วันอังคารที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2564

คฤหาสน์ -ชามัวร์  (Chamoir Estate)

9โอเค

คฤหาสน์ -ชามัวร์  (Chamoir Estate)

 (นิยายกำหนดอ่านว่าคฤหาสน์ชามัวร์)

ที่คฤหาสน์ชามัวร์
ผมคิดอะไรได้ผมก็ทำ พอเหนื่อยผมก็นอน นี่คือปรัชญายึดติดของผม -ที่น้าผู้อกหักเชื้อจีน-ไฮหลำคนหนึ่งสอนผมมาตอนไปที่แวะไปเยี่ยมท่านนานมาแล้วก่อนพบรักกับวิวาห์

        และยุคสมัยต่อมา ตอนนางเองเมียผมในภาค
มนุษย์ที่เธอยังมัชีวิตอยู่
ผมไม่กล้าปกปิดเรื่องส่วนตัวนี้ เพราะผมถือว่า "มันเป็นเกียรติภูมิแห่งความจริง"
         เราทั้งสองนอนทั้งวันเว้นเวลากินข้าวเท่านั้
น เราไม่ใช่รวย ทุกอย่างมีงบประมาณ ในตัวมันเอง เรานอนทั้งวัน เพราะมันเป็นดรามาแห่งความจริง "บอกได้ว่านอนจนเหนื่อย"
ขณะที่ไมได้นอน งานเราไมได้ทำ  เราใช้สายตาและสมองเป็นมือ
      เรากินมรดกเก่า และเธอ"วิวาห์"ก็กินมรดกเก่าของแม่เธอ ผมกินมรด
กเก่าของพ่อผม ที่เขตคฤหาสน์ชามัวร์ไม่มีใครอิจฉาผม  แต่ส่วนของผมเป็น"มรดกเลือด"

   ท้ายสุดมรดกผมใกล้จะหมด ติดรอขาย หรือขายทอดตลาดถ้าผมล้มละลายลง จากหนี้ธนาคารที่พระเอกเบิกเงินเกินบัญชีเธอ พระเอกมั่นมจส่าถเามรดกเลือดได้ข้อยุติ เงินมหาศาลจะถูกป้อนเข้ามาใหเราใช้
และกระจายรายได้ให้พวกทาสไม่เจาะจงแน่นอน พระเอก้ฝ้ารอคอยวันนั้น รอวันทนายส่วนตัวมาแจ้งที่สัญญากันไว้ว่า "พบกันครั้งต่อไปคือการได้ข้อยุติมรดกเลือดของผม ถ้าทนาย"มิทา"มาพบกันเรื่องอื่นของดเด็ดขาด" 
     ผมคิดว่าถ้าวันนั้นมีจริง โลกนี้ของผมค
งได้ตั้งโตะ๊ใช้เงินและทำบุญบริจาคกันอีกยกใหญ่เหมือยสมัยที่พ่อและแม่ของผมยังมีชีวิตอยู่

 

    ตอนนี้ที่ "วิวาห์"ตายแล้ว มีคฤหาสน์ชื่อ"ชามัวร์"นี้นี่แหละ ที่เธออุตส่าห่์เหลือทิ้งไว้ให้ผม โดยหนังสือพินัยกรรม และเธอบัดนี้"ตายไปแล้ว" เราตอนอยู่ด้วยกัน
ไม่เคยไปเที่ยวไหนและไม่เคยออกสังคมเพราะกลัวเงินมรดกหมดเร็ว และเราไม่ค่อยจะคุ้นกับคนที่ชามัวร์มากนัก เพราะเราอยู่แต่ต่างปะเทศ และครอบครัวเราเป็นแบบครอบครัวปิด อีกทั้งระเบียบจัด

 

 

"วิวาห์"
เธอตั้งเป้าว่าจะมีลูกสักคน
แต่ผมยั้งเธอไว้ ถ้าจะให้มีลูก มรดกของเราต้องมากกว่านี้ "ผมเน้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าให้เธอฟัง "รับรู้" เมื่อเธอพูดเรื่องลูก"  แม้ถ้าคิดจะมีก็คงยากเพราะวิวาห์มดลูกของเธอเป็น"โรคเบี่ยงเบน"ชนิดหนึ่ง ถ้าเกิดมีสำเร็จลูกที่ออกมาจะพิการ  ด้วนจรรยาแพทย์ หมอแอบบอกผมไว้แต่ผมปกปิดมิให้เธอรู้เพราะกลัวเมียรั
กของผมจะเสียใจ และอาจคิดฆ่าตัวตาย

เมียผมนางเอกหลักของเรื่องชามัวร์นี้ 
ใช่ นามทั้งเรียกเล่นและเรียกจริงของเธอชื่อ"วิวาห์ " เธอตายด้วยอุบัติเหตุ
เพราะจักรยานพลิกคว่ำ
ที่ควนใกล้คฤหาสน์ชามั
วร์นี้เอง ขณะที่วิวาก์บอกผมว่าจะออกไปหาอากา
ศบริสุทธิ์ดูดดมช้างนอกสักแป๊บในเช้าวันหนึ่งเวลาประมาณ
05.00นาฬิกาตามเวลากรีนวิช มีน ไทม์(Greenwich mean time:GMT)

     และแล้ว หลังเธอตาย
ร่างของเธอฝังไว้ที่ใกล้คฤหาสน์นี้เองและไม่มีกำหนดเผา มันเป็นหลุมฝังมีหินอ่อนทับจารึกเพียงชื่อ เธอว่า"วิวาห์"ไม่บอกวันตายวันเกิดไว้

    หินอ่อนแผ่นนั้นผมไปทำให้เองจำได้ว่าแสนแพง
แต่ผมทำ
   ในพินัยกรรมก่อนตายของเธอๆได้
เขียนเป็นเอกสารลับมอบไว้ที่อำเภอระบุว่า"ยกมรดกทุกชนิดอย่างที่เป็นของฉัน''วิวาห์"
ให้ผมแต่ผู้เดียว"

     เพ็ญเดือยหงายไหนที่ผมได้อารมณ์และว่างจากสรรพสิ่ง ผมกับมิเมย์
จะมาเดินเล่นใกล้ที่หลุมฝังศพวิวาห์เก็บอยู่
พร้อมดอกกุหลาบสีดำที่เธอชอบและกุหลาบดำนี้เธอได้ปลูกมันไว้เองซื้อพันธุ์มาจากต่างประเทศ
         

      ผมพึ่งรู้หลังเปิดพินัยกรรมและหลังเธอตาย ได้30วัน และวิวาห์ได้บันทึกไว้ในพินัยกรรมของเธอต่อเ
รื่องนี้ 

ตอนผมพบมิเมย์และ
มิเมย์ไม่เคยรู้จักวิวาห์
มาก่อน
มิเมย์ไม่แสดงอาการอะไรเมื่อผมอุ้มเธอไปที่สุสานวิวาห์ และสังเกตเห็นมิเมย์สงบนิ่ง
"ไม่แสดงอาการอะไ
ร"
   นอกจากนั้น
คือตามปกติ'มิเมย์'ว่าที่นางเอกคนต่อไปของผมเมื่ออยู่กับผมหลังวิวาห์ตายแล้ว

มีข้อสังเกตอย่างหนึ่งว่ามิเมย์"ขี้อ้อนแต่สุขุมและน่ารักขึ้น"

 วิเคราะห์ชื่อเมียผมเพื่อเป็นเกียติแด่เธอเนื่องในวาระแห่งความตายของเธอโดยอาศัยห้องสมุดส่วนตัวที่คฤหาสน์"ชามัวร์"   "วิวาห์ "ชื่อนี้แปลสื่
อดูแล้วเหมือนคำว่า

"การแต่งงานพิธี" ที่จริงวิวาห์คำนี้มาจากคำว่า"Viva"ศัพท์ต่างประเทศแปลว่าหมายถึง"ชีวิต" แต่เมื่อ
มาแปลงทับศัพท์ภาษาไทยผมเพิ่มหลังคำว่า"วิวา" "ห์" เพื่อให้เป็นสร้อยแห่งคำเพื่อให้ดูดีขึ้นตาม
นัยแห่งวจีวิภาคภาษา.  

    ขออภัยหากนักปราชญ์ท่านใดมิเห็นด้วย
นี่เป็น โองการของพระเอกแห่งนวนิยายเรื่อง คฤหาสน์ชามัวร์ อันล้ำเลิศและค่าล้ำนี้แห่วอรรถรสของ"วิวาห์" ที่พระเอก
ของเรื่อง"ชามัวร์"นี้แสนที่จะสุดเคารพและทนเพื่อจดจำ นี้"

 

ข้าพเจ้าขอสัญญาว่าจะเพียรบันทึก จนกว่าขีวิตนี้จะหาไม่ ตราบชั่วนิรันดร์ แห่งกาลโน้น - เทอญ