบว่าลิซ่าปรากฎการณ์นี้ มันอลังการ "มันอัจฉริยะ"จริงๆ  มันตีประวัติศาสตร์บันเทิงได้แตกเมื่อมองที่รายได้นับเป็นนาที ดิจิตอล มันสนุกมาก แต่ชาร์ไม่ได้สนใจตัวนี้. 
       ชาร์สนใจจาการความสุขใจที่เกิดจากการมองเฟ็นและเสพสิ่อตัวนี้ท่านั้น




         แท้จริงลิซ่าคือแรงกระตุ้นให้คนขยันมุมานะ ตื่นตัวไปกับแรงเต้นแรงเหวี่ยงที่ผ่านการฝึกปรนมาอย่างดีและที่ลิซ่ามีแววอัจฉริยภาพกอร์ปกับเสียเพลงแปลกๆใหม่
ๆ ๙นิดแบบวัฒนธรรม hip-hop-และ rapper และเป็นK-pop(Koria-popular) สะท้อนให้สังคมยุคสมัยรอสงครามโลกที่3เกิดที่สงครามโลกกำลังจะเข้ามามีบทบาทในมิติต่างๆที่ทุกคนเฝ้าแวดระวัง  
ก็หากมีสมรภูมิสงครามแบบสมัยสงครามเวียตนามที่มีดาราดังของโลกมาให้กำลังใจทหารมจทหารจีไอGI(Goverment issue)

สนุกสนานช่วงพักผ่อนจากการรบ
ถ้าตอนนี้มีสมรภูมีสงครามยืดเยื้อเกิดขึ้นเกิดมีรายการ" ลิซ่า" เข้าไปปลอบใจทหาร "ชาร์คิดว่าสงครามคงสงบลง"ได้ อันนี้เป็นความคิดของชาร์นะ มิใช่บทวิพากษ์วิจารณ์วิเคราะห์ข่าวของหนังสือพิมพ์ เพราะ "เชร์นัวร์"เป็นนวนิยายและชาร์เป็นพระเอกขอ
งนวนิยายเรื่องนี้



ความดังของลาลิซ่าLisaเกิดมาในยุคคาบเ
กี่ยวกับไวรัสโควิดCovid-19ที่กำลังคุกคามโลก
เมื่อข่าวนี้มาถึงหูขาร์

มันทำให้ชาร์ลืมเรื่องโควิด19ที่กำลังระบาด
มันทำให้ชาร์ทึ่งในความสามารถของสุภาพสตรีเหมือนไอดอลเด็กหญิงผู้ไร้เดียงสาผลุดมา เขย่าโลก จากผลงาน ที่จุดประกายให้คนทั้งโลกติดตามตนเองด้วยเสียงเพลง
เพลงและลีลาการเต้นการรายรำขับร้องอันสะดุดยิ่ง


"มันมาไวมาก มันมันส์และสนุกและจุใจคนทั้งโลก "มันกระตุ้นให้คนตื่นจากหลับไหลและซมซานกับพิษโควิดไวรัสที่กำลังระบาดเพราะ พิษตัวนี้เทียบเท่า สงครามโลกครั้งที่3ทีเดียวแต่มันเป็นสงครามระหว่างไวรัสกับมนุษย์เท่านั้น


กระแสรายได้ไม่ต้องถามมันเบ่งบานเหมือนดอกเบี้ยและหุ้นซื้อขายดิจิตอลทีเดียวละ
สิ่งนี้ รวมทั้งการโป่โมการซื้อจายส่งออกสั่งเข้าตามมาแบบ(Brand ambassador) เป็
นสากลเลย ที่มันนับวันทะยานขึ้นแบบจรวดไปโลกอวกา
ศทีเดียว





เสียงเพลงและการเต้นที่แหวกแนวและเพลงใหม่ๆและความสวยและเท่ห์งามสุดอลังการ เ
กิดขึ้นเป็นมิติใหม่ที่ทำให้ชาร์ต้องติดตาม
ไปกับเสียงวิจารณ์ที่ฝ่าเข้าไปทั้งแวดวงในเชิงบวกเชิงลบอันสันติวิธีจริงๆ

           ชาร์วางปากกาจากการตรวจแก้นิยายให้"คุณวิ"ทันทีสักพัก เมื่อไลฟ์สดเกิดขึ้นส่งผ่า
นมือถือมาถึง ชาร์พักมือทันทีเมื่อเสียงเพลงของเธอผ่านมา



เพื่ออุทิศให้กับการพักผ่อนและเสียงดนตรี
ในชุดลิซ่านี้

มิใช่โฆษณาแต่มันเป็นมนต์ขลังระทุขึ้นมา
เหมือนคนมาจถดประทัดขอหวยที่ศาลเจ้าพ่อตาเดียวในเชร์มัวร์เลยทีเดียว

สรุป"ต้องหยุดฟัง"
เหมือน
ดุจดังเด็กนักเรียนทุกคนต้อวหยุดภารกิจทั้งหหทด เมื่อเสัยงเพลงขาติที่หน้าเสาธง
ดังขึ้นในตอนเช้าก่อนเข้าห้องเรียนกระนั้น



         ชาร์เคยพบว่า คนขาด้วนที่ โรง
พยาบาลใหญ่แห่งหนึ่ง(ปกปิดชื่อ)ในแดนไ
กลเป็นวอร์ดwardคนขาพิการ คือเมื่ออุบัติเหตุไฟไหม้โ่รงพยาบาลเกิดขึ้น ทำให้คนพิการสามารถเดินวิ่งหนีไฟลงมาจากอาคารได้อย่าง
ปลอดภัย ในขณะที่พวกเขาตามปกติ
เดินไม่ได้นอกจากพึ่งพยาบาลพยุงเท่านั้น


      "ความกระตือรือร้น" มันปาร์ค(Spark)ให้ทุกขีวิตตื่นจากความหลับ

"มันทำให้เกิด"

ผลจากการติดตามและติดใจในนักร้อง



เเนวการเต้รและเริงรำ
ทำเพลงอย่าง"ลิซา"นี้ทำให้คนทั้งโลกตื่นตัวลืมโึควิด-19ไปหมดสิ้น
ชาร์คิด


หวนกลับ มาติดใจเสียงเพลงและการกระโดดโลดเต้าที่เร่งร้าว และได้อารมณ์ แม้ไม่ทุกคนที่ชอบ
แต่ก็มีสิ่งที่ทำให้ " ประกายแห่งความจริง
เกิดขึ้น"


        มีการขับเคลื่อรเกิดขึ้น"ทันที ตามมา หลังข่าวสะพัดนี้ลือกระฉ่อนออกไปในทุกทุมโลก

นับว่าทุกหย่อมหญ้าในที่ๆคลื่นโทรศัพท์เข้าถึง ยิ่งมา"ยุคควอนตัม และยุคโฟตอน(Quantum &photon)ที่ ตัวนี้
สื่อและเสียงภาพมีพลังระบาดไวผ่านมือถือที่ทุกคนมีโดยไม่มีเครื่องนำพาให้เห็นไ
ด้ "แต่ภาพกายภาพเกิด" มันเป็นอุปกร
ณ์ เทียบให้ดูคือ ถ้าเช่นรถไฟต้องกินฟืนหรือน้ำทันทีที่วิ่งบนรางแต่เห็นคนทำ แต่เจ้าควอนตัมและโฟตอนนี้มันเดินทางมาถึงมือผู้เสพได้ไวแทบจะกว่าเสียง"ทำ" ไม่ปรากฎคนทำแต่มีที่มาที่มาไป"นะไม่แปลกนะ ก็โลกมมันเจริญแล้วไง! คือมันใกล้จะพบพระอาทิตบ์และพระจันทร์ดวงใหม่ๆเกิดขึ้นหรือหลบซ่อนที่ไหน เราจะพบอีกกระนั้น" กล่าวคือทฤษฎีในสิ่งที่ไม่น่าเป็นไปได้กลับเป็นไปได้"
"น่ะ ๆ !เพื่อนมนุษย์"





ตามปกติเรื่องดังๆที่เป็นกระแสมักจะมาจาก
ทางตะวัตกแต่คราวนี้เรื่องกังๆที่เป็นกระแสมันมาจากทางตะวันออก" ชาร์ขอชม "
มันเป็นความพิศดารของธรรมขาติที่มนุษยชาติต้องยอมรับไว้โดยดุษฎี"


และชาร์เองก็เป็นผู้ติดตามอย่างบ้าคลั่ง
อยู่ด้วย"อย่างมิได้แกล้งทำทีนะ"



ถามว่าทำไมจึงชอบ"ลิฃ่า"
"ชาร์ไม่มีคำตแบ เพราะไม่รู้จะตอยยังไงจึงไม่ตอบ"
ดูเอาเองก็แล้วกัน"ขาร์เสริม"


        แต่มิวายเจนกล่าวเสริมว่า "ดามุกใช้
การหักล้างเชิงเผ่าอนุพันธุ์หลากชนิดสงครามเย็นร้อน สงครามเอ็น และสงครามตึง แต่แนบเนียนมีเป็นแบบศิลปะภาพวาดแต่นอกส๊ตร(คือภาพที่วาดถ้าออกมาดีก็เห็นด้วย แต่ถ้าออกมาไม่ดีก็จะไม่ปรากฎคนทำ คือจับฺผิดใครไม่ได้นั่นเอง


คือจับผิดยากต่อไปอีก ในมิติมืดอีก 

      เจนยังคงนำเรื่องดามุกที่เจนพยายามจะมากล
บเกลื่อนอารมณ์สุขและเพลินสบายในเสียงเพลงของลิซ่า ในตอนนี้ของชาร์
     คือ แต่ชาร์รู้ว่า เธอทำด้วยบริสุทธิ์ใจเจตนา เพราะเธอประสบภัยดามุกมา "ว่างั้น"

ก็ดีถ้าพบความจริง แล้วว่าดามุกขาดมอรั
ลเลีย คือดามุกชอบ"แอบมอง"ละเมิดสิทธิ์ทางตากับใครอื่นนั้นตามที่เจนพยานมา


ชารฺถือว่าผิดและต้องกำจัดและทำลายเสี
ยคนประเภทนี้" ถ้ามี" แต่ตอนนี้ชาร์พบว่า"ยังไม่มี" ที่มีแล้วนั้นมันเป็นอุบัติเหตุจริงๆ"



ชาร์หนักแน่นพอ "ว่า สรรพสิ่งเปฺ็นอลังการๆชาร์ไม่เคยติดใจว่าอะไรจะเกิด เพราะสรรพสิ่งมันเป็นธรรมชาติ แต่ชาร์ก็รับฟังมิติที่เจนกล่าวมาทุอย่างต่อไป

เพราะขาี์ถือว่า มันคือ"สิ่
่ง"

   สุดท้ายชาร์ตอบว่า  "ก็มันเป็นวิทยาศาสตร์"กล่าวคืออะไรที่เป็นตัว ดามุกก็ดี อื่นใดก็ดี เรื่องหอคอยในงาข้างก็ดี เรื่องสงครามเสือกระดาษก็ดี นี้ ชาร์ถือว่าเป็นวิทยาศาสตร์

คืออย่างงัย
"คือ"

มันต้องผ่านพิสูจน์และทด
ลองสังเกตและแล้วก่อน "ฉันจะยอมรับเธอพูด"


























              อ่านความจริงของ"มอรัลเลีย" :Morralia"ต้องอย่างงี้ อ่านนิยายตอนล่างนี้ดูนี้ดู แล้วลองคิดดูว่า
มอรัลเลียคืออะไร

"เพราะมอรัลเลียมันเป็นคสทมละอายในเชิงคุณธรรมที่ทุกคนต้องมีโดยไม่ต้องสอน"













ที่กระท่อม ไม่มีไฟฟ้าใช้มีแต่น้ำบ่อมีตุ่มใหญ่ และเตาฟืน เตาย่าง มีแต่ไฟแสงอาทิตย์ติดไว้ช่วงหลัง และ เป็นเขตหวงห้าม
ใครเข้ามาที่กระท่อมถือว่าบุกรุก มีป้ายติดไว้
ถ้่าตอนนี้ใครเข้ามาแสดงว่า"มาเพื่อฆ่ามุ่งร้ายชาร์" ตำรวจเห็นให้จับทันที

       แม้"เจน"ทาสคนใหม่
ก็ไม่อนุญาตเข้ามาทุกกรณี
ที่กระท่อมเชร์นัวร์นี้ เพราะกลัวผี"คุณวิ"ดุเอา
เนื่ิองจากเธอหึงหวงมาก(พ่อมด"สิงคล
า อายุมาก หนวดขาวโพลน ยาวเฟื้อย เดินไม่ค่อยไหว มีไม้เท้าเป็นพาหะในการเดิน ตาบอดหนึ่งข้างๆซ้ายและเป็นหมองู มีว่านงูไว้ในครอบครอง คนเชร์นัวร์ถือว่าท่านเป็นพ่อมด"


         ในวันฝังศพ"คุณวิ"ท่านทำนายบอกชาร์ไว้หลังวิตายลง

          ชาร์รับฟังและพองขนเมื่อได้ยินคำนี้จากท่าน


     ที่ กระท่อมเชร์รัวร์ติดกับสระบัวเป็นสระใหญ่ มีกบและตัวนาก เขียดน้ำค้าง จิ้งหรีดขาว และตัวตะกวด และงู่เห่าและตัวพัวพอนชุกชุมมากเป็นนิเวศน์สมบูรณ์ "ท่านปลัดอำเภอท่านหนึ่งยืนยัน" ตอนมาตรวจเยี่ยมดูความสงบในพื้นที่ นานมาแล้ว และมีบันทึกในสมุดเยี่ยมถูกเก็บรักษา
ไว้ที่บนคฤหาสน์


หนังสือเล่มนั้นมีชื่อว่า:


หนังสือcounter point ของAldoux Huxley
เขาแปลว่าจุดเคาน์เตอร์จุด งานที่ซับซ้อนในการมองตัวละครอื่นจากเรื่องที่เจาะจงมาเฉพะของตัวละคร(จำเป็นมีอ้างอิง)ตีพิมพ์ พ.ศ.2471

 

"คุณวิ"ซื้อมาจากปารีส ที่ร้านขายหนังสือเก่าริมฝั่งซ้ายแม่น้ำเซน
ชาร์จำได้เพราะวิบอก แต่ชาร์ไม่มั่นใจ
สรุปวิซื้อมาไม่ได้ขโมยหรือหยิบจากเพื่อนมาเฉยๆ" ว่างั้น"

 

ทำไปทำมาชาร์ได้เจน
เป็นคู่คิดคู่ขา แต่ชาร์ไม่มีอะไรกัน"

 

พวกทาสที่เขนัวร์และพวกดามุกคิดว่าเจนเป็นเมียลับของชาร์แน่

"แต่ป่าวลย"

ทางฝ่ายมองว่า "เจนทำทีว่าเป็นคนใช้มีเงินปี(เงินเดือน)จากคฤหาสน์ แต่ชาร์กับเจนไม่มีอะไรกันที่จะทำให้พวกดามุกเชิงลบจัดฉากมาตั้งวงจรปิดแอบดูได้

เพราะเดี๋ยวนี้มีกล้องวจรปิดชนิดละเอียดสุดขีดแล้วเฉียดๆเหนือการพิสูจน์ด้วย

คาร์บอนส์14 และาแล้วและสาธารณะถ้าใครมีเงินซื้อมา

ที่เดียวที่เทคโนสมัยใหม่ขาดไป

คือกลิ่นคือส่งกลิ่นทางมือถือ ถ้าทำได้


 "เพราะเจนเชื่อว่า มนุษย์ทำได้ทุกอย่าง"

วันหนึ่งเจนได้สารภาพกับชาร์" อย่างนี้

ทำเอาชาร์หัวเราะเมื่อได้ยินคำนี้แต่คล้อยตา
มเจน เพราะเจนเป็นคนใ
ช้ แต่เจนก็เป็นปัญญาชน


"ชาร์ไม่สะอึกในคำพูดของเจน"

พวกดามุกคิดว่า ชาร์นี้โง่
บัดซบ เป็นเศรษฐีส่วนเกิน
มีแต่อดีต แต่ทั้งที่รู้ว่าชาร์ตอนนี้เป็นกุมารทองก้นรั่ว

แม้กระนั่น พวกดามุกยังรุมกันอิจฉาและริษยา
คอยจ้องว่า " ชาร์น่าจะโอนส่วนเกินมาให้พวกตน แต่
ดามุกทำไม่ได้ แต่มีทาง
By -passคือทางเบี่ยง
เขากำบังทำกันแบบลับๆ คือหน้าไหว้หลัง

หลอก ตีหน้าซื่อใจคด แบบหน้าอย่างหลังอย่าง
 ชาร์รู้ข้อนี้จากเจนทาสใหม่ว่า

"เราต้องคอยติดตามแนวคิดของดามุก ว่าเขาจะทำอย่างไรต่อไป "ชาร์นั่งครุ่นคิดอยู่
อย่างภาพปั้นของ.......ครุ่นคิด :Le Penseur- The Thinker) งโดยโอกุสต์ รอแด็ง
ปฏิมากรชาวฝรั่งเศส ที่ตัวจริงปั้นตอนนี้อยู่ที่ กรุงปารีส ในประเทศฝรั่งเศส แต่มีรูปจำลองอีกมากมายทั่วโลก รูปชายแต่ปูนปั้นภาพคนนั่งคิดเหมือนมีความขัดแย้งภายในนี้

รูปปั้นนี้มักจะใช้เป็นสัญลักษณ์ของปรัชญาแห่วคนครุ่นคิด
ที่ปั้นโดย...Auguste Rodin..(ออกุส โรแดง=ภาษาฝรั่งเศส..สำหรับรูปจำลองมีหลายๆแห่งทั่วโลก แต่ ในส่วนที่ชาร์เคยเห็นที่มันปรากฎกลางถนนสายหนึ่งในในเมือ
งของปารีส(Arrondissement
เขตที่....)

เขามีไว้เป็นอนุสรณ์ ที่ชาร์เห็นขณะเดินเชื่อว่ามิใช่ตัวจริงเพราะตัวจริงเป็นบร็อนซ์และหินอ่อน
อย่างไรก็ตามชาร์ไม่ชอบเป็นคนอ่อนอ้างอิงหลักฐาน คือเมื่อไม่แน่ใจจะไม่นำมาพูดอ้าง
ทุกอย่างในชีวิตชาร์จึง
เน้นการอ้างอิงที้พบมาด้วยตนเองกับตา ราวกว่าเหมือนกับการมีโอกาสได้ปรากฏตัวบนที่หน้าบัลลังก์ศาล

จึงพูดให้คนอื่นฟังได้ จึงทำจึงพูดจึงสื่อต่อ


ชาร์จำได้ที่เที่ยว และหลงทางไป เลยเหลือบไปเห็นเข้าเป็นอาหารตา (food of visions) อาหารใจ(food of thoughts)ชิ้นนี้เข้า ในวันหนึ่ง
ก็นี้งัย ที่ชาร์ชอบปั้นแกะอย่าง ปฏิมากรทำในโอกาศต่อมา

ตอนชาร์เรียนศิลปะระดับอนุปริญญาก็เลือกวิชาปั้นเป็นวิชาโท

 

ยอมรับว่าเคยเรียนมาบ้างเป็นวิชาโท ในระดับอนุปริญญา และสอบได้ 
!

แต่เมินเสียเถอะ'ดามุก' คิดหรือว่าข้าจะทำให้ส่วนเกินที่ข้ามีอยู่นี้นี้หายไปจากตัวข้า !  "ชาร์ทนงใจในตัวเองอยู่ในใจอย่างเงียบ" เพราะส่วนเกินชิ้นนี้มันเป็นมรดกชิ้นสุดท้ายที่ขาร์เหลือ

มันเหลือพร้อมกับลมหายใจชุดสุดท้ายก่อนตายที่มันดื่มกินได้ "นี่คือปณิธานของชาร์"

 

!โง่บัดซบ!  


ดามุกมองชารฺ์ด้วยใจหนยามเหยียดต่อปณิธานของชาร์

 

และชาร์ก็ยอมรับว่าตนเองนะโง่ในสายตาของพวกดามุก 

"แต่เดี๋ยวก่อนสหาย-
เราจะขายความโง้นี้แก่เจ้า" เพราะเราไม่คิดคิดคดโกงทรยศต่อความรู้สึกของใครๆเหมือนพวกเจ้า"

เราจะทำความโง่ของเราให้ฉลาดให้เป็นสิ่งใช้ได้เหมือน ดังที่สำนักปรัชญา
Unlinitarian สื่อเอาไว้คือ'ลัทธิอรรถประโยชน์'


ให้ได้พวกสูเจ้าจงรู้ไว้ 

 

ข้ามีส่วนเกินของข้าเป็นเดิมพัน

ข้าทำได้


ก็เพราะพวกเจ้าคิดลบอย่างที่พวกเจ้ากำลังคิดงัย !พวกเจ้าจึงเป็นคนมีบาปในสายตาของสังคมเชมัวร์"
ชาร์กล่าวในมิตินี้ในใจของตนเองในที่สุด อย่างมั่นใจว่าไม่ผิด คือAbsolutely true. and correct.ที่แปลว่า

มันต้องถูกและจริง อย่างไม่ต้องสงสัย.


ความจริงจนเกินไปความจริงจนเกินไปความจริงจนเกินไป

 




 







วันหนึ่ง
ผ่านม่านหน้าต่างเชนัวร์ออกไปที่ที่ทุ่งมีหญ้าป่านาและฟ้ากว้างอย่าง (impress)ประทับใจ
ของช่วงเช้าวันหนึ่ง

คนเขารวยกันตูมตาม
แต่ชาร์ไม่มีวี่แววว่าจะรวยเหมือนเขาบ้าง 'ท่าดีทีเหลว'
'ดามุกเหยียดชาร์กัรถ้วนหน้า"

"อ้าว!ทำไมพวกเธอยังมาคงตามล่าความโง่ของ(ชาร์)เราอีกล่ะ"


ชาร์กล่าวโต้ความรู้สึกของพวกดามุกอยู่เงียบๆ
และ
คิดต่อไปพูดต่อไปในใ
จอันสดใสและปราศจากอคติของตนเองว่า

:
 ก็ถ้าตนเองคิดว่า 'เราโง่ เจ้าจงไปตามคนที่รวย และรีดไถ และจ้องเอาความมั่งมี
และส่วนเกินของคนรวย






วันจันทร์ที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2564

Hut of Charnoir"by marttriniiWriter of Charmoir Estate.

ตอนที่ 15(นิยายกระท่อมเชนัวร์)
"Hut of Charnoir"by marttrinii
Writer of Charmoir Estate.

 (ที่"Blog"อ่านได้เลยไม่มีพันธะใดๆๆ)

15.ม้าสีหมอกลงมารับวิ่งเมล์พาคนไปดวงจันทร์


             ในชั่วโมงหยุดพัก เมื่อชาร์ได้มีโอกาสพบกันในตอนเที่ยงๆอากาศดีๆ

               เจนบอกว่า: คนสมัยก่อนพอทำบุญจะอุทิศให้เจ้ากรรมนายเวร แต่สมัยใหม่ เขาจะอุทิศว่า "ขออย่ามี "มด และหนูยุง"มากวนใจเท่านั้น"

             ชาร์หนุนแนวคิดของเจนตัวนี้ คือเห็นด้วยกับเจนที่จุดนี้!

"ใช่ " โลกเริ่มย่างเข้ามิติแห่งความจริงมากขึ้นนอกจากการฝันเพ้อที่ไร้สาระและจับต้องไม่ได้


"แล้วงัยต่อ" ชาร์ซัก

ก็ไม่มีอะไีร แค่บอกอะไรคุณบ้าง

ประโยคนี้ทำให้เจน

สบายใจ ขึ้น


งั้นว่าไป"ชาร์ตอกกลับและกล่าวต่อไปว่า

"

ถ้าไม่ได้ฟังความจาก"คุณ"แล้วใจมันไม่ค่อยเคลียร์อยู่เหมือนกัน แต่ผมสนใจเรื่อง"ดามุก"ที่คุณชอบกล่าวถึงอยู่


"เพราะถ้าดามุกมีจริงอย่างที่เจนกล่าวตามความฝัน จะได้กำจัดมันเสีย"


       เพี่อสำหรับ"ผม"และโลกใบนี้จะได้สมบูรณ์ที่สุด และไม่เอียง ก็"ดามุก "ข่าวโหดเหี้ยมอย่างบาปเหลือผมก็พึ่งรู้จากคุณนี่ล่ะ หรือมันเป็นแฝงเข้ามาเป็นพยาธิสภาพที่ผมไม่รู้และมันเกิดในตัวผมด้วย ผมเองก็ไม่รู่เช่นกันเพราะไม่เคยสน!


         เจนตอบชาร์ว่า "แล้วหนูจะบอกถ้าพบกิจกรรมของ"ดามุก"เคลื่อนไหว"


เจนกล่าวต่อ

         คนสมัยนี้คิดเรื่องคอมมิวนิสต์หรือไม่คอมมิวนิสต์เป็นอีกเริ่องที่ตรงข้ามไป จริงอยู่คอมมิวนิสต์เป็นแฟชั่นของอดีตแต่ปัจจุบันมันเป็นตำรานะหนูว่า! "เจนปรารภ"

มีอะไรหรือเจน ชาร์ย้อนถาม


      '  ก็ดามุกนี่งัยประเด็นค่ะ'

คือว่า ...."เจนกล่าวต่อ" 


คำถามในใจหนูมีว่า "ดามุกเป็นทาสของการเมืองหรือเป็นเครื่องมือของการเมือง

หรือเป็นเพราะการวิวัฒน์ทางสังคมกลุ่ม

หนึ่งที่เป็นเของเชิงลบ หรือมีสันดานบาปในตัวมันเอง หนูสงสัย

เพราะดูเหมือนว่ามันเป็นพยาธิสภาพในสังคมตามที่หนูเห็นมาหรือไม่ ..แต่ไม่ใช่คอมมิวนิสต์

นะหนูคิดว่า เพราะการเมืองกับการร้ายทันต่างกันนะ!





"เจนยังไม่หาคำตอบได้ลงตัวคือเพื่อจะหาอะไรมาตอบโจทย์ที่สงสัยนี้ได้ 

แต่เจนไม่ชอบ"ดามุก"เป็นเดิมพันอยู่แล้ว เพราะดามุกทำให้เจนมีหายนะมากับมันตลอดชีวิตที่เจนผ่านเลยมา เช่นชอบแซวหนูเมื่อพบกัน

และการที่เจน

ต้องมาเป็นทาสที่คฤหาสน์นี่ก็เพราะดามุก"นี่คือสิ่งที่เจนเข้าใจประโยคนี้ดี แต่เจนไม้ได้บอกให้ชาร์รู้เพราะอาย



"ต่อไป"


หรือว่าสันดานดามุกมันเป็นเช่นนั้นเอง ดามุก "เ

จนครุ่นคิด"



ชาร์ไม่ชอบบทสนทนาหนักๆแบบนี้แต่ ก้อพอทนฟังได้ เพราะชาร์เป็นนักสังคมเชิงวิกฤตในตัวมันเองอยู่แล้ว แบบเชิงลึกและชั้น

สูง และมีบทบาททุี่เข้าใจยากแต่มีมอเรล และวงเล็บแต่มิใช่สายลับให้องค์กรใดนะ"


"ชาร์"


ในฐานะปัญญาชนขนิดหนึ่งแบบทวนกระแสดูเหมือนว่าจะเป็นอย่างที่เจนเป็น แต่ที่สำคัญคือ



ชาร์ที่ปฏิเสธมาโดยตลอด ที่จะไม่ไปข้องแวะการเมือง แม้ชาร์ยอมรับว่ามนุษย์เป็นสัตว์การเมืองและสัคว์สังคม



และโดยเฉพาะ ตอนนี้ชึ่งชาร์งดไปทำกิจกรรมใดๆทางการเมือง การวัด การบ้าน รัยๆทั้งสิ้น คือตัดสังคมทุกอย่างออกไปเพราะไ

้ว้ทุกข์ให้คุณวิ "ว่าอย่างนั้น"

 สังคมในชนบทชาร์

มัวร์พยายามเข้าใจเรื่องนี้ของชาร์กันทุกคน

เพราะ"ความรักความอาลัยอาวรณ์เป็นสิ่งที่มนุษย์ปฏิเสธหรือละเว้นไม่ได้เหมือนแม่หมารักและหวงลูกอ่อน" นี่เป็นบรรทัด

ฐานของสังคมเชร์มัวร์ที่เกิดเขึ้นอยู่แบบองค์รวมตอนนี้ เท่าที่ชาร์มองเห็น คือคนที่เชร์มัวร์นี่เน้นสนใจเรื่อง

"ฝนตกกับแดดออกเมื่อไหร่เท่านั้น"ในวันๆหนึ่งที่เขาเสพชีวิตกันอยู่ !ว่างั้น



วันพุธที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2564

ตอนที่ 15(นิยายกระท่อมเชนัวร์)

ตอนที่ 15(นิยายกระท่อมเชนัวร์)

 

15.ม้าสีหมอกลงมารับวิ่งเมล์พาคนไปดวงจันทร์


             ในชั่วโมงหยุดพัก เมื่อชาร์ได้มีโอกาสพบกันในตอนเที่ยงๆอากาศดีๆ

               เจนบอกว่า: คนสมัยก่อนพอทำบุญจะอุทิศให้เจ้ากรรมนายเวร แต่สมัยใหม่ เขาจะอุทิศว่า "ขออย่ามี "มด และหนูยุง"มากวนใจเท่านั้น"

             ชาร์หนุนแนวคิดของเจนตัวนี้ คือเห็นด้วยกับเจนที่จุดนี้!

"ใช่ " โลกเริ่มย่างเข้ามิติแห่งความจริงมากขึ้นนอกจากการฝันเพ้อที่ไร้สาระและจับต้องไม่ได้


"แล้วงัยต่อ" ชาร์ซัก

ก็ไม่มีอะไีร แค่บอกอะไรคุณบ้าง

ประโยคนี้ทำให้เจน

สบายใจ ขึ้น


งั้นว่าไป"ชาร์ตอกกลับและกล่าวต่อไปว่า

"

ถ้าไม่ได้ฟังความจาก"คุณ"แล้วใจมันไม่ค่อยเคลียร์อยู่เหมือนกัน แต่ผมสนใจเรื่อง"ดามุก"ที่คุณชอบกล่าวถึงอยู่


"เพราะถ้าดามุกมีจริงอย่างที่เจนกล่าวตามความฝัน จะได้กำจัดมันเสีย"


       เพี่อสำหรับ"ผม"และโลกใบนี้จะได้สมบูรณ์ที่สุด และไม่เอียง ก็"ดามุก "ข่าวโหดเหี้ยมอย่างบาปเหลือผมก็พึ่งรู้จากคุณนี่ล่ะ หรือมันเป็นแฝงเข้ามาเป็นพยาธิสภาพที่ผมไม่รู้และมันเกิดในตัวผมด้วย ผมเองก็ไม่รู่เช่นกันเพราะไม่เคยสน!


         เจนตอบชาร์ว่า "แล้วหนูจะบอกถ้าพบกิจกรรมของ"ดามุก"เคลื่อนไหว"


เจนกล่าวต่อ

         คนสมัยนี้คิดเรื่องคอมมิวนิสต์หรือไม่คอมมิวนิสต์เป็นอีกเริ่องที่ตรงข้ามไป จริงอยู่คอมมิวนิสต์เป็นแฟชั่นของอดีตแต่ปัจจุบันมันเป็นตำรานะหนูว่า! "เจนปรารภ"

มีอะไรหรือเจน ชาร์ย้อนถาม


      '  ก็ดามุกนี่งัยประเด็นค่ะ'

คือว่า ...."เจนกล่าวต่อ" 


คำถามในใจหนูมีว่า "ดามุกเป็นทาสของการเมืองหรือเป็นเครื่องมือของการเมือง

หรือเป็นเพราะการวิวัฒน์ทางสังคมกลุ่ม

หนึ่งที่เป็นเของเชิงลบ หรือมีสันดานบาปในตัวมันเอง หนูสงสัย

เพราะดูเหมือนว่ามันเป็นพยาธิสภาพในสังคมตามที่หนูเห็นมาหรือไม่ ..แต่ไม่ใช่คอมมิวนิสต์

นะหนูคิดว่า เพราะการเมืองกับการร้ายทันต่างกันนะ!





"เจนยังไม่หาคำตอบได้ลงตัวคือเพื่อจะหาอะไรมาตอบโจทย์ที่สงสัยนี้ได้ 

แต่เจนไม่ชอบ"ดามุก"เป็นเดิมพันอยู่แล้ว เพราะดามุกทำให้เจนมีหายนะมากับมันตลอดชีวิตที่เจนผ่านเลยมา เช่นชอบแซวหนูเมื่อพบกัน

และการที่เจน

ต้องมาเป็นทาสที่คฤหาสน์นี่ก็เพราะดามุก"นี่คือสิ่งที่เจนเข้าใจประโยคนี้ดี แต่เจนไม้ได้บอกให้ชาร์รู้เพราะอาย



"ต่อไป"


หรือว่าสันดานดามุกมันเป็นเช่นนั้นเอง ดามุก "เ

จนครุ่นคิด"



ชาร์ไม่ชอบบทสนทนาหนักๆแบบนี้แต่ ก้อพอทนฟังได้ เพราะชาร์เป็นนักสังคมเชิงวิกฤตในตัวมันเองอยู่แล้ว แบบเชิงลึกและชั้น

สูง และมีบทบาททุี่เข้าใจยากแต่มีมอเรล และวงเล็บแต่มิใช่สายลับให้องค์กรใดนะ"


"ชาร์"


ในฐานะปัญญาชนขนิดหนึ่งแบบทวนกระแสดูเหมือนว่าจะเป็นอย่างที่เจนเป็น แต่ที่สำคัญคือ



ชาร์ที่ปฏิเสธมาโดยตลอด ที่จะไม่ไปข้องแวะการเมือง แม้ชาร์ยอมรับว่ามนุษย์เป็นสัตว์การเมืองและสัคว์สังคม



และโดยเฉพาะ ตอนนี้ชึ่งชาร์งดไปทำกิจกรรมใดๆทางการเมือง การวัด การบ้าน รัยๆทั้งสิ้น คือตัดสังคมทุกอย่างออกไปเพราะไ

้ว้ทุกข์ให้คุณวิ "ว่าอย่างนั้น"

 สังคมในชนบทชาร์

มัวร์พยายามเข้าใจเรื่องนี้ของชาร์กันทุกคน

เพราะ"ความรักความอาลัยอาวรณ์เป็นสิ่งที่มนุษย์ปฏิเสธหรือละเว้นไม่ได้เหมือนแม่หมารักและหวงลูกอ่อน" นี่เป็นบรรทัด

ฐานของสังคมเชร์มัวร์ที่เกิดเขึ้นอยู่แบบองค์รวมตอนนี้ เท่าที่ชาร์มองเห็น คือคนที่เชร์มัวร์นี่เน้นสนใจเรื่อง

"ฝนตกกับแดดออกเมื่อไหร่เท่านั้น"ในวันๆหนึ่งที่เขาเสพชีวิตกันอยู่ !ว่างั้น