วันจันทร์ที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2564

การวินาศกรรมคฤหาสน์เชมัวร์

35
การวินาศกรรมคฤหาสน์เชมัวร์


35
การวินาศกรรมคฤหาสน์เช
มัวร์กับโจร"ดามุก"


ประกาศคำว่ามุกดาเปลี่ยนเป็น"ดามุก"ด้วยเหตุผลลทางวรรณกรรมตั้งขึ้นเป็น

เจ้าของลิขสิทธ์ผู้ประกาศในฐาที่รังสรรค์นิยายนี้
ผู้เขียนประกาศ
เคยกล่าวมาแล้วบ้าวตอนก่อน เหตุผลที่กล่าวซ้ำซากได้เพราะนิยายเรื่อง
เป็นนินายเรื่องยาวเป็นเหตุผล



กริ้ง....ดิ้ง กะ ด็อง ตามด้วยเสียงของAndy Williams of "Where do I begin "และเมื่อ 2 นา
ทีผ่านไปเสียงเรียกเข้าจะเงียบลง เพราะตั้งเวลาไว้อย่างนั้น
ส่วนโทรแบบตั้งโตะ๊ไม่เึยได้ใช้นอกจากรถพยาบาลAmbulance และเรียกตำรวจ



        เสียงรับสายนี้คุณ"
วิ"ตั้งไว้ตั้งแต่ยังไม่ตายและชาร์ไม่นึกอยากเปลี่ยนมัน เพราะขาร์ถือว่าการตายของ"วิ"เป็นการพักผ่อนจากควาจริง




เมื่อโทรมือถือดังขึ้น 
เสียงรับไม่มีคือติด"ไม่ว่างตลอดกาล เพราะตั้งค่า ฝากข้อความโทรกลับไว้
"ไม่ใช่เห็นแก่ตัว แต่ที่นี่สภาพมันบอกเหตุ  อนึ่ง
เมื่อมีโทรเจ้ามาจะมีก็โฆษณา และคนโทรผิด
และโทรหาขายของ
ที่
สำคัญเมื่อเรา(ขาร์และวิ)พลอดรักกันไม่อยากให้ใครโทรมากวน
ตอนนี้
     ชาร์ไมมีเวลาพอจะรับสายมันทันที เพราะที่คฤหาสน์เป็นคฤหาสน์
เงียบเหงา
เหมือนคฤหาสน์ผีสิง


ชาร์ต้องเฝ้าระวังหลายเรื่อง และตัวคนเดียว และวัยสนธยากาลต่างหาก


เจนเขามาทำงานเฉพาะกลางวันเท่านั้น

ชาร์ปรารภว่า

"ไม่ได้เห็นแก่ตัวที่ไม่รั
บสายโทรศัพท์ทันที
แต่เหตุจำเป็นบางอย่าง

และที่นี่บางครั้งมีผู้ไม่ประสวค์แอกนาม(unsolicited call)ชอบกดมาและมีคนชอบโทรมาเล่น


เสียงเพลง
ชาร์ชอบเพลงมากแม้จะโซลิแตร์"solitair"(โดดเดี่ยว)เป็นสภาพ

"When the life begin of Andy William  "

      ชาร์ชอบเพลงนี้มาก รองลงมาJohn Lenon of "Beatle" and Simon Karfunken the" sound of silence.

ชาร์มีรสนิยมสูงกว่านั้นตามปกติมิใช่ชอบแต่popular music เท่านั้น เพลงย้อยนยุค

ชาร์ชอบ" วิ"ก็เช่นกัน
ข้อสังเกตุถ้า คุณวิชอบเพลงอะไร ชาร์ก็ชอบเพลงนั้นด้วย




เพลงclassicและ Piano 
สมัย renaissance ยุคฟื้นฟูศิลปและวิทยาการ

ก็ชื่นชอบเป็นหลักทีเดียว



แน่นอนอาหารเครื่องดื่มต้อง อาหารว่างต้องเพี้ยบ ก่อนที่ชาร์จะฟังเพลงพวกนี้ได้ 

เหล้าไวน์นิดหน่อย
ชาร์โปรดไวน์แดงเป็นพิเศษ และไวน์แดงจึงมีติดโต๊ะที่คฤหาสน์ที่โยนใส่พวงกุญแจประจำตึ
กนี้ประจำ

ที่มีไวน์ประจำเพราะ
ตัวกระจ้อนยอดขึ้เสือกและขี้ลักไม่กินไวน์แต่
ของอื่นเช่นเนื้อหมูแฮม ของกินเล่นผลไม้ในและนอกฤดูกาล


อื่นๆเผลอไม่ได้ เจ้าตัวนี้จะดอดมาตรวจชิมร่วมด้วยเสมอเมื่อเผลอ




ของกินเล่นดังกล่าวจึง ขาดตอนไปบ้าง



คนใช้ไม่ได้รับอนุญาตให้เข้ามาบริเวณนี้ตลอดกาล ฉะนั้นชาร์จึงต้องทำเองทุกอย่างเขตนี้ของตึก

แม้มีคนใช้แล้วก็ตาม 
ผีคุณวิไม่ได้หึงหวง แม้คุณชาร์จะอื่นหลังตน
ตายลง




แต่ธรรมเนียมของคฤหาสน์นี้เป็นอย่างนี้เท่านั้นเอง



ตราบเท่าที่ชีวิตยังอยู่ก่อนตาย
รสยนิยมดื่มไวน์
ของคุณวิต่างไป วิชอบไวน์ขาวและไวน์ชมพูจากสเปนส่วนชาร์ชอบไวน์แดงจากฝรั่งเศสที่ชาร์เคยไปรับจ้างเก็บองุ่นใ
นช่วงฤดูร้อนและปิดเทอมการเรียน



        จะมองไปแล้วที่คฤหาสค์นี้เป็นบ้านคนรวยหรือเป็นบ้านAristocrate or bourgeois(คนรวยระดับกลาง หรือพ่อค้ามี
ฐานะ)หรือ capitalist(นายทุน)



แต่ตอนนี้คนมองเชมัวร์ผิดถนัดและอ่อนประวัติศาสตร์ชุมชนเชมัวร์อีกด้วย "ถ้าใครขืนมองอย่างนั้นอยู่อีก"

ตอนนี้เขมัวร์เป็นบ้านคนยากไร้ชั้นเยี่ยม
ดูจากรายได้ที่ชาร์ใช้ดำรงชีพ เป็นหลัก
เคยมีคนถามว่า

"ชาร์คุณรวย"

ไม่"ชาร์ตอบ"
สิ่งที่มีและเห็นเป็นอดีต

มันเป็นเครื่องทรงเครื่องแบบเท่านั้น

ชาร์แต่งตัวสวย
จึงมีคำถามเกิดขึ้นอย่างนี้

คนมีหรือไม่มีเดี๋ยวนี้ไม่ได้ดูที่กางเกงและรถแต่ดูที่บัญชีธนาคาร "ชาร์กล่าว"



"เป็นคนจะให้เดินแก้ผ้ามารับแข
กงัย ! เมื่อกระเป๋าไม่มีเงิน คนมิใช่หมาแมวนะ"


สมัยนี้เมื่อเงินติดตัวไม่มี
ก็แต่งตัวดีและสะอาดและสวยได้


ชาร์ค้อนคนสงสัยถาม

"ทุกคนจึงเงียบลง" และยอมรับว่าจริง

"คนเราจะฐานะรวยมิใช่เสื่อผ้าและรถที่มีอยู่ แต่บัญชีโน่นจะพิสูจน์ว่าคนรวยมีหรือเป็นคนจนได้ และเมื่อจนล


งก็ไม่ต้องแก้ผ้าเดินนิหนา"

ทันทีที่ชาร์พูดประโยคนี้จบลง


ทุกคนพร้อมกันเงียบกริบ




สิ่งที่มีที่ชาร์และคฤหาสน์เชมัวร์
ที่เห็นเป็นเรื่องของอดีตทั้งหมด 
รวมทั้งคฤหาสน์
อดีตใช้เป็นบ้านที่มีอันจะกินอันดับสูงสุดของชุมชนนี้มาก่อน

แต่ปัจจุบันเป็นอันดับสงสุดของบ้านคนจนตอนนี้


มันคงแต่ซากอดีตเท่านั้น คฤหาสน์นี้จึงเป็นที่หมายปองโดยโจร"ดามุก"เป็น
ที่สุดตอนนี้ และนิยายนี้เกิด เพราะดามุกโจรนี้เอง
"ชาร์กล่าวยืนยัน"
และกล่าวอ้างเปรียบเทียบต่อไปว่า:


   
         มันเหมือนบ้านเก่า ปราสาทเก่าๆ ตึกเก่าๆ 
ในฝรั่งเศส ดูเหมือน
แล้วรวย  ใช่อดีตรวยจริงแต่ปัจจุบันไม่แล้ว

แต่ว่าในอดีตสมัยฝรั่งเศสเป็นจักวรรดิ แต่รุ่นหลังเจขามีแต้บ้านใหญ่ส่วนปัจจุบันเขาจนลง รักษาระดับจึง "เป็
น อยู่คือ"ได้เท่านั้นหลังการเปลี่ยนแปลงการปกครองของฝรั่งเศสแล้ว




ตอนนี้สภาพคล้าย"haunted house" บ้านร้างแต่ยังมีเจ้าของยึดครองต่อไป

ที่ฝรั่งเศสนักท่องเที่ยวชอบนักที่เป็นสภาพนี้ เพราะจะได้เพิ่มมีทัศนวิสัย
สูในการมองเพลินและพักหย่อนใจสำหรับเขา(นักท่องเที่ยวสมัยใหม่)ได้


ด้วยเหตุนี้เอง
ต่อมาเช
มัวร์จึงถูกอุทิศให้สาธารณะหลังชาร์ตายลเพราะไม่มีทายาทเป็นบุคคลสืบต่อไป
ส่วนมิเมย์และหิมะกฎหมายไม่ยกฐานะให้เป็นบุคคลได้ตอนนี้ แม้จะเป็นเมียของชาร์ก็ตามโดยพฤตินัยและสภา
วะก็ตาม
พินัยกรรมดังกล่าวคุณ วิทายาทคนสุดท้าย
แห่งต้นตระกูลนินิได้กระทำไว้ก่อนตาย เป็นในรูป"ทรัสต์"













      เนื้อแห้ง หมูแฮม เตัสทพ้อทเพื่แเึี้นวเบน ชาร์เตรียมตมีไว้พร้อม "กาโต" มีดคมสะอาดและเขียงหั่นปราศจากฝุ่นและจากสนิม

มิเมย์และหิมะไม่เล่นไม่แตะ เพราะเขาแสนรู้

บ็อกเซ่อร์(Boxer -Boxcher
)หมาตัวโปรดของคฤหาสน์เชมัวร์นั้น

เตรียมเห่าและกัดถ้าจำเป็น

ทุกเมื่อ

ๆมีแขกไม่ได้รับเชิญเข้ามาคุกคามบุกรุกเข้ามา

ในอาณาบริเวณคฤหาสน์ในทุกๆกรณี เพราะมันได้รับอนุญาตจากตำรวจ ให้ช่วยคุ้มครองทรัพย์สินและเจ้าของบ้าน มันถูกฝึกมาอย่างดีโดยตำรวจที่เชนัวร์

การก่อร้ายของแผนดามุก
อย่างง่ายมากแต่ผลร้ายมหาศาล และอนันต์ รวมถึงการทำลา
ยเหยื่อ ทั้งที่เป็นกลุ่มเป้าหมายชนิดเจาะจงและไม่เจาะจ
งโดยเฉพาะชีวิตของ"ชาร์"ให้ชาร์จบชีวิ
ตลงได้อย่างง่ายดาย

ชนิดไม่มีหลักฐานจับได้ เมื่อมีการสอบสวนเกิดขึ้นหลังการตายของ"ชาร์"ชนิดหาสาเหตุไม่พบ


เช่น การนำสัตว์พิษมีงูเห็บ ยุง แมงมุม หนอน เชื้อโรคไวรัส แบคทีเรีย ผีเสื้อ แมงปอ และอื่นๆอีกและเห็ดพิษและวัชพืชทำลายยากมาปล่อยทิ้งเอาไว้ในพื้นที่เอเคอร์และคฤหาสน์
ที่ชาร์มีอยู่

ก็ปรัชญาของดามุกมีว่า
ในมุมมืดเขาคือใหญ่กว่าฟ้าและดิน เป็นอธิปไตย์
แต่ในยามที่สว่างเขาเป็นเพียงขยะวัสดุเหลือใช้ชนิดหนึ่งเท่านั้นและเป็นเศษธุลีที่ไม่มีค่าอะไรในสังคมนอกจาก เขาเพียงคิดว่า"ได้กิน นอน เสพ กระชับองค์กรของเขาอย่างโซ่ตรวนที่แข็งแกร่งและเชื่อถือได้"ก็พอในวันหนึ่งๆตราบเท่าที่เขายังหายใจอยู่
  
       จากปรัชญาของพวกดามุกเชิงลบดังกล่าว ชีวิตของชาร์จึงไม่มีค่าอะไรสำหรับพวกเขา เกียรติ ประวัติ ความเป็นปัญญาชนภูมิธรรม สิ่งมีค่าเฉพาะหน่วนตนของขาชาร์นั้นเป็นสิ่งไร้ค่าและความหมายไปหมด พวกนี้ไม่รู้คุ
ณและคุณค่าทางกฎหมายในที่มืดเลย หรือในที่สว่างที่ไม่มีคนเห็นและพลาดสายตาคนไป "เขาชอบนัก" ส่วนในมุมมืดไม่ต้องถามว่า "เขาจะพิสดารอย่างไร" ชีวิตเขาทุกคนเหมือนนิยายแฟนตาซี
  และพวกเขาไม่คิดว่า ตนเองจะโผล่มาจากโลกมืดนี้
ได้ 
เพื่อได้เป็นเป็นคนมีฐานะและทรงเกียรติ เขาไม่
รู้จักนรกสวรรค์
"แม้ที่จริงเขาก็มีสิทธิจะรวยและทรงเกียรติได้ถ้าเขามีคุณธรรมอันเป็นอุ
ดมคติสูงสุดของมนุษย์ (summum bonum)ได้ไม่ยากนักถ้าเขาจะพยายามสักนิดเดียวในบนโลกเลอเซ่อแฟร์(Laissez faire)แบบนี้" นั้นคื
อเอกลักษณ์ของเขา"ดามุก"เชิงลบ

ถ้าสงครามเกิดขึ้น เขาจะเปลี่ยนชื่อป้ายถนนตรอกซอยเป็นชื่ออื่นเสีย เพื่อให้ทหารหรือคนหลงทา

ง คนสัญจรที่และทหารที่มารบเดินทาง
ไปไม่ถูก ไปผิดเป้าหมาย
"สมาชิกของดามุกคนหนึ่ง
กล่าวยืนยัน"

เขามีความต้องการของตนเอง
อย่างเป็นหน้าที่หลัก ชนิดไร้เหตุผล

แม้หายนะคือความแพ้จะเกิดหรือไม่เกิดเขาไม่คำนึงเขาก็จะทำเพื่อไม่ให้เกิดความสงบและศีลธรรมอันดีงามในทุกสถานการณ์ของสังคม และเขามิใช่คนบ้าเพราะ"เขารู้จักเจ็บปวดรวดร้าวและเขินอาย หวง"

"เขา"

"ขอให้ได้ทำ นั้นคือภักษาและอาหารใจและชีวิตของเขา เพราะชีวิตเขาดำรงอยู่ได้ด้วยยอดหญ้าและกบย่า
งเพียงตัวเดียวต่อวันเท่านั้นก็พอ

เขาไม่คิดว่าพวกเขา
จะได้นอนแอร์ นอนฟูก4คูณ6เมตรกว้างยาวฟูก24นิ้วหนา และใช้ตู้เย็นและเครื่องซักผ้าและทีวีสี ตู้แช่แข็ง มีรถขับเคลื่อนวิ่งไปมาสะดวก เหมือนอย่างที่ชาร์และ
คฤหาสน์เชมัวร์มี
ในขีวิตนี้" 

นั่นคือปรัชญาแม่บทของเขาละ "ดามุกเ"ชิงลบ

และดามุกจะชนะขีวิตไ
ด้ คือ
"ได้กินเสพนอนอย่างราชาในที่สว่างและที่แจ้ง
ได้ถ้าเขาทำตามปรัขญาของเขา"


อันนี้เราเรียกว่าเป็นจิตวิยาเชิงลึกและพิสดาร
ของดามุกเชิงลบนั่นเอง