(6000)
เรื่อง
ลอร์ดลิชต์เลย์
ตอนที่22
"เห็นพระอาทิตย์มาดื่มน้ำอมฤตที่เทือกเขาโอเฟในเวลากลางวัน"
(จงอ่านด้วยวิจารณญานชนิดเชิงบวกคือ"ไม่น่ากลัวที่เห็นพระอาทิตย์มาเลียน้ำค้างและดอกไม้บานในยามเช้า")
แล้วจะพบว่า "วิทยาศาสตร์คือธรรมชาติที่มนุษย์สามารถเรียนรู้ได้ด้วยตาตนเอง โดยไม่ต้องพึ่งพาอุปกรณ์ใด ๆ ทั้งสิ้น แม้แต่สมุดและปากกา และนอกเสียจากเป้าหมายการทดลองเฉพาะของนักวิทย์เอง เช่นทดลองระเบิดนิวเคลียร์และระเบิดที่ซื่อสัตย์อื่น"
ที่ตอนนี้เรียกว่าเป็นมุมมองของลอร์ดมิคานที่จะพยายามเพื่อจะได้ปลุกมโนทัศน์ตัวเอง ให้ตื่นขึ้นจากความโง่เขลา และความมืดมิด และภวังคจิตที่เชื่องช้าอยู่เป็นเนืองนิจหลังจากการอิ่มข้าวและขนมปังปอนด์ย่างทุกมื้อ
และในโอกาส สืบต่อ ๆ มา
ลอร์ดมิคานจึงยืนยันได้ว่า : วิทยาศาสตร์คืออุปกรณ์ที่มนุษย์จะใช้ชนะธรรมชาติได้ แต่มนุษย์ก็หาขนะมันได้ไม่ เพราะธรรมมีแต่ตัวและความว่างเปล่าที่ยิ่งใหญ่ได้ แต่มนุษย์ค้องใข้เงินลวทุนมหสศาลเพื่อแสวงหาความจริงในมันได้
แต่วิทย์ในสิ่งที่มนุษย์ทำ มันก็เป็นกุญแจดอกสำคัญสู่ความยจริงที่ไม่เคยพบเห็นมาก่อนได้
"โลกนี้อันที่จริงคือ"ในภาวะแห่งความเป็นจริง" ที่มีอยู่ทั้งในการคาดเดา และทั้งที่มีและจะมีอยู่จริง จะพบเห็นมันด้วยการทดลองเท่านั้น มิใช่เพียง"มโน"(คิดเอาเอง) ด้วยการเอาโลกไปมุ่งสู่ภาวะทำได้คิดได้ และใช้ได้ ในตัวมันเอง เรามิใช่เอาแต่ฝัน คิดแต่ทฤษฎี และไม่เคยใช้มัน และพูดคุยสัมผัสกับธรรมขาตินี้อย่างทรนง
ความสงสัยนานาชนิดเกิดขึ้นก่อน. จากการการครวญคิด. นั่นก็คือว่า:-
เปรียบเทียบกับคำว่าหลุมที่ดำๆในที่นี้ "มิใข่เครื่องเพศของสตรี ที่ชายอาจจะแสวงหาเพร่ะมันเป็นของคู่กับชาย
ที่มันก็สีดำๆมืดๆและปกปิดเป็นนิจนั้นก็หาไม่
มันในที่นี้คือเสมือนการพบ"หลุมดำ"(black hole)ในอวกาศที่ ข้าเข้าใจน่ะ!ซาตาน"ซิโนารา" ผู้เฝ้าสังเกตเรื่องหลุมดำได้พูดขึ้นมา เมื่อค่ำเย็นวันศุกร์ที่หุบเขา"วาเลย์"" ณ ปราสาทตุกตายา
แน่นอน!
ไม่ว่าอะไรสมัยนี้ มนโลกนี้
ถ้าจะให้รู้ดีขึ้นไม่ว่าอะไรทั้งนั้นให่เดืนก้าวล่วงไปอีกกว่านี้
ก็ต้องใช้ "เงินการลงทุน" และวิสัยทัศน์ที่แม่นมั่น ในปัจเจกโพธิบุคคล
และความเชื่อมั่นเมื่อมีแล้ว
แล้วจึงจะรู้อะไรเพิ่มเติมได้อีก "ก็นั่นงัย" ความก้าวหน้าแห่งมนุษยชาติ จึงได้ถูกค้นพบสิางใหม่และใหม่กว่าขึ้นมา อย่างชนิดไม่หยุดยั้ง และทุกชีวิตในโลกจึงได้มีโอกาส พบกันครึ่งทางได้แสนที่จะง่ายเหลือในปัจจุบัน นี่คือ"อีปิโสด"(episode )ของฉากทัศน์ในโลกยุคปรัตจุบัน
เพราะว่าการไปท่องอาวกาศมันไม่สามารถทำได้แบบ "โบกมือโบกรถ" ขอไปด้วยคนได้แบบคนนิยมในลัทธิ"ฮิชไชเค่อร์"(hitchhiker)น่ะ
ใช่!
สรรพสิ่งอย่าง ต้องมีเงินมีการลงทุน มีการสรุป. มีค่าคาดหวัง เมื่อคิดจะทำอะไรสักอย่งที่ต้องมีความพร้อมและแจ่มใสเสมอ แม้จะกินอาหาหารเข้สักมื้อก็จำเป็นต้องทมี"เซอร์เวียต(serviettes)
ในเรื่องวิทย์โดยทำนองนี้มันจึงจะเวิร์ก(work) มันไม่เหมือนอดีตสมัยก่อนแล้ว ที่แรงงานใช้แรงเกวียนขับเคลื่อนได้ด้วยพลังจลน์(kinetic movement )แรงอันเป็นของที่เกิดจากขาของควาย
นักวิทย์เคยคิดแบบทดลองอะไร เล่นๆแบบเล่นแล้วจึงคิดทฤษฎีและทดลองแบบเล่น ๆ กันบนโต๊ะเรียน หรือบนโต๊ะสนุกเก้อร์(snooker)
เดี่ยวนี้ตรงกันข้ามคิดอะไรได้ ก็จะโยนหรือโอนโยนเข้าเป็นกิจกรรมธุรกิจแบบโปรดักติวส์หมด(productiveness) เลยทดลองกันเลย ใช้มันเลย ขายกันแลยแบบ จะ๊ๆ ขายมันเลย และ"ลัทธิทันทีโมเมนตัม(suddenl y -turn of momentum theory) ประดิษฐ์ขึ้นมาโดย"ซาตานซงโยริตา""
ที่ปรึกษาของ ซาตาน"ซิโนรา" ที่ชื่อ"ซิลิคอต"ผู้มีร่างคล้ายหมาและมีหัวคล้ายหมาแต่ร่างคล้ายมนุษย์แมวที่อยู่อาศัยเหมือนรังแมงมุม แต่ดำรงในมิติภาวะของคน
คือท่านซาตานซิลิคอต แกคิดจะกินและก็กินขนมปังกับเนื้อด้วยมีด(gartc)เฉือน แทนการใช้ปากและลิ้นแบบหมาแทะกินอาหารของมัน พร้อมเจ้านายบนโต๊ะและใต้โต๊ะตามแต่มันถนัด
คือท่านซาตานท่าผู้นี้ แกได้ยินและยืนยันมาว่า
เดี๋ยวนี้! มัน มีการสร้างเงินสร้างรายได้กันอย่างฉกรนจฺ์เลย โดยมุ่งเป้าทุกอย่างไปที่กำไรและดอกเบี้ย ทำทุกอย่างให้เป็นสิ่งที่มีค่าแบบรีไซเคิล(recycle)และที่มันมักจะมี"ออบเจก"( object)ในการคิดค้นคว้า ทดลองในทางวิทย์ออกมา
ซึ่งสิ่งเหล่านี้ไม่จำเป็นต้องเป็นการกระทำโดยคนมีพื้นเพเป็นนักเรียนจากสายวิทย์เสมอไปที่ทำได้สายศิลปะสายคำนวณสายทั่วไปทำได่หมดไม่มี"เจตนารมย์หึงหวง""
ซาตาน"ซิงโยริตา"พลั้งออกมาว่า
ถ้านักศึกษาทั่วโลกจากทุกๆจุด บนบรรณาภิภพ เมื่อจบออกมาด้วยทฤษฎีใหม่ที่คิดค้นพบอะไรได้ เพื่อขอจบหลักสูตรรับปริญญา เพื่อขอขอจบการศึกษาสมบูรณ์ เมื่อได้จบมาแล้วได้ไซร้
และได้นำสิ่งที่คิดได้ในห้อง"เลกเชอร์"(lecture)มาทำเป็นผลิตภัณฑ์เพิ่อตลาด เพื่อผลิด โดยให้นายทุนพาไปผลิตเป็นสินค้าเพื่อการบริโภค
มนุษย์ซาตานที่มีหน้าคล้ายหมา ที่ชื่อ"ชิลิคอตผู้นี้ ที่มีเชื้อสายชื่อนามสกุลโคตรเดียวกันมา70 ชั่วโคตรแล้ว กล่าวขึ้นอย่สงแข็งขัน
ท่าน มีชื่อและนามสกุลซ้ำกันว่า "ซิลิคอต ซิลิคอต" โดยท่านผู้นี้เชื่อว่า "โลกนี้จะสะดวกขึ้นกว่านี้ได้มิใช่น้อย ถ้าทุกคนคิดได้อย่างนี้
และท่านยังเชื่อว่าต่อไปอีกว่า
ระเบิดนิวเคลียร์ จะมีการซื้อขายกันในตลาดนัดที่ซอย"ปาคีโคยา"ในเมืองมิคานนี้แน่นอน อ๋อมัรเป็นนิวเคลียร์เพื่ออิ่มท้องเท่านั่นมิใช่เพื่อนิวเคลียร์มหาประลัย เสมือซื้อหอยมาทำอาหารเพื่อกินมิใข่เพื่อมาแพร่เชื้อไวรัสโดยเจตนา เพื่อให้ทุกคนล้มตายอย่างเลือดเย็น เช่น โรคระบาดโกมาร์ที่มีไวรัสเกิดจากเชื้แไวรัสอาหารทะเลและนกที่คนชอบทำผัดเผ็ดกิน ที่โรคนี้ตอนนี้หายขาดไปแล้ว
ใช่! มันเป็นนิวเคลีย์เพื่อสันติ
สันติภาพถาวรในอนาคตต้องมีแน่นอน ถ้าไม่มีก็จงเริ่มคิดให้มันมีก้อแล้วกัน มันไม่หนักหนาอะไร!ที่จะฝืนคิด
เหมือนๆอย่างการขายเป็ดขายไก่ย่างตามถนนในยามดึกฝนตกโปรยที่ตลาด"เมจา"ที่เขาจะหาซื้อวัตถุดิบด่านแรกก็มาจากตลาดนัดที่นั้น ที่พ่อค้าแม่ค้าชำแหละและล้างวางขายกันแล้ว เพื่อขาย เป็นแต่เพียงรอการถูกซื้อไปทอดน้ำมันแล้วกินแบบสดๆได้ทันที ของคนมีรสนิยมชนิดลิ้นเพชร
และท่าน"ซิลิคต"ยังได้กล่าวต่อไปอีกว่า
อาทิ เช่น การพบดวงจันทร์แล้วก็ต้องจัดทัวร์ไปดวงจันทร์กันเลย อย่างมิรอช้า รอไม่ไหวแล้ว
"ทุกคนกำลังปวดท้องฉี่!ทุกคน คืออยากเห็นอยากดูเพ่งพิศดูดวงจันทร์ว่ามันยังงัย บนโลกของดวงจันทร์ใบนั้น
จนชื่อของท่านซิลิคตถูกรู้เพราะท่านเชื่ออีกว่า:-
"ว่าในอนาคต ดวงจันทร์คือที่เที่ยวอันมหัศจรรย์ของคนในโลกนี้ก็ได้ แทนการเที่ยวทะเลสีครามเงียบๆ ในวันหยุดสุดสัปดาห์ และแอบมองจันทร์คล้อยที่"ยุรยาตร"ไปและอมปุยเมฆสีดำที่ชายหาด"ริเวรา"ในยามดึกสงัดอย่างชนิดเดินคลอร์เคลีย เคลิ้มไปกันเป็นคู่แบบคนเดียว
ที่ลูกสาวสวยเป็นคนเล็กของท่านซิลิคต ที่ชอบประพฤติอย่างนี้ก่อน10ปีที่จะๆด้แต่งงาน
กัน ชื่อบุตรสาวของท่านหญิงซาตานบุตรสาวคนเล็กแห่งท่านซาตานซิลิคตคนล่าสุดนี้ ท่านหญิงชื่อว่ส"เอลิก้า"ส่วนเพื่อนขายสามีในวันต่อมาต่อมาท่านไมาปรากฎนาม
ผิว่า!
แต่นกนางนวลไม่เคยถูกผัดเผ็ดเหมือนกับสถานะลอร์ดของมิคาน ตามกติกามิคานอันศักดิ์สิทธิ์ ที่จะไม่มีการผัดเผ็ดนกนางนวลได้เพราะนกนางนวลเป็นสัตว์อนุรักษ์ของทะเลสาป"ยูยี่นิวา" มาแต่นิรันตกาลสมัยโป้น
เฉกเช่นชีวิตของทุกลอร์ดและลอร์ดมิคานก็จะถูกผัดเผ็ดไม่ได้เช่นกัน เหตุศักดิ์สิทธิ์นี้เกิดได้เช่นไรจะบอกต่อไปในชั่วโมงที่ว่างจากความฝันต่อเนื่อง
ของ"สมาชิกสภาเล่าอดีตแห่งมิคาน"จะได้กำหนดให้ลงตัวสบายอารมณ์อีกครั้งหนึ่งเป็รตัวหนังสือ
มันเป็นเทวสิทธิ์ที่น่าอิจฉา แต่เทพเจ้าสวรรค์กำหนดมันมา พวกทาวและกรรมกรและนางไม้พึมพันกันแบบเงียบๆ แต่ไม่หวังเพศบำเรอจากท่านนลอร์ดขุนนางใดๆแต่อย่างใด เป็นสัจจะ