วันจันทร์ที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2564

การวินาศกรรมคฤหาสน์เชมัวร์

35
การวินาศกรรมคฤหาสน์เชมัวร์


35
การวินาศกรรมคฤหาสน์เช
มัวร์กับโจร"ดามุก"


ประกาศคำว่ามุกดาเปลี่ยนเป็น"ดามุก"ด้วยเหตุผลลทางวรรณกรรมตั้งขึ้นเป็น

เจ้าของลิขสิทธ์ผู้ประกาศในฐาที่รังสรรค์นิยายนี้
ผู้เขียนประกาศ
เคยกล่าวมาแล้วบ้าวตอนก่อน เหตุผลที่กล่าวซ้ำซากได้เพราะนิยายเรื่อง
เป็นนินายเรื่องยาวเป็นเหตุผล



กริ้ง....ดิ้ง กะ ด็อง ตามด้วยเสียงของAndy Williams of "Where do I begin "และเมื่อ 2 นา
ทีผ่านไปเสียงเรียกเข้าจะเงียบลง เพราะตั้งเวลาไว้อย่างนั้น
ส่วนโทรแบบตั้งโตะ๊ไม่เึยได้ใช้นอกจากรถพยาบาลAmbulance และเรียกตำรวจ



        เสียงรับสายนี้คุณ"
วิ"ตั้งไว้ตั้งแต่ยังไม่ตายและชาร์ไม่นึกอยากเปลี่ยนมัน เพราะขาร์ถือว่าการตายของ"วิ"เป็นการพักผ่อนจากควาจริง




เมื่อโทรมือถือดังขึ้น 
เสียงรับไม่มีคือติด"ไม่ว่างตลอดกาล เพราะตั้งค่า ฝากข้อความโทรกลับไว้
"ไม่ใช่เห็นแก่ตัว แต่ที่นี่สภาพมันบอกเหตุ  อนึ่ง
เมื่อมีโทรเจ้ามาจะมีก็โฆษณา และคนโทรผิด
และโทรหาขายของ
ที่
สำคัญเมื่อเรา(ขาร์และวิ)พลอดรักกันไม่อยากให้ใครโทรมากวน
ตอนนี้
     ชาร์ไมมีเวลาพอจะรับสายมันทันที เพราะที่คฤหาสน์เป็นคฤหาสน์
เงียบเหงา
เหมือนคฤหาสน์ผีสิง


ชาร์ต้องเฝ้าระวังหลายเรื่อง และตัวคนเดียว และวัยสนธยากาลต่างหาก


เจนเขามาทำงานเฉพาะกลางวันเท่านั้น

ชาร์ปรารภว่า

"ไม่ได้เห็นแก่ตัวที่ไม่รั
บสายโทรศัพท์ทันที
แต่เหตุจำเป็นบางอย่าง

และที่นี่บางครั้งมีผู้ไม่ประสวค์แอกนาม(unsolicited call)ชอบกดมาและมีคนชอบโทรมาเล่น


เสียงเพลง
ชาร์ชอบเพลงมากแม้จะโซลิแตร์"solitair"(โดดเดี่ยว)เป็นสภาพ

"When the life begin of Andy William  "

      ชาร์ชอบเพลงนี้มาก รองลงมาJohn Lenon of "Beatle" and Simon Karfunken the" sound of silence.

ชาร์มีรสนิยมสูงกว่านั้นตามปกติมิใช่ชอบแต่popular music เท่านั้น เพลงย้อยนยุค

ชาร์ชอบ" วิ"ก็เช่นกัน
ข้อสังเกตุถ้า คุณวิชอบเพลงอะไร ชาร์ก็ชอบเพลงนั้นด้วย




เพลงclassicและ Piano 
สมัย renaissance ยุคฟื้นฟูศิลปและวิทยาการ

ก็ชื่นชอบเป็นหลักทีเดียว



แน่นอนอาหารเครื่องดื่มต้อง อาหารว่างต้องเพี้ยบ ก่อนที่ชาร์จะฟังเพลงพวกนี้ได้ 

เหล้าไวน์นิดหน่อย
ชาร์โปรดไวน์แดงเป็นพิเศษ และไวน์แดงจึงมีติดโต๊ะที่คฤหาสน์ที่โยนใส่พวงกุญแจประจำตึ
กนี้ประจำ

ที่มีไวน์ประจำเพราะ
ตัวกระจ้อนยอดขึ้เสือกและขี้ลักไม่กินไวน์แต่
ของอื่นเช่นเนื้อหมูแฮม ของกินเล่นผลไม้ในและนอกฤดูกาล


อื่นๆเผลอไม่ได้ เจ้าตัวนี้จะดอดมาตรวจชิมร่วมด้วยเสมอเมื่อเผลอ




ของกินเล่นดังกล่าวจึง ขาดตอนไปบ้าง



คนใช้ไม่ได้รับอนุญาตให้เข้ามาบริเวณนี้ตลอดกาล ฉะนั้นชาร์จึงต้องทำเองทุกอย่างเขตนี้ของตึก

แม้มีคนใช้แล้วก็ตาม 
ผีคุณวิไม่ได้หึงหวง แม้คุณชาร์จะอื่นหลังตน
ตายลง




แต่ธรรมเนียมของคฤหาสน์นี้เป็นอย่างนี้เท่านั้นเอง



ตราบเท่าที่ชีวิตยังอยู่ก่อนตาย
รสยนิยมดื่มไวน์
ของคุณวิต่างไป วิชอบไวน์ขาวและไวน์ชมพูจากสเปนส่วนชาร์ชอบไวน์แดงจากฝรั่งเศสที่ชาร์เคยไปรับจ้างเก็บองุ่นใ
นช่วงฤดูร้อนและปิดเทอมการเรียน



        จะมองไปแล้วที่คฤหาสค์นี้เป็นบ้านคนรวยหรือเป็นบ้านAristocrate or bourgeois(คนรวยระดับกลาง หรือพ่อค้ามี
ฐานะ)หรือ capitalist(นายทุน)



แต่ตอนนี้คนมองเชมัวร์ผิดถนัดและอ่อนประวัติศาสตร์ชุมชนเชมัวร์อีกด้วย "ถ้าใครขืนมองอย่างนั้นอยู่อีก"

ตอนนี้เขมัวร์เป็นบ้านคนยากไร้ชั้นเยี่ยม
ดูจากรายได้ที่ชาร์ใช้ดำรงชีพ เป็นหลัก
เคยมีคนถามว่า

"ชาร์คุณรวย"

ไม่"ชาร์ตอบ"
สิ่งที่มีและเห็นเป็นอดีต

มันเป็นเครื่องทรงเครื่องแบบเท่านั้น

ชาร์แต่งตัวสวย
จึงมีคำถามเกิดขึ้นอย่างนี้

คนมีหรือไม่มีเดี๋ยวนี้ไม่ได้ดูที่กางเกงและรถแต่ดูที่บัญชีธนาคาร "ชาร์กล่าว"



"เป็นคนจะให้เดินแก้ผ้ามารับแข
กงัย ! เมื่อกระเป๋าไม่มีเงิน คนมิใช่หมาแมวนะ"


สมัยนี้เมื่อเงินติดตัวไม่มี
ก็แต่งตัวดีและสะอาดและสวยได้


ชาร์ค้อนคนสงสัยถาม

"ทุกคนจึงเงียบลง" และยอมรับว่าจริง

"คนเราจะฐานะรวยมิใช่เสื่อผ้าและรถที่มีอยู่ แต่บัญชีโน่นจะพิสูจน์ว่าคนรวยมีหรือเป็นคนจนได้ และเมื่อจนล


งก็ไม่ต้องแก้ผ้าเดินนิหนา"

ทันทีที่ชาร์พูดประโยคนี้จบลง


ทุกคนพร้อมกันเงียบกริบ




สิ่งที่มีที่ชาร์และคฤหาสน์เชมัวร์
ที่เห็นเป็นเรื่องของอดีตทั้งหมด 
รวมทั้งคฤหาสน์
อดีตใช้เป็นบ้านที่มีอันจะกินอันดับสูงสุดของชุมชนนี้มาก่อน

แต่ปัจจุบันเป็นอันดับสงสุดของบ้านคนจนตอนนี้


มันคงแต่ซากอดีตเท่านั้น คฤหาสน์นี้จึงเป็นที่หมายปองโดยโจร"ดามุก"เป็น
ที่สุดตอนนี้ และนิยายนี้เกิด เพราะดามุกโจรนี้เอง
"ชาร์กล่าวยืนยัน"
และกล่าวอ้างเปรียบเทียบต่อไปว่า:


   
         มันเหมือนบ้านเก่า ปราสาทเก่าๆ ตึกเก่าๆ 
ในฝรั่งเศส ดูเหมือน
แล้วรวย  ใช่อดีตรวยจริงแต่ปัจจุบันไม่แล้ว

แต่ว่าในอดีตสมัยฝรั่งเศสเป็นจักวรรดิ แต่รุ่นหลังเจขามีแต้บ้านใหญ่ส่วนปัจจุบันเขาจนลง รักษาระดับจึง "เป็
น อยู่คือ"ได้เท่านั้นหลังการเปลี่ยนแปลงการปกครองของฝรั่งเศสแล้ว




ตอนนี้สภาพคล้าย"haunted house" บ้านร้างแต่ยังมีเจ้าของยึดครองต่อไป

ที่ฝรั่งเศสนักท่องเที่ยวชอบนักที่เป็นสภาพนี้ เพราะจะได้เพิ่มมีทัศนวิสัย
สูในการมองเพลินและพักหย่อนใจสำหรับเขา(นักท่องเที่ยวสมัยใหม่)ได้


ด้วยเหตุนี้เอง
ต่อมาเช
มัวร์จึงถูกอุทิศให้สาธารณะหลังชาร์ตายลเพราะไม่มีทายาทเป็นบุคคลสืบต่อไป
ส่วนมิเมย์และหิมะกฎหมายไม่ยกฐานะให้เป็นบุคคลได้ตอนนี้ แม้จะเป็นเมียของชาร์ก็ตามโดยพฤตินัยและสภา
วะก็ตาม
พินัยกรรมดังกล่าวคุณ วิทายาทคนสุดท้าย
แห่งต้นตระกูลนินิได้กระทำไว้ก่อนตาย เป็นในรูป"ทรัสต์"













      เนื้อแห้ง หมูแฮม เตัสทพ้อทเพื่แเึี้นวเบน ชาร์เตรียมตมีไว้พร้อม "กาโต" มีดคมสะอาดและเขียงหั่นปราศจากฝุ่นและจากสนิม

มิเมย์และหิมะไม่เล่นไม่แตะ เพราะเขาแสนรู้

บ็อกเซ่อร์(Boxer -Boxcher
)หมาตัวโปรดของคฤหาสน์เชมัวร์นั้น

เตรียมเห่าและกัดถ้าจำเป็น

ทุกเมื่อ

ๆมีแขกไม่ได้รับเชิญเข้ามาคุกคามบุกรุกเข้ามา

ในอาณาบริเวณคฤหาสน์ในทุกๆกรณี เพราะมันได้รับอนุญาตจากตำรวจ ให้ช่วยคุ้มครองทรัพย์สินและเจ้าของบ้าน มันถูกฝึกมาอย่างดีโดยตำรวจที่เชนัวร์

การก่อร้ายของแผนดามุก
อย่างง่ายมากแต่ผลร้ายมหาศาล และอนันต์ รวมถึงการทำลา
ยเหยื่อ ทั้งที่เป็นกลุ่มเป้าหมายชนิดเจาะจงและไม่เจาะจ
งโดยเฉพาะชีวิตของ"ชาร์"ให้ชาร์จบชีวิ
ตลงได้อย่างง่ายดาย

ชนิดไม่มีหลักฐานจับได้ เมื่อมีการสอบสวนเกิดขึ้นหลังการตายของ"ชาร์"ชนิดหาสาเหตุไม่พบ


เช่น การนำสัตว์พิษมีงูเห็บ ยุง แมงมุม หนอน เชื้อโรคไวรัส แบคทีเรีย ผีเสื้อ แมงปอ และอื่นๆอีกและเห็ดพิษและวัชพืชทำลายยากมาปล่อยทิ้งเอาไว้ในพื้นที่เอเคอร์และคฤหาสน์
ที่ชาร์มีอยู่

ก็ปรัชญาของดามุกมีว่า
ในมุมมืดเขาคือใหญ่กว่าฟ้าและดิน เป็นอธิปไตย์
แต่ในยามที่สว่างเขาเป็นเพียงขยะวัสดุเหลือใช้ชนิดหนึ่งเท่านั้นและเป็นเศษธุลีที่ไม่มีค่าอะไรในสังคมนอกจาก เขาเพียงคิดว่า"ได้กิน นอน เสพ กระชับองค์กรของเขาอย่างโซ่ตรวนที่แข็งแกร่งและเชื่อถือได้"ก็พอในวันหนึ่งๆตราบเท่าที่เขายังหายใจอยู่
  
       จากปรัชญาของพวกดามุกเชิงลบดังกล่าว ชีวิตของชาร์จึงไม่มีค่าอะไรสำหรับพวกเขา เกียรติ ประวัติ ความเป็นปัญญาชนภูมิธรรม สิ่งมีค่าเฉพาะหน่วนตนของขาชาร์นั้นเป็นสิ่งไร้ค่าและความหมายไปหมด พวกนี้ไม่รู้คุ
ณและคุณค่าทางกฎหมายในที่มืดเลย หรือในที่สว่างที่ไม่มีคนเห็นและพลาดสายตาคนไป "เขาชอบนัก" ส่วนในมุมมืดไม่ต้องถามว่า "เขาจะพิสดารอย่างไร" ชีวิตเขาทุกคนเหมือนนิยายแฟนตาซี
  และพวกเขาไม่คิดว่า ตนเองจะโผล่มาจากโลกมืดนี้
ได้ 
เพื่อได้เป็นเป็นคนมีฐานะและทรงเกียรติ เขาไม่
รู้จักนรกสวรรค์
"แม้ที่จริงเขาก็มีสิทธิจะรวยและทรงเกียรติได้ถ้าเขามีคุณธรรมอันเป็นอุ
ดมคติสูงสุดของมนุษย์ (summum bonum)ได้ไม่ยากนักถ้าเขาจะพยายามสักนิดเดียวในบนโลกเลอเซ่อแฟร์(Laissez faire)แบบนี้" นั้นคื
อเอกลักษณ์ของเขา"ดามุก"เชิงลบ

ถ้าสงครามเกิดขึ้น เขาจะเปลี่ยนชื่อป้ายถนนตรอกซอยเป็นชื่ออื่นเสีย เพื่อให้ทหารหรือคนหลงทา

ง คนสัญจรที่และทหารที่มารบเดินทาง
ไปไม่ถูก ไปผิดเป้าหมาย
"สมาชิกของดามุกคนหนึ่ง
กล่าวยืนยัน"

เขามีความต้องการของตนเอง
อย่างเป็นหน้าที่หลัก ชนิดไร้เหตุผล

แม้หายนะคือความแพ้จะเกิดหรือไม่เกิดเขาไม่คำนึงเขาก็จะทำเพื่อไม่ให้เกิดความสงบและศีลธรรมอันดีงามในทุกสถานการณ์ของสังคม และเขามิใช่คนบ้าเพราะ"เขารู้จักเจ็บปวดรวดร้าวและเขินอาย หวง"

"เขา"

"ขอให้ได้ทำ นั้นคือภักษาและอาหารใจและชีวิตของเขา เพราะชีวิตเขาดำรงอยู่ได้ด้วยยอดหญ้าและกบย่า
งเพียงตัวเดียวต่อวันเท่านั้นก็พอ

เขาไม่คิดว่าพวกเขา
จะได้นอนแอร์ นอนฟูก4คูณ6เมตรกว้างยาวฟูก24นิ้วหนา และใช้ตู้เย็นและเครื่องซักผ้าและทีวีสี ตู้แช่แข็ง มีรถขับเคลื่อนวิ่งไปมาสะดวก เหมือนอย่างที่ชาร์และ
คฤหาสน์เชมัวร์มี
ในขีวิตนี้" 

นั่นคือปรัชญาแม่บทของเขาละ "ดามุกเ"ชิงลบ

และดามุกจะชนะขีวิตไ
ด้ คือ
"ได้กินเสพนอนอย่างราชาในที่สว่างและที่แจ้ง
ได้ถ้าเขาทำตามปรัขญาของเขา"


อันนี้เราเรียกว่าเป็นจิตวิยาเชิงลึกและพิสดาร
ของดามุกเชิงลบนั่นเอง




วันเสาร์ที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2564

เชมัวร์ที่รักจ๋า

34 อันที่จริงติดคุกมิใช่ของดีเสียเท่าไหร่ใ

            
ประกาศผูเขียนด้วยเหตุผลทางวรรณกรรม ขื่อโจร"มุกดา"ของนิ
ยายนี้ให้ใข้ว่า"ดามุก''แทนตั้งแต่ตอนนี้เป็นต้นไป
ตามสำนวนที่วิวาห์"เมียชาร์"เขียนไว้ที่ชาร์ได้ตรวจพบใหม่ที่ตู้นรภัยของคุณ" วิ"
หลังเปิดพินัยกรรม....

 

 

 


        อันที่จริงติดคุกมิใช่ของดีเสียเท่าไหร่ แต่เมื่อมันดันมาติดก็ไม่รู้ทำอย่างงัยพี่"สุสองพูด"

 

ชาร์เองไม่เคยติดคุก จึงได้อารมณ์คุกจากคนอื่น
ที่เคยไปติด วิธีชาร์ทำตัวมิให้ติดคุกก็คือ
การคิดบวก อย่าคิดลบ คิดแบบนี้ได้คง
จะไม่มีคุกใดในโลกนี้ถามหา แม้โดนติดคุกการเมือง อันนี้ แม่ของชาร์บอกมา

"เพราะแม่ของชาร์ท่าน ท่านมีเพื่อนเป็นขุนนางๆๆเหล่านั้นเคยให้ทักษะชีวิตแก่แม่ของชาร์ขณะมีสั
งมกัน"
"ชาร์ากล่าวสรุป"

 


อย่างไรก็ตามชาร์ไม่ชอบติดคุกเพรา
ะ มันเหมือนนกที่ถูกจับใส่กรงทอง


การสูุญเสียความงามแห่งเสรีภาพโดยสิ้นเชิงคือการได้ติดคุก


และเป็นของน่ารังเกียจ ถ้าจะต้องติดคุก
ชาร์มั่นใจอย่างมีสติที่ดีพอที่จะไม่เป็นคนติดคุก
ในชาตินี้  การติดคุกคล้ายแปรสภาพเป็นคนครึ่งผีครึ่งคน

"มันเหมือนกับ ผู้หญิงที่ถูกจับมัดโดยพลการ
แล้วโดนข่มขืน"


แม้ชะะตากรรมของชาร์เอง
ที่มีพิพาทเรื่องมรดกเลือดที่ล่อแหลมต่อการเกิดการปะทะอันเป็นเหตุให้ชาร์อาจเข้าคุกเพราะเหตุบันดาลโทสะ


เพราะคู่พิพาทในมรดกเลือดของชาร์คุยกันไม่รู้เรื่อง

 

ส่วนเรื่องส่วนตัวของเจนนั้นชาร์ไม่เคยทราบ
มาก่อน และทนายคฤหาสน์ไม่ได้ท้วงติงอะไร ตอนรับเจนเข้ามาทำงานหลังจากที่วิวาห์ตายไป

     ชาร์เชื่อว่าประวัติอาญากรรมของเจนไม่มีแต่คงเหตุบางอย่างแต่มาในขั้นนี้เมื่อชาร์ฟังดูแล้วเจนมีประวัติบ้าง

 

 


   เพราะฉะนั้นการจะมาตัดตอนเลิกสัญญาว่าจ้างเจนจึ
งยังหาควรไม่!ตอนนี้เมื่
อความจริงในตัวเจนมีทราบว่าอะไรในชีวิตเจนที่ผ่านๆมา มีเรื่องราวน่าหวาดเสียวหลายอย่าง
แต่สำหรับตอนนี้เจนซื่อสัตย์ มาทำงานตรงเวลา รู้จักรับผิดชอบ มีมรรยาทและมี"มอราลเลี
ย"ดีพร้อม

ชาร์คิดว่าตนเองโดยอำนาจจะสั่งพักเจนในการทำงานที่คฤหาสน์เสียก็ได้เมื่อทราบเรื่องวาวของเธอหลายอย่า
ง แต่ชาร์หนักแน่นพอที่จะตัดสินใจว่าไม่ทำอะไรลงไปคืออนุญาตให้เธอทำงานด้วยต่อไป


ชาร์คิดดีแล้วจึงตัดสินใจอย่างนี้และงดคิดชนิดไม่ด่วนสรุป

จึงรับฟังเรื่องราวของเจนต่อไปอย่างสนุกสนานกับสังคมประกฤติที่เกิดขึ้นกับเจนและสังคมลับที่เจนพบและโดนมากับตนเอง


      คือชาร์สนใจเรื่องความสัมพันธ์เชิงลบที่เจนประสบมาในเรื่อง"ดามุก"
เพราะชาร์เห็นว่าดามุ
กเชิงลบเป็นมลทินทางสังคมอยู่แล้ว


           แม้ฟังแล้วเป็นเรื่องชีวิตส่วนตัว ของเจนแต่ เป็นมรรยาทที่ชาร์ไม่ควรซักถามเรื่องส่วนตัวของเจนมากไป ตามกฎของมอราเลีย และเมื่อมาคิดเสียว่า "เจนเป็นปัญญาชน"
ก็คงคุยรู้เรื่องกฎมอรา
เลีย


ชาร์จึงถือว่า เจนเป็นเพื่อนคนหนึ่ง แม้เธอยังเป็นสาวคนใช้ของคฤหาสน์นี้ตามสัญญาว่าจ้าง

 

 

         ที่เชนัวร์ชนบท อาณาจักรท้องทุ่งที่ห่างไกลความเจริญ และเป็นท้องถิ่นทุรกันดาร
ใหม่ที่ชาร์นิยามไว้


         สองทุ่ม กบขึ้นเพราะฝนมามากนัก
แม้มันจะไม่ใช่ปรากฏการณ์ที่ลงท้ายด้วย"ญ่า" สองอย่างชนิด
แต่ฝนมันตก น้ำไหลพร่าไปทั้งทุ่ง ตามห้วยละหานมีน้ำเจิ่งนอง ปูนาเริ่มคลานโผล่ออก
มาจากรูเล่นน้ำทันทีที่ 3 ชั่วโมงผ่านไปแบบ
ฝนโปรยชนิดหนักเบาแบบหมาดๆ

 

 


         สองทุ่มที่"เชมัวร์"
คนจับกบออกหากบกัน มากับตะข้องตอกไม้ไผ่สานและไฟส่องติดรัดหน้าผากแบบคนกรีดยางพาราใช้
ในกลางคืน


      ฉมวกด้ามอันเล็กมีด้ามถือ ทีอาชีพหน่อยมีสวิงจับด้ามไผ่ยาวปรับหดยาวได้ขนาด5-10เมตร
ทีเดียว เพื่อตักช้อนกบ 
ถ้าหากพบกบพรอดรักกัน"ตามันสู้แสงไฟ"มันไม่กระโดดหนี
ไปก่อน(กบพรอดรักกันช่วง4-5ทุ่ม)

 

พรานกบเขาสุ่มเดินอย่างจับๆ จ้องๆ ก้าวไปอย่างมีสมา
ธิตามจับดบมากินฟรี ชาร์เองเคยคิดอยากทำแต่ทำไม่ลง เพราะบางครั้งชาร์มีแนวคิด"มังสวิรัติ"เป็นปฐมฐานในการดำรงชีวิตไปจนวันตาย เว้นแพทย์บังคับต้องกินเนื้อเพราะโปรตีนเนื้อเพื่ออนามัยตนเอง จาก"พัวซอง"แปลว่าปลาในภาษาฝรั่งเศส
(ปลาอาหารหลักของมนุษย์ที่ท่านเทพจ้าประทานมาเพื่อให้ชีวิตมนุษย์อยู่รอดมากับโลกเมื่อได้สร้างมนุษย์ขึ้นมาเป็นลูกคนโปรด
แต่บางทฤษฎียันว่า"ไม่ใช่"
จากเหตุความเชื่อและความขัดแย้งนี้ยังหา
ข้อยุติไม่ได้ ปลาจึงเป็นอาหารหลักตัวหนึ่งของมนุษย์จนตราบเท่าทุกวันนี้)

 

"พรานกบสมัครเล่นคนหนึ่ง"
แล้วสองเท้าของเขามีบู้ดกระชับติดน่อง  สมองไหวพริบแน่น
เพราะอันตรายมี งูเห่าน้ำชุมคนเคยตายประจำด้วยงูพิษน้ำที่นี่ บางครั้งพบว่ารองเท้าบู้ตพลาสติกเอาไม่
อยู่ "มันสับฉกด้วยเขี้นวแหลมยาวคม" ที่นี่เซรุ่มงูยังไม่แพร่ ยางูจึงใข้สมุนไพร แทน หมอโรงพยาบาลมีอยู่ห่าง30กิโลเมตรไกลจากเชนัวร์


วัฒนธรรมจับกบกินกบฟรีนี้
จับกันถึงเที่ยงคืนจนตีสอง

 

 


แบ่งกันจับ  บางคนมาก้บลูกสาวเล่นชู้กับลูกสาวเล่นกันเฉยในหนองน้ำที่มีกบอยู่
และทำทีคคลำหากบผลุดๆโผล่ๆ  ทำที
จับกบ บังเอิญคงได้อารมณ์เสพ กีน"เฉย"      

 

ชาร์บังเอิญฟังอยู่ในที่ลับบนคฤหาสน์ปิดไฟ เหลือบไปเห็นและฟังได้ยินเข้า
"เพราะเสียงเด็กดิ้นผ้าถุงหลุด"


"ว้าย! พ่อ"
" เสียงฉุดปล้ำลูกสาวด้วย เพราะในนิเวศน์จับกบแบบนี้ (พบว่าคนจะมีอารมณ์ทางเพศขึ้นมาแบบธรรมชาติ นอกจากคนที่มี"มอราลเลี
ย"เท่านั้นจะฝืนอารมณ์ดิบในเรื่องความกำ
หนัดความใคร่ที่ผลุดขึ้นมาแบบนี้ไปได้  )แต่ทำอะไรกันต่อไปชาร์ไม่รู้ และชาร์ไม่สนใจติดตาม"


แต่ถ้ามีฆาตกรรมค่อยว่า
      
แต่คิดว่า คงมิใช่แผนมุกดา "ดามุก" เพื่อยั่วให้ชาร์เห็นหนังสด
ภาพโรแมนติกบาดตา เพื่อให้ชาร์อยากคิดมีเ
เมียเด็กไว้บำเรอ เพราะชาร์ยังหล่อและแข็งแรงแม้คุณ"วิ"เมียหลวงของชาร์จะตายไ
ปนานแล้ว 
          แผนนิ่มนี้พวก"ดามุก"ชอบนัก
      เพราะถ้ามันเป็นไปได้พวก"ดามุก"จะได้ครอบครองเชมัวร์คฤหาสน์สบายไปเลยเพื่อ
เสพสุขหลายชั่วโคตรและสร้างตำนานที่ไม่มีใครติได้ขึ้นมา แม้คฤหาสน์เชมัวร์เองจะเป็นทรัสต์ไปแล้ว แต่ผลประโยขน์ข้า
งเคียงยังมีอีกมากมายที่ พวก"ดามุก"หรือ...จะแสวงหาทำได้ ถ้าคิดจะทำ "ชาร์รู้แผนนี้ดี"

และนับจากเจนมาเป็นคนใช้ใหม่ พวกดามุ
กก็ตีความว่า เจนจะเป็นคุณนายคนใหม่แทนคุณวิที่ตายไป กันแทบทุกคนเป็นข้อฌโจษจัน แต่ในความเป็นจริง เจนกับชาร์เป็นเพียงนายจ้างและลูกจ้างที่ดีต่อกันเท่านั้นเอง
ส่วนอนาคตไม่ทราบ

คือพวกหัวคิดเชิงลบดามุกคิดว่า:

         ุ้ถ้าลูกสาวตนได้เป็นเมียน้อยของชาร์ขึ้นเมื่อไหร่  จะได้กอบโกยผลประโยขน์ข้างเคียงอันมหาศาลทีเดียวที่เชนัวร์"ชาร์เฝ้าระวัง"


         ยังมีเรื่องราวตระกูล"นินี"อันเป็นตระกูลเก่าแก่ี่ของเชนัวร์ที่สร้างอาณาจักรตนเองมาจาก การใช้ทฤษฎีบปลูกอะไรทำเป็นแถวเป็นแนว และเรียบง่ายและประหยัด
และไม่ยุ่งการเมือง และมีลูกน้อยเมียคนเดียวเป็นหลัก
จนมีครอบครัวสืบทอดมั่นคงมา
สานต่อนับได้เจ็ดเจ็ดชั่วโคตรคน จากบรรพบุรุษของคุณวิ ชาร์จะนำมาบันทึกต่อไปข้างหน้าทั้งหมดซึ่งอยู่ในงานเขีบนของคุณ"วิ"ก่อนตาย

 

 

 


    " วัฒนธรมของกบ"
กบผู้ร้องข้ึ้น กบเมียร้องรับ ทำให้คนกบรู้แหล่งกบอุบซ่อนอยู่

 

 


บางคู่กำลังพลอดรักกัน(กอดกัน)นอนบนหลังกันอยู่อย่างแนบแน่น มีนัยสำคัญว่าผสมพันธุ์กัน(เอากัน)

กบมันไม่กลัวแสงไฟส่องกบ แสงไฟกระทบกั
บดวงสายตากบจะเห็นตามันเป็นสีขมพู ถ้าแมวหรือหมาจะเป็นสีเขียว ในเวลากลางคืน

 


พรานกบจะจับไม่ไว้หน้า

เพื่อผัดกบในวันรุ่งขึ้นส่วนใหญ่จะไม่ฆ่าผัดกบทันที เช่นเดียวกับหอยขม โข่ง ห
หอยกาบและปลาดุกนาช่อนนาที่ติดกับ
ดักนายพรานสัตว์น้ำมาเขาจะเก็บไว้หนึ่งคืนก่อน (ไม่ทราบธรรมเนียมนี้ว่าเพื่อไว้ทุก
ข์สงสารหรือเพราะว่ายังไม่หิวจึงไม่ฆ่าทำกินกันทันที)

 

ทันทีที่จับกบได้เขาจับใส่ลงในตะข้อง(ภาชนะใส่กบจับ
ได้จับเป็น)กบมันไวกระโดดหนีเร็วมาก

ส่วนหนึ่งเขาพาไปกินเองทำผัดน่องกบ ถ้าเหลืออีกก็ขายเพราะราคาแพงกว่ากบเลี้ยง "คนกบคนหนึ่งยืนยัน"


     ที่  เชมัวร์คฤหาสน์มีนิเวศน์สระอยู่สองสาม
สระ
ไม่มีกบสักตัว อึ่งธรรมชาติและปลาไหลปกติมี มาก

ปัจจุบันนี้หายไปหมด


หลายคนคิดว่าและแอบใส่ร้ายกันแล้วว่า

ผัวคุณ"วิ"ฉีดยาฆ่าหญ้าใกล้สระ กบและสัตว์น้ำอื่นรวมทั้งสัตว์พิษเช่นงู เลยย้ายถิ่นหนีหมด เพราะที่พวกดามุกเชื่อว่าฝีมือคุณชาร์เพราะคุณชาร์เก่งทางยาชนิดฉีดพ่นประเภทสารเคมี ที่พวกดามุกกลัวและเกลียดนักคือสารเคมี แม้กระนั้นชาร์เองก็แพ้ยาฉีดฆ่าหญ้า ที่ถ้าชาร์ฉีดทำก็เพราะหน้าที่มันบังคับ

 

 

พวกโจรดามุกมุ่งจ้องทำร้ายชาร์แบบสุ่มแผนเงียบ ไร้หลักฐานทางกฎหมายก่อนตำรวจและก่อนศาล

เพราะขัดแย้งผลประโยชน์กันมีในสระที่คฤหาสน์้เชนัวร์นี้ กรณี หนวกหูจากเสียงก
บร้อง อึ่งขึ้นเมื่อฝนมา

กรณีคนพรานใช้สิทธิจำเป็นบุกรุก
เข้าเขตที่มีสัตว์น้ำเกิดมี แล้วเกิดการละเมิดเงียบในเขตส่วนบุคคล

ช่วงวิกกฤติในประเด็นข้อกฎหมายชนิด"วิถีประชา"ผ่อนผันให้มีการละเมิดไดบ้างเพื่อสงเคราะห์คนอดอยาก


กรณีนำมดแดงขโมยฝากปล่อยรอเก็บไข่มดขายซึ่งแพงมาก เขาจะพาพ่อมดแม่มดไปปล่อยไว้บริเวณที่ป่าละเมาะเลื่อนลอยตามนิเวศน์ของคฤหาสน์เชนัวร์ดูที่ดูแลไม่ทั่วถึงและที่ที่รอโครงการใหม่จะมาถึง
แผนนี้พวกดามุกเชิงลบชอบทำนัก และทำกันแบบองค์กรที่เดียว(Union and syndicate)
ที่เชนัวร์
ทำไมเรื่องเล็กน้อยแบบนี้จึงดูเป็นระบบอบบมีอิทธิพลมืด
คำตอบคือ:

เพราะการรักษาความสงบชนิดนี้
ต้องอาศัยทุน ชนิดมีระดับนายทุนเพื่อคงที่นิเวศน์เหล่านี้ให้สงบ

ต้อง มีทุนมั่นคงแข็งแรงเหมือนทำกำแพงคอนกรีตเสริมเหล็กแบบทำรั้วบ้านชนิดกำแพง
เมืองมียามรักษาการณ์
ทุกอย่างจึงจะเรียบร้อยและสงบลงได้และนิเวศน์ทางตาและทางอามณ์จึงจะสวยได้

แถมท้ายมีการจัดการและการบริหารเวลาด้วย "ชาร์เสริม"

 

 


ในเขตเชนัวร์
เมื่อเทศกาลฝนตกจับกบขึ้นมา
ชาร์จะมีปืนติดตัวเสมอกันเหตุร้าย
แต่ปืนนี้มิไดหมายเจาะจงนำไปฆ่าคนแ
ต่แค่เพียงป้องกันตนเองและบำรุงขวัญและคุ้มกันขวัญและทานความมืดและกันผีหลอกเท่านั้น 
ชาร์มิได้เจตนาพาไปฆ่าคน แต่อย่างงัยเสียปืนของชาร์มีทะเบีย
นถูกต้องเรียบร้อย

 

 

 

 

 

จากอดีตการจับกบใช้ไฟแสงไต้  (แสงไต้คือแสงไฟจาก

การเผาเอาน้ำมันดิบจากต้นยางเฮียงแล้วมาทำเป็นคบเพลิงน้อยๆสำหรับส่องทาง)

 

ตอนนี้งูเห่าถ้าพบที่เชนัวร์ทำงูเห่าผัดเผ็ดหมดเมื่อปลอดสายตาคนอนุรักษ์
หรือถ้ามีกฎหมายอานุรักษ์ป้องไว้

 

งูเห่าน้ำแตาก่อนนี้ที่เชนัวร์ชุกชุม
แต่เดี๋ยวนี้หายหมด

 

 

 

 

 


กบเลี้ยงถูกส่งตลาดแต่
แพง

ส่วนกบจะฟรีและสาธารณะเมื่อไปหากัน

แบบนี้
ตืนหนึ่งกลางป่าหญ้าผ่านมือถือของชาร์


เจนส่งมอบเอกสารลับให้ชาร์


เรื่องย่อ พฤติการณ์ข
วงดามุกเขิงลบ

มีแผนสกปรก
เล่นwithcraftคือใช้อาคม
ยา และระบบปรับปรำเห
ยื่อ

ทำผู้แพ้ให้ชนะทำผู้ชนะให้แพ้

การผลิตลูกสาวเพื่อ
ออกจำหน่าย

การต่อสู้กับคนทำงานบนหอคอยงาช้าง แบบปลิงดูดเลือด

 

มีการวางและทำตนเองเป็นเจ้าชีวิต เป็นพระพรหม
มีการ กำหนด
ชะตากรรมชีวิตมนุษย์
ชนิดไม่มีในคำภีร์ศาสนา
ใดๆรอง
รับ และหลอกลวง


ปรัชญายากแค้นยากไร้
ไร้เทียมทาน แล้ว

บังหน้า
สร้างความเลวขึ้น
สู้กัวความดีสากล

ปรัชญาของเขาคือ


เขาคือการสร้าง
ตนเองแข่งหับกาลเวลา
ด้วยเพื่ิอพิชิตความอดอบากแต่จะได้มาด้วยวิธีใดก็ได้ขอให้ตนเอ
งได้มาก็แล้วกัน

 

 

 

 


แต่ก็ไม่พ้น
กฎหมายแม้
แม้กระนั้นพวกดามุกนี้
ไม่กลัวเกรงกฎหมายจนกลายเป็นอาชญากรแอบแฝง

 


ชาร์รับไว้ไตร่ตรอง

ดูความจริงของ

 

ความจริงนี้ต่อไป

"จริงหรือเท็จ"
้ชาร์ไม่เคยรู้เรื่อง
นี้มาก่อน


ชาร์เกิดเป็นเด็กในพานทอง

แลพอโตขึ้นก็ทำงานบนหอคอยงาช้าง


ชาร์กล่าวว่า
ดูน่าสนใจดีเพราะว่า คือ
คนบนหอคอยงาช้าง

เมื่อไฟดับ ประปาหยุดไหล เขาก็ตายแล้ว แ
ต่พวกดามุกเชิงลบไม่ตายแม้น้ำหยุดไหลและไฟดับ
เพราะเขาอยู่ได้บนกลิ่น
ดินกลิ่นทราย


ชาร์สนใจปริบททั้งหมด
และจะดูในรายละเอียด ต่อไปด้วยความรอบคอบ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

มาที่อีกฉากหนึ่งคือ

งูที่หลบซ่อน

มีเสียงร้องเหมือนกันแต่เสียงเงียบ เป็น"เสียง
อำพราง"ที่คนไม่เจนป่าจริงๆจะรู้
งูจะมีเสียงเหมือน

จิ้งหรีดร้อง

 

 

           เจนคนหนึ่งที่ชอบกินผัดน่องกบพริกไทยต่เจนไม่กล้าออกไปจับกบ
เพราะกลัวโดนปล้ำ

และฝืนใจเกิดขึ้นที่เชมัวร์นี้

 


จึงขอซื้อจากคนกบที่ออกล่า เจนบอก" ได้ราคาถูกและสะดวกซื้อต่างหาก"

 

 

 

 

 

 

 

 

มาที่ มิเมย์ ๆเธอไม่กินกบ
และ
จับกบ แต่เมื่อว่างและไม่ง่วงนอน

จะหมอบนอนเฝ้าระวังหนูนา และรอเล็มยอดหญ้า ในตอนเข้าค่ำเมื่อได้อารมณ์เพราะ"ยอดหญ้า"เป็นยาธาตุกันก
ารจามของเค้า

 

 

กับ รากหญ้าแมว
เท่านั้น ตรงจุดนี้ชาร์เคยสั่งซื้อหญ้าแมวมาปลูกเพิ่มจากแพล็ตฟอร์มเกลื่ินกลาดทีรอเสนอขายคนทาสแมว

 

    ส่วนหิมะก็โปรดหนูนาเป็นพิเศษเช่นกัน แต่ไม่เคยจับกระจ้อนได้เลย แม้กระจ้อนจะมากวนใจท้าทาย กระจ้อนเพรียวและเร็วมากฉลาดมากตัวคล้ายกะรอก แต่เที่ยวตามบ้านป่าละเมาะโปร่ง

ชอบทั่วไปสัพเพสัตตาไม่ไกลนัก กระจ้อนนิสัยขโมยของกินเก่งชอบซุกซนตามบ้านโดยเฉพาะที่คฤหาสน์
ต่างจากกระรอกชอบกัดเจาะลูกกินมะพร้าว กระรอกชอบหากินที่สูง

ส่วนกระแตหากินที่ต ่ำ

เชมัวร์

ชาร์พบว่ามิเมย์ตาดีในกลางคืน สรุปแมวมองเห็นในที่มืด

สายตาแมวมองเห็นในที่มืดดีกว่าสายตามนุษย์
อีกแมวมีตาที่จมูกอีกด้วยคือ

จมูกแมวรับกลิ่นได้ไวมาก
ไวเท่ากับหนวดหอยทากเมื่อหอยทากใช้หนวดคลำทางแทนตา เท่าที่ชาร์
สังเกตพบ