วันศุกร์ที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2566

ลอร์ดลิเทลตอนที่13 "เมื่อน้ำหิมะกลายเป็นสีกาแฟดำ"

      ลอร์ดลิเทลตอนที่13 "เมื่อน้ำหิมะกลายเป็นสีกาแฟดำ"
          "เมื่อน้ำหิมะกลายเป็นสีกาแฟดำ"
ฟ      ลอร์ดลิเทลตอนที่13 "เมื่อน้ำหิมะกลายเป็นสีกาแฟดำ"
(คือหิมะตกปนเปื้อนกับฝุ่นแล้วไหลลงมาจากเขาโนวา  ไหลลงไปตามซอกตามถนนดูเป็นสีกาแฟดำ ถ้าเดินเหยียบมันจะลื่นล้มได้)
          "เมื่อน้ำหิมะกลายเป็นสีกาแฟดำ"
ช่วงฤดูหิมะตกนกที่เห็นได้เป็นเพื่อนสายตา
คือ"นกเจจารีการ์"( pesgareeka)  ตัวเล็กๆบินขึ้นบินลงตามกิ่งไม้และลอนน์(lawn)  ป่าหญ้ามุมสวนหย่อมเล็กๆกว้างใหญ่ไพศาลทั่วไปที่ลอร์ดมิคานเห็น มีนกอีกหลายชนิดแต่มันไม่ค่อยนิ่งให้เห็นได้เต็มตา เหมือนใบไม้"มาเปิล"(maple) ที่ร่วงหล่น จึงไม่กล้าเอ่ยถึงชื่อมัน กลัวจะผิดเดี่ยว"น้อง"นกมันจะโกรธเอาถ้าเรียกชื่อมันผิดไป
        แต่ถ้าเป็นเขตเมืองร้อนสมัยที่ร้อนมากฤดูนั่นนี้ก็จะมีนกแปลกๆ ที่ลอร์ดมิคานได้พบ มันเป็นนกมีปีกสีเขียวสนิทสวย ตัวขนาดนกเอี้ยงแปลกตาและไม่เคยเห็น ไม่ค่อยได้เห็นเป็นอาหารตา (food of sight) แต่มันเป็นตัวคลายร้อนคลายอารมณ์ได้
 (ฤดูร้อนในเขตเมืองร้อน)ที่เห็น      นกๆ มันจะบินมาให้เห็นเป็นอาหารตาในฤดูร้อนมันจะบินมาเที่ยวเกาะตามกิ่งไม้  เป็นรายตัว มันจะไม่มาเป็นฝูงหรือเป็นพวก เหมือนนกกระจิบที่โหมโรงมากินดอกหญ้าเดอร์ซี่( dersy) 
ลอร์ด มิคานไม่ชัดเจนว่าจะเรียกนกปีกเขียวที่เห็น  มันชื่อว่าอะไร  จะเป็นประเภทนกแก้วก็ไม่ใช่! บางครั้ง  ถ้าเด็กจัญไรที่มีมือสุดคะนองไม่เอาอาวุธหนังสติ๊กยิงมันปีกหักเสียก่อน  เราคงได้เห็น
      ลอร์ดมิคานเคยคิดว่า  ตนเองเป็นลอร์ดเข้าถึงคนยากเพราะในโลกแห่งความจริง ร่องรอยแห่งชนชั้นยังคงปรากฏอยู่แม้ในกลุ่มแรงงานและทา
ส แม้ความเป็นขุนนาง ตอนนี้มันเป็นจะกลายเป็นอดีตไปหมดแล้ว
       การเข้าระบายอารมณ์แทนภู่กันบนคานวาส(canvas)และสีน้ำมันในหลายมิติธรรมชาติด้วยตานี้  แม้จะเป็นวรรณกรรมหมึกเปื้อนที่มโนเอาเองว่าเป็นสีทอง  ในการปะติดปะต่อชีวิตในสังคมในโลกมนุษย์นั้นวิเศษเหลือ"มันน่าจะถูกนับว่าเป็นยา"
       ถ้าใครๆ ที่เป็นคนมีนิสัย แอบมองเห็นยามว่างของลอร์ดมิคาน  ที่หลีกเลี่ยงไม่ได้  หรือการมีแนวความคิดและความคิดๆต่างๆ แม้จะอาจมีเป็นเสรีภาพอย่างสุดโด่งมากสำหรับใครคนหนึ่ง แล้วแม้ในปัจจุบันแท้ก็จริง  มันก็อาจจะกระทบคนอารมณ์หวนที่ผวนแปรปรวนไปบ้าง คือไม่เห็นด้วยหรือมองว่สการเห็นทัศนียภาพ ชนิดนี้เป็นเรื่องราวที่รับรองความเป็นปกติไป แต่สำหรับลอร์ดมิคานผู้อาภัพ  เห็นว่านี้คือความสุขล้นของคนทุกคนถ้าคิดให้ดี เมื่อได้เห็นอย่างมีสมาธิ
        ลอร์ดมิคานสำนึกในข้อนี้ดี  และจะด้วยเหตุนี้ตนเองจึงจำเป็นต้องเป็นก้อนอิฐก้อนหนึ่งของ"ปราสาทคูเซอร์แห่งความหลังและค่ำคืนแห่งความหลังที่เคยมีและตนเองเป็น"ลอร์ดนิรนามตลอดกาลตลอดชีวิตเพื่อผนึกความทรงจำทั้งหมดไว้คนเดียวเท่านั้นเสียแล้วละกระมัง
ท่านลอร์ดลิเทลช่วยผมด้วย!ถ้าผมจินตนาการเพ้อเกินไป "ลอร์ดมิคานรำพึงถึงธรรมชาติที่ได้พบมา"
        คิดว่าอย่างนั้นเสียแล้ว  เพราะการใช้ชีวิตนิรนามและชีวิตแอบแฝง " แต่มิใช่เป็นโจร"  เราจะมีความเบาตัวมาก  แต่เรายังคงมี"มโนธรรมและการคงมโนธรรมอย่างลอร์ดต่อไป"นี้ไว้
       นี่แม้มันคงจะลำบากมากล่!
แต่มันจะง่ายต่อการวางตัว  ในหมู่มวลมนุษยชาติ แม้ตนเองจะเป็นกบฎให้กับตนเองไป  ทั้งนี้เหตุผลคือ  แล้วนั้นสิ่งสรุปสุดท้าบคือบริบทนี้ที่มีขึ้นได้ ก็เพราะเพื่อจะง่ายและสะดวก  ด่านแรกที่ชัดเจนคือ เสรีภาพที่ขาดการติดตามเป็นสื่อในกรณีเช่น
การ ต่อการขอยื่นพาสปอร์ต(passport )หนังสือเดินทาง  ขอประทับตราขอวีซ่า(visa)ข้ามชาติเป็นสากล  แบบชนิดคนที่ไม่ มีพรมแดน ไม่มีชาติศาสนาและหัวใจป็นสีดำสีแดงกีดกัน มีลัทธิการเมือง เข้ามาติดในสัญชาติตัว  ถ้าคิดได้ทำได้อย่างนี้ คนเรา มันจะทำได้เหมือนนกนางแอ่นหรือนกปากห่างบินข้ามทวีปได้อย่างไม่ต้องเคารพกฎหมายเข้าเมืองใดๆทั้งสิ้น คือ"ไปเสรีมาเสรี"
        ลอร์ดมิคานคิดว่าในโลกสองค่ายระหว่างนายทุน( capitalist )กับค่ายคอมมิวนิสต์(communist )ที่เขาคงดิ้นรนเพื่อเสรีภาพและความเป็นจริง ซึ่งลอร์ดมิคานไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด  การพิพาทที่พูดง่ายๆ  คือค่าแรงงานกับค่าตอบแทนมันทะเลาะกันเป็นสมุฎฐานจากระหว่างแรงงานที่เป็นศึกต่อรองกับอภินายทุนชั้นกลาง(me ga -bourgeois)หรือนายทุนที่เรียกว่า( capitalism) เรื่องทางมิตินี้นั้นในมุมมองของลอร์ดมิคานถือว่า:-
       " เมื่อโลกมาถึงวิกฤติ ณ .จุดหนึ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ก็ต้องแสวงหาโลกใหม่ในดินแดนที่มีอยู่อีกคือแดนดินแห่งอวกาศ(space)ที่กำลังเป็นกระแสนิยมยิ่งตอนนี้และเชื่อว่าคงเป็นตอนต่อๆไป 
        เพราะเชื่อว่ามีหลายคนที่เชื่อมั่นว่า:
โลกนี่!มีภัยธรรมชาติที่ร้ายแรงจนอยูกันต่อไปไม่ได้ เช่นอาทิตย์ร้อนมากในฤดูร้อน อีกแล้วหรือ
ร้อนจนโลกมนุษย์แทบระเบิดขึ้นได้แน่นอนใน
วันหนึ่ง
       การนั่งเรือเกาะเรือไปอยู่โลกอื่น  เหมือนการหนีร้อนเข้าห้องแอร์(air -condition ) มันคงหนีไม่พ้นแน่  เหมือน ๆเรื่องๆในคัมภีร์ศาสนาหนึ่งกล่าวไว้เรื่องเรือ"โนอา"อันมหัศจรรย์ ตอนที่จะเกิดอุบัติการณ์อันตรายอันยิ่งใหญ่"" นอกจากนี้ลอร์ดมิคานไม่ขออธิบายอะไรอีก คือไม่อยากพูดถึงเบื้องบนแห่งสิ่งลี้ลับทั้งมวลนอกจากมิติอวกาศที่มนุษย์ค้นพบแล้ว

        และเรื่องของการเมืองการปกครองและกลุ่มมาเฟีย(mafia) เพราะความจริงในสิ่งที่เกิดเป็นสิ่งที่มองไม่ห็นพิสูจน์ยาก ถ้าใครไปศาลแล้วมันคือจบยากยาก  แม้ลอร์ดมิคานตนเองเรียนมาสูงก็ตาม  แต่ภารกิจจำเป็นอื่นมีมากพอ ที่จะช่วยคิดช่วยฝัน และสรุปในเรื่งเหล่านี้ที่พูดมาตอนต้นนั้น"พูดแล้วหาจบยาก"เพราะเหคุผลคือ "ตนเองไม่ว่างพอเพื่อรับคำโต้แย้งใดๆในบทสนทนา"ไดอล็อก"(dial o u g e ) ที่อาจจะมี
        ส่วนเรื่องการสนทนาบทรักบนเตียงนอน โอ้ยช็อบ!ชอบ! แต่ลอร์ดมิคานไม่ชอบลามกอนาจารและโพโนกาฟี (pornography)  นี้ยกเว้นเลย
        หลายคนอาจจะบอกว่า"ขุนนางมีมุขเป็นผู้กุมบังเหียนชะตาชีวิต  สถิตอยู่เบื้องหลังชีวิตทุกค
น" อาจจะมีก็เพียงบารมีธรรมทางเทวสิมธิ์ที่เห็น
ๆกันซึ่งสวยงามและมีอดีตและเป็นแฟชั่นสมสมัยเท่านั้น  อันนี้ลอร์ดมิคานมิได้เป็นทนาย แต่ถ้าใครเชื่อว่าคิดว่า"สรรพสิ่งมีบังเหียนอบู่เบื้องหลั
ง" แบบหนังแฟนตาซี อันนี้มันเป็นการ"มโนกันไปเอง"" มากกว่า ที่ไม่มโนคือ "เมื่อใครอยากได้เงินก่อต้องทำงาน  ถ้าไม่ทำงานก็ไม่มีเงินเพื่อใช้"เป็นอุทาหรณ์ที่จริงแท้ และที่สำคัญถ้าพูดว่ามโนธรรมละจะต้องมีจริงในความมีบังเหียนอยู่เบื้องหลังของโลหต่อชีวิตของชีวิตขุนนางผู้ทรงเทวสิทธิ์
       ถามว่าเทวสิทธิ์คืออะไร?
ลอร์ดมิคานตอบว่า " มันคือความดีงาม การมีคุณธรรมปรดจำใจของมนุษย์นั่นแหละคือมโนธรรมของคน

       คนคิดว่า"คนเราถูกลิขิต" คิดอย่างนั่นมันเป็นคนแบบ"กินปูนร้อนท้อง" คนทุกคนมีสิทธิลิขิตชีวิตตนเองด้วยมโนธรรม" นี่คือ"อมตภาพ" ที่ลอร์ดมิคานเชื่อ
         โลกปัจจุบันไม่ว่าจะเป็นขุนนนางหรือทาสก็ตกอยู่ในภารกิจมีแรงงานที่ต้องทำ "เพียงเดินเล่นชายหาดก็เป็นแรงงาน เพราะมันมีผลผลิต""
           และค่าจ้างทุกค่า มันไม่มีพรมแดนและชาติศาสนนาแล้วตอนนี้
           ค่าจ้างที่เกิดจากแรงของการกระทำเป็นกรรมกรทุกชนิ
"มันก็เหมือนมูลค่าของเพชรและมูลค่าของทองคำที่มันศักดิ์สิทธิ์ได้ในตัวของมันเองนั่นแล"

"ใช่" 
        "มันเหมือนกันหมดต่างกันแต่เพียงวาระกรรมและหน้าที่เท่านั้น เหมือนคนคือเหมือนคนงาน"เหมืองแร่ถ่านหิน"ทำงานเป็นอาทิ  ชนิด"กะกลางคืนกะกลางวัน และกะคาบชั่วโมง"
         ลอร์ดมิคานเชื่ออย่างนี้ และการที่ลอร์ดมิคานต้องไปหาดื่มหยาดน้ำค้างที่"เทือกเขาโอเ
ฟ"นั่น   ก็จัดเป็น"แรงงาน"ด้วยเช่นกัน  เ พราะมันมีค่าของแรง  ค่าของความพยายาม และค่าของความสุข และค่าชองแรงต้านทานและมันมีโมเมนตัม(momentum ) และเพราะมันมีการเคลื่อนที่ งานหาหยาดน้ำค้างที่ลอร์ดมิคานทำไปจึงจัดว่าเป็นกรรมาชีพชนิดหนึ่งเหมือรคนเก็บกวาดขยะเทศบาลที่โนวานั่นเอง แต่ลอร์ดมิคานทำที่เทือกเขาโอเฟ  ด้วนการเก็บหยาดน้ำค้างเพื่อดื่มกิน  งานนี้ก็คือแรงงานเหมือนแรงงานของคนกวาดขยะที่เทศบาลโมวาทำนั่นเอง
       ต่างแต่คนงานที่โนวาได้เงินเป็นค่าจ้าง  ส่วนลอร์ดมิคานได้น้ำค้างกินและมีความสุขใจแทนและน้ำค้างที่ตนเองได้ดื่มกินได้เพราะน้ำค้างที่ตกที่เทือกเขาโอเฟนั้นมันไม่ได้วิ่งมาเข้าปากลอร์ดมิคานถึงที่ดตียงนอนเองก็หาไม่



าสสสวววทมททททมมมท

        ส่วนเรื่องการทำรักแฟนตาซี(fantasy) แบบนิยายรักแฟนตาซี"โอ้ย"ลอร์ดมิคานช็อบ ชอบอย่าบอกใครเทียว มิได้เป็นมนุษย์หยิ่งยโสโอหังหรือทรนงแต่ประการใดๆ
          แต่กับผีแฟนตาซี( ghost  fantac y )นี่ไม่เอา  เพราะมันเขย่าขวัญตนเองและคนดูะพบเห็นเข้า เดี๋ยวมันจะไม่ดี  และถ้าทำกับผีกับศพกับสัตว์"นี่ก็ไม่เอา"อันนี้เพราะมันอปกติ(abnormal )และมันผิดกฎหมาย และจรรยาบรรณของมนุษย์ชาติ
      ส่วนนิยายหนังที่มีแดรกกิวลา(Dracula )และแฟรงแกนสไตล์(Frankenstein )เป็นพระเอกหรือพระรองแบบนั้น พอทนดูได้โดยเฉพาะนั่งดูกันสองคนกับเพื่อนสาวๆหรือกับผู้ชายที่ไม่เป็นลักเพศในโรงหนังเอกซ์(x=extra=exceptional) หรือยู (u=usual =common=unconditional )
     "    แต่ไม่เอกซ์วาย (x y)  โจ่งครึ่มเปลือยหมดนี่ไม่เอา" ที่จัดว่ารู้ด(ru de) สุดขีด"นี่งด"
         แต่กระนั้น  ลอร์ดมิคานชอบดูหนังมนุษย์หมาป่า แม้กระนั้น อีก  หนังประเภทนกเค้าผีคล้ายที่เกาะกิ่งไม้ตามบ้านร้าง แบบตอนกลางคืนกลางแสงจันทร์เดือนมืดมิดทะมึน กลางกิ่งไม้ใหญ่ร้างในปราสาทร้าง ที่ศิลปินมโนวาดไว้หรือเรื่องจริงเชิงสัจนิยม(realism) และมีเมฆสีหมอกดำคล้ำปนขาวหรือมืดแบบดำปิดปี๋

      หรือ ฉากนกกาผี(epitaph )เฝ้าสุสาในป่าช้า ในตอนวัน ก็ชอบดู  เพราะมันวิเวกและแปลกดี และตนเองเคยพบเห็นตลอดเวลาในกลางคืนและกลางวันเพราะตนเองมีขีวิคชอบปลีกวิเวกอยู่แล้วเป็นธรรมชาติที่อยากดู  ฉากนั้นๆก้อเพราะว่าเราจะได้รู้อะไรล่วงหน้าว่าจะมีอะไรพิเศษจะเกิดขึ้นจะได้ป้องกันตนเองได้  คือวิ่งหนีวิ่งหลบหลีกไปก่อนที่อันตรายจะมาถึง หรือต่อสู้กันตามลีลาของมนุษย์อย่างงี้ลอร์ดมิคานก็โอเค(OK) เลย