วันอังคารที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2565

100000คำของมาติณ ถีนิตื M.A.





ตอนที่20นิยายเรื่อง:เชร์นัวร์"งานเข้า" แล้วชาร์เดินไม่รอดต้องพยาบาล
ในทรัสต์ที่คุณวิเมียหลวงที่ตายไปแล้วด้วยโรคหัวใจ วิไม่ระบุว่าให้ชาร์นำเงินๆไปใช้รักษาตัว
ชาร์จึงมีงบจากประกันอบัติเหตุรักษาตัว
ซึ่งไม่ค่อยพอจึงไม่ได้จ้างพยาบาลพิเศษมาดูแลช่วงที่คนป่วยพึ่งตนเองไม่ได้เอาไว้
จึงร้อนถึงทาสคือคุณเจนต้องมาทำหน้าที่
พยาบาลจำเป็น ผลคือชาร์ต้อวเรียกทนายมาปรับปรุงสัญญาที่ชาเคยทำไว้กับคุณเจนใหม่
ระบุเพิ่มเติมในนิยายว่าให้พยาบาลสามีคุณวิด้วยช่วงสามีคุณวิป่วย....

ก่อนตายชาร์อยากวิเคราะห์ว่าทำไมสามีตายของครอบครัวตายก่อนก่อนกันชนิดไม่ใช้ข้อมูลบุคคลที่สาม
ความผิดพลาดของการตัดสินใจในการดำเนินชีวิต

และทำไมคนทำผิด...
คิดได้จะบอกเอกตั้งให้เจนเป็นเพื่อนคูคิด
โดยไม่มีความสัมพันธ์ส่วนตัวเชิงลึกอะไรกัน
และชาร์ปฎิญญาว่าจะไม่ร่วมเพศกับใครอีกจนกว่าตายแล้วไปเกิดใหม่และได้พบกับวิเมียหลวงหรือนางเอกของเรื่องนี้อีกครั้ง
หรือจะเน้นลบเวรและทำแต่ความดีเจตนาดีแม้นิดหนึ่งที่ทำได้เแล้วตายไปไม่เกิดอีกเลย และจะผิดหวังอย่างไรก็ไม่คิดฆ่าตัวตาย
แม้จะหลงกลพวกผีดามุกเข้ามาสิงร่างให้มีอันเป็นไปในคราบของการเมืองรัยๆในมุมมองของปัจเจกชน และชาร์จะเน้นคุณธรรมที่เคยทำ
เป็นข้อต่อรองในการรอดอยู่และาำคัญเสมอว่า
"สิ่งผิดพลาดต้องมีการชดใช้จึงถูก ถ้าไม่มี
สวรรค์เท่านั้นจะลงโทษให้"
ชาร์มั่นใจ
และชาร์เชื่อว่าอุบัติเหตุรักนอกจอกับเจนที่ดามุกมีแผนทำจะไท้เกิด
ขึ้นเด็ดขาดเพราะคนทีอาหารที่กินและความอบอุ่นที่มีเป็นตัวกำหนดสรรพสิ่งและชาร์มีสองอย่างนี้อย่างเรียบง่ายและมีชีวิตที่ไม่โลดโผน
เชื่อว่ามโนปณิธานของตนเองคงมีศักดิ์และมีสิทธิ์
ที่จะทระนงในความเป็นมนุษย์ของตนเองได้
แม้ชีวิตจสั้นลงทุกๆวันก็ตาม

และชาร์เชื่อว่า"ฝนบนฟ่าที่ตกลงมาบนพื้ยผิวโลกนั้นเป็นการควบแน่นของมวลอากาศจึงเป็นมิใช่มนุษย์เป็นผู้สร้างฝนเสมอไป แต่ที่เป็นมันเป็นกฎของธรรมขาติและปฏิกิริยาของมวลอย่างแท้จริงเท่านั้น"





เพราะเมื่อต้องกินและต้องรักษาตัวมีของเก่าเป็นทรัพย์สิาส่วนตัวอะไรขายได้ก็ขายไป โดยไม่แตะต้องพินิกรรมของทรัสต์ที่คณวิทำไว้ให้
ก็จะขายไปเพราะคนเราตายแล้วเอาอะไรไปไม่ได้ถ้าเหลือไว้1พวกดามุกจะต้องเข้ามาครอง
เราจึงทำเสียก่อน
2.กันการตายอย่างอนาถและคนดูถูก
ชาร์ตัดสินใจปฏิบัติตามนี้เชื่อว่าทุกสิ่งรอบข้างตนเองต้องลงตัวได้และประหยัด และมีอะไรดี
เหมาะเจาะก็ทำทันทีคำว่าสายไม่มีสำหรับปทานุกรมชีวิตของชาร์
เพราะเชื่อส่ารถยนต์ต้องมีคนขับมันจึงจะวิ่งได้
แลดถ้าขับมันอย่างไม่ประมาทอีบัติเหตุคงไม่มี
ส่วนสติขณะขับอาจเผลอบ้างอันนี้มอบให้ประกันภัยทำสติแทนให้ชีวิตของฉันคงไปได้สวยก่อนตายลงอย่างสงบและเรียบร้อบและ
ไม่เป็นภาระแก่คนรุ่นหลังและชาร์เชื่อว่า
คนมาจากดินและกลับไปสู่ธาตุดินอีกอย่างนี้เป็นวัฏจักรไม่มีใครเลี่ยงได้ การตายของคนนั้นไม่อมตะแต่คุณธรรมของการตายนั้นแลอมตะ


พอดึกมากช่วงน้ำท่วมไหลหลาก
ที่เมืองชาร์มัวร์ เสียวรถไฟวิ่งผ่านถี่ขึ้นปกติไม่มี
ในยามดึกเพราะตารางเดินรถเปลี่ยนไปเพราะทางรถไฟตัดขาดจากกระแสน้ำพัดพา
ชาร์ตึงคิดได้ว่า"ขีวตคนเราก็เหมือนรถไฟ"
แต่นิยายเชร์นัสร์นี้มิใข้นิยายชีวิตจริงรัยแต่ชาร์ตั้งใจให้เป็นวรรณกรรมทางเลือกใหม่เท่านั้น
เขียนมันขึ้นเพราะงานเก่าคุณวิทิ้งไว้ให้แก้และชาร์
เติมเต็มบางส่วนมันเข้าไปหากจำเป็น ตามปัญญามีและที่าำคัญเมื่อตนเองว่างจากเรื่อง"โน่นนี่นั่น"ของวันเวลาที่ผ่านไป
ในทุกวันที่กระท่อมเชร์นัวร์และคฤหาสน์ชาร์มัวร์นี้เท่านั้น
ชาร์ตั้งชื่อเรื่อวนี้ว่าเชร์นัวร์เพราะให้เกียรตินักการเมืองดังของโลกท่านหนึ่งคือเช กุวารา
the Guvara นักรบชาวอเมริกาใต้อดีตอณานิคมสเปนที่ทำตัวแบบทำสงครามกองโจรอันทรหดอันเป็นแฟชั่นในยุคหนึ่งและถูกสังหารในที่สุด แต่ชาร์มิได้หมายเอาการเมืองและปรัขชญาของท่านผู้นี้มาเป็นปรัชญาขอ
งงานเขียนเรื่องเชร์นัวร์ของตนเอง แต่ชาร์เพียงนำแฟชั่นการใข้ชีวิตทรหดคล้ายผู้นำสงครามกองโจรท่านผู้นี้ให้มาในปริบทในการใช้ชีวิต
ของชาร์หลังคุณวิตายไปเท่านั้น

       จากเหตุการณ์ที่ดามุกคุกคามสังคมชาร์มัวร์ที่เพิ่งรู้ว่ามีจริงจาก
เจนทาสผู้สวามิภักดิ์ของตนเองว่า"ดามุกมันมีอยู่จริง
แม้ชาร์คาดว่ามันคงเป็นอุปราการและปรากฎการณ์ทางสังคมที่จะมากกว่าที่มีมากกว่าปกติ


ที่ชาร์หรือเจนไปนำมาคิดมากเสียเวลาเปล่าแต่ชาร์ก็รับฟังที่เจนเล่ามาแต่การรับว่ามีอยู่จริงหรือไม่มีอยู่จริงชาร์ขอตัวคิดอีกที แต่ไม่บอกให้เจนรู้
เพราะถ้าบอกให้เจนรู้เจนก็จะไหวทัน จึงไม่เล่าอะไรให้ชาร์ฟังอีกและทาสเจนจะไม่มีเรื่องจะคุยด้วยเพื่ออารัมภบทในการปฏิสัมพันธ์ต่อกันระกว่างนายกับบ่าวไปเสีย

เจนพูดว่า" ดามุกนี่มีอยู่จริงนะค่ะ"
ชาร์ตอบว่าด้วยท่าทีอมยิ้มรับ
แต่ไม่ปฎิเสธว่ามีหรือไม่แฃะคิดในใจตนเองต่อไปว่า

"ก็ถ้าเจนอยากเล่าอะไรให้ผมฟัง เมื่อคุณมีอาหารอิ่มท้องมีรสชาติมีแรงเล่าให้ผมฟังผมก็ยินดีรับฟังต่อไปงัย"
ชาร์กล่าวต่อ

"ส่วนสมองและปัญญาผมอาจจะสะสมอาหารมื้อที่ชอบโต้แย้งและวิพากษ์อะรัยที่มีอยู่ในลำไส้"ผมจึงเป็นกับคุณอย่างนี้คือเงียบ"
"เจนผมต้องขออภัยน่ะ"
"ถ้าคุณเข้าใจผิดผม"


ขาร์พูดให้ตนเองฟังอยู่ในใจแย้มที่ชาร์บอกผ่านสายตาไปสู่เจน
"
เจนก้มหน้ารับฟังชาร์พูดผ่านสายตาอย่างพินิจและก็จากไป.....

เจนกินอาหารชั่นเยี่ยมทุกวันเธอผ่านตลาดนัดทุกวันเธอมีเงินใช้ฟุ่มเฟือยจากเงินเดือนจากคฤหาสน์ที่ทำหน้าเป็นทาสของชาร์
แต่ชาร์นั้นกินข้าวต้มปลาเค็มและขนมปังปิ้งมื้อเช้ากับไข่ลวก1ฟองทุกวัน
และมีเนื้อกินวันละ1ขีด ของหวานเป็นผลไม้
กล้วยสุกและผลเบอรี่แก่ดำสุกงอมคาต้นทุกวัน
เป็นอาหาร
แต่เจนกินองุ่น แอปเปื้ลเหล้าไวน์นอก
อาหารทะเลทุกวันทุกมื้อ
จนพวกดามุกอิจฉาและเข้าใจผิดว่าเจนทำกับข้าวให้ชาร์กินทุกวันนอนกอดกันเมื่อเหนื่อย
ชอบบีบข่วยคลำมห้เมื่อชาร์ผู้เป็นนายต้องการแบะร้องขอ แค่ดามุดมองเจนผิด
เจนไม่เคยเข้าห้องครัวของชาร์แม้วันเดียวเมื่อมาทำงาน
และห้องครัวของชาร์เป็นเขตหวงก้ามสำหรับเจนอีกด้วย ขณะที่เจนมาทำงานที่คฤหาส์ชา
ร์มัวร์ทุกวันแม้ในยามที่ชาร์ป่วยหนักก็จัดห้อวึรัวเฉพาะและเขตจำเพาะใหม่สำหรับเจนจะพยาบาลชาร์อีกด้วย

แค่เจนก็ไม่เคยเล่าให้ใครรู้ถึงสถานการณ์ที่คฤหาสน์ชาร์มัวร์แม้นิดเดียว


เพราะเจนมีปรัขญาที่ว่า"ความในห้ามนำออกความนอกห้ามนำเข้า"ขณะเจนมาทำงานที่คฤหาสน์
แต่ที่เจนพูดพาดพิงถึงดามุกนั่นมันเป็นการพูดเชิงจินตภาพและคุยกันทางมือถือถึงพฤติการณ์ที่ต้องเฝ้าจับตาระวังของางคมชาร์มัวร์เท่านั่นที่เจนและชาร์คุนกันมีเท่
านั้น หลายคนคงงแต่จะเปิดเผยรายละเอียดต่อไป




ตอนที่20นิยายเรื่อง:เชร์นัวร์"งานเข้า" แล้วชาร์เดินไม่รอดต้องพยาบาล
ในทรัสต์ที่คุณวิเมียหลวงที่ตายไปแล้วด้วยโรคหัวใจ วิไม่ระบุว่าให้ชาร์นำเงินๆไปใช้รักษาตัว
ชาร์จึงมีงบจากประกันอบัติเหตุรักษาตัว
ซึ่งไม่ค่อยพอจึงไม่ได้จ้างพยาบาลพิเศษมาดูแลช่วงที่คนป่วยพึ่งตนเองไม่ได้เอาไว้
จึงร้อนถึงทาสคือคุณเจนต้องมาทำหน้าที่
พยาบาลจำเป็น ผลคือชาร์ต้อวเรียกทนายมาปรับปรุงสัญญาที่ชาร์เคยทำไว้กับคุณเจนใหม่
ระบุเพิ่มเติมในนิยายว่าให้พยาบาลสามีคุณวิด้วยช่วงสามีคุณวิป่วย....

ก่อนตายชาร์อยากวิเคราะห์ว่าทำไมสามีตายของครอบครัวตายก่อนก่อนกันชนิดไม่ใช้ข้อมูลบุคคลที่สาม
ความผิดพลาดของการตัดสินใจในการดำเนินชีวิต

และทำไมคนทำผิด...
คิดได้จะบอกเอกตั้งให้เจนเป็นเพื่อนคูคิด
โดยไม่มีความสัมพันธ์ส่วนตัวเชิงลึกอะไรกัน
และชาร์ปฎิญญาว่าจะไม่ร่วมเพศกับใครอีกจนกว่าตายแล้วไปเกิดใหม่และได้พบกับวิเมียหลวงหรือนางเอกของเรื่องนี้อีกครั้ง
หรือจะเน้นลบเวรและทำแต่ความดีเจตนาดีแม้นิดหนึ่งที่ทำได้เแล้วตายไปไม่เกิดอีกเลย และจะผิดหวังอย่างไรก็ไม่คิดฆ่าตัวตาย
แม้จะหลงกลพวกผีดามุกเข้ามาสิงร่างให้มีอันเป็นไปในคราบของการเมืองรัยๆในมุมมองของปัจเจกชน และชาร์จะเน้นคุณธรรมที่เคยทำ
เป็นข้อต่อรองในการรอดอยู่และาำคัญเสมอว่า
"สิ่งผิดพลาดต้องมีการชดใช้จึงถูก ถ้าไม่มี
สวรรค์เท่านั้นจะลงโทษให้"
ชาร์มั่นใจ
และชาร์เชื่อว่าอุบัติเหตุรักนอกจอกับเจนที่ดามุกมีแผนทำจะไท้เกิด
ขึ้นเด็ดขาดเพราะคนทีอาหารที่กินและความอบอุ่นที่มีเป็นตัวกำหนดสรรพสิ่งและชาร์มีสองอย่างนี้อย่างเรียบง่ายและมีชีวิตที่ไม่โลดโผน
เชื่อว่ามโนปณิธานของตนเองคงมีศักดิ์และมีสิทธิ์
ที่จะทระนงในความเป็นมนุษย์ของตนเองได้
แม้ชีวิตจสั้นลงทุกๆวันก็ตาม

และชาร์เชื่อว่า"ฝนบนฟ่าที่ตกลงมาบนพื้ยผิวโลกนั้นเป็นการควบแน่นของมวลอากาศจึงเป็นมิใช่มนุษย์เป็นผู้สร้างฝนเสมอไป แต่ที่เป็นมันเป็นกฎของธรรมขาติและปฏิกิริยาของมวลอย่างแท้จริงเท่านั้น"





เพราะเมื่อต้องกินและต้องรักษาตัวมีของเก่าเป็นทรัพย์สิาส่วนตัวอะไรขายได้ก็ขายไป โดยไม่แตะต้องพินิกรรมของทรัสต์ที่คณวิทำไว้ให้
ก็จะขายไปเพราะคนเราตายแล้วเอาอะไรไปไม่ได้ถ้าเหลือไว้1พวกดามุกจะต้องเข้ามาครอง
เราจึงทำเสียก่อน
2.กันการตายอย่างอนาถและคนดูถูก
ชาร์ตัดสินใจปฏิบัติตามนี้เชื่อว่าทุกสิ่งรอบข้างตนเองต้องลงตัวได้และประหยัด และมีอะไรดี
เหมาะเจาะก็ทำทันทีคำว่าสายไม่มีสำหรับปทานุกรมชีวิตของชาร์
เพราะเชื่อส่ารถยนต์ต้องมีคนขับมันจึงจะวิ่งได้
แลดถ้าขับมันอย่างไม่ประมาทอีบัติเหตุคงไม่มี
ส่วนสติขณะขับอาจเผลอบ้างอันนี้มอบให้ประกันภัยทำสติแทนให้ชีวิตของฉันคงไปได้สวยก่อนตายลงอย่างสงบและเรียบร้อบและ
ไม่เป็นภาระแก่คนรุ่นหลังและชาร์เชื่อว่า
คนมาจากดินและกลับไปสู่ธาตุดินอีกอย่างนี้เป็นวัฏจักรไม่มีใครเลี่ยงได้ การตายของคนนั้นไม่อมตะแต่คุณธรรมของการตายนั้นแลอมตะ


พอดึกมากช่วงน้ำท่วมไหลหลาก
ที่เมืองชาร์มัวร์ เสียวรถไฟวิ่งผ่านถี่ขึ้นปกติไม่มี
ในยามดึกเพราะตารางเดินรถเปลี่ยนไปเพราะทางรถไฟตัดขาดจากกระแสน้ำพัดพา
ชาร์ตึงคิดได้ว่า"ขีวตคนเราก็เหมือนรถไฟ"
แต่นิยายเชร์นัสร์นี้มิใข้นิยายชีวิตจริงรัยแต่ชาร์ตั้งใจให้เป็นวรรณกรรมทางเลือกใหม่เท่านั้น
เขียนมันขึ้นเพราะงานเก่าคุณวิทิ้งไว้ให้แก้และชาร์
เติมเต็มบางส่วนมันเข้าไปหากจำเป็น ตามปัญญามีและที่าำคัญเมื่อตนเองว่างจากเรื่อง"โน่นนี่นั่น"ของวันเวลาที่ผ่านไป
ในทุกวันที่กระท่อมเชร์นัวร์และคฤหาสน์ชาร์มัวร์นี้เท่านั้น
ชาร์ตั้งชื่อเรื่อวนี้ว่าเชร์นัวร์เพราะให้เกียรตินักการเมืองดังของโลกท่านหนึ่งคือเช กุวารา
the Guvara นักรบชาวอเมริกาใต้อดีตอณานิคมสเปนที่ทำตัวแบบทำสงครามกองโจรอันทรหดอันเป็นแฟชั่นในยุคหนึ่งและถูกสังหารในที่สุด แต่ชาร์มิได้หมายเอาการเมืองและปรัขชญาของท่านผู้นี้มาเป็นปรัชญาขอ
งงานเขียนเรื่องเชร์นัวร์ของตนเอง แต่ชาร์เพียงนำแฟชั่นการใข้ชีวิตทรหดคล้ายผู้นำสงครามกองโจรท่านผู้นี้ให้มาในปริบทในการใช้ชีวิต
ของชาร์หลังคุณวิตายไปเท่านั้น

       จากเหตุการณ์ที่ดามุกคุกคามสังคมชาร์มัวร์ที่เพิ่งรู้ว่ามีจริงจาก
เจนทาสผู้สวามิภักดิ์ของตนเองว่า"ดามุกมันมีอยู่จริง
แม้ชาร์คาดว่ามันคงเป็นอุปราการและปรากฎการณ์ทางสังคมที่จะมากกว่าที่มีมากกว่าปกติ


ที่ชาร์หรือเจนไปนำมาคิดมากเสียเวลาเปล่าแต่ชาร์ก็รับฟังที่เจนเล่ามาแต่การรับว่ามีอยู่จริงหรือไม่มีอยู่จริงชาร์ขอตัวคิดอีกที แต่ไม่บอกให้เจนรู้
เพราะถ้าบอกให้เจนรู้เจนก็จะไหวทัน จึงไม่เล่าอะไรให้ชาร์ฟังอีกและทาสเจนจะไม่มีเรื่องจะคุยด้วยเพื่ออารัมภบทในการปฏิสัมพันธ์ต่อกันระกว่างนายกับบ่าวไปเสีย

เจนพูดว่า" ดามุกนี่มีอยู่จริงนะค่ะ"
ชาร์ตอบว่าด้วยท่าทีอมยิ้มรับ
แต่ไม่ปฎิเสธว่ามีหรือไม่แฃะคิดในใจตนเองต่อไปว่า

"ก็ถ้าเจนอยากเล่าอะไรให้ผมฟัง เมื่อคุณมีอาหารอิ่มท้องมีรสชาติมีแรงเล่าให้ผมฟังผมก็ยินดีรับฟังต่อไปงัย"
ชาร์กล่าวต่อ

"ส่วนสมองและปัญญาผมอาจจะสะสมอาหารมื้อที่ชอบโต้แย้งและวิพากษ์อะรัยที่มีอยู่ในลำไส้"ผมจึงเป็นกับคุณอย่างนี้คือเงียบ"
"เจนผมต้องขออภัยน่ะ"
"ถ้าคุณเข้าใจผิดผม"
ชาร์ย้ำอย่างมั่นใจ



ขาร์พูดให้ตนเองฟังอยู่ในใจแย้มที่ชาร์บอกผ่านสายตาไปสู่เจน
"
เจนก้มหน้ารับฟังชาร์พูดผ่านสายตาอย่างพินิจและก็จากไป.....

เจนกินอาหารชั่นเยี่ยมทุกวันเธอผ่านตลาดนัดทุกวันเธอมีเงินใช้ฟุ่มเฟือยจากเงินเดือนจากคฤหาสน์ที่ทำหน้าเป็นทาสของชาร์
แต่ชาร์นั้นกินข้าวต้มปลาเค็มและขนมปังปิ้งมื้อเช้ากับไข่ลวก1ฟองทุกวัน
และมีเนื้อกินวันละ1ขีด ของหวานเป็นผลไม้
กล้วยสุกและผลเบอรี่แก่ดำสุกงอมคาต้นทุกวัน
เป็นอาหาร
แต่เจนกินองุ่น แอปเปื้ลเหล้าไวน์นอก
อาหารทะเลทุกวันทุกมื้อ
จนพวกดามุกอิจฉาและเข้าใจผิดว่าเจนทำกับข้าวให้ชาร์กินทุกวันนอนกอดกันเมื่อเหนื่อย
ชอบบีบข่วยคลำมห้เมื่อชาร์ผู้เป็นนายต้องการแบะร้องขอ แค่ดามุดมองเจนผิด
เจนไม่เคยเข้าห้องครัวของชาร์แม้วันเดียวเมื่อมาทำงาน
และห้องครัวของชาร์เป็นเขตหวห้ามสำหรับเจนอีกด้วย ขณะที่เจนมาทำงานที่คฤหาส์ชา
ร์มัวร์ทุกวันแม้ในยามที่ชาร์ป่วยหนักก็จัดห้อวึรัวเฉพาะและเขตจำเพาะใหม่สำหรับเจนจะพยาบาลชาร์อีกด้วย

แค่เจนก็ไม่เคยเล่าให้ใครรู้ถึงสถานการณ์ที่คฤหาสน์ชาร์มัวร์แม้นิดเดียว


เพราะเจนมีปรัขญาที่ว่า"ความในห้ามนำออกความนอกห้ามนำเข้า"ขณะเจนมาทำงานที่คฤหาสน์
แต่ที่เจนพูดพาดพิงถึงดามุกนั่นมันเป็นการพูดเชิงจินตภาพและคุยกันทางมือถือถึงพฤติการณ์ที่ต้องเฝ้าจับตาระวังของางคมชาร์มัวร์เท่านั่นที่เจนและชาร์คุนกันมีเท่
านั้น หลายคนคงงแต่จะเปิดเผยรายละเอียดต่อไป


คุยไปคุยมาเรื่องของเจนและดามุกที่เธอมารายงานให้รู้ในราคาจินตภาพ ทำให้ชาร์ต้ิงกลับไปเปิดตำราสมัยเรียนที่มหาวิทยาลัยอีกครั่งอีก
ครั้ง

แต่ชาร์ก็แบ่งรับแบ่งสู้ไม่กล้าโต้ตอบกับเธอว่ามานั่นมันมีมูลหรือไม่มีถ้ามีมูลก็ต้องไปดูว่ามันเป็นวิวัฒนาการของมนุษย์ตามสูตรของดาร์วินนักปรัชญาชาวอังกฤษว่าด้วยธรรมชาติที่ใครๆก็เรีย
นมาชนิด3หน่วยกิตอย่างต่ำในมหาลัยหรือมันเป็นสันดานของคน
ชาร์คิดหนักเมื่อเดิมทีคิดว่าที่เจนนำมานั้นเป็นเพียงเธอคิดมากแล้
วหาเรื่องคุยกับนายเชิงวิพากษ์แต่ตอนนี้เจนเท่านั้นที่ทำให้ชาร์หายใจต่อไปได้เพราะชาร์มีอุบัติเ
หตุนอนแคร่และพยาบาลคือเจนดูแลหยอดเข้าต้มทุกมื้อให้

ชาร์เองคิดว่าปัญหาทุกอย่างมันเป็นองค์รวมนะ่
คือโลกที่เราเห็นนี้ทุกวันนี้มันเป็นเช่นนั้นเอง
คืออยู่ด้วยกันได้แบบมีดีมีชั่วปนกันไปตามที่เพลงร้อง

มีให้ฟังและก็สนุกดีเพราะมีดนตรีบรรเลงเสริมจนบางครั้งที่อารมณ์นึกอยากฟังเพลง
ชาร์ยังไม่สามารถปลงใจได้เลยยว่าเพราะคนร้องหรือดนตรีที่ทำให้คนเราชอบฟังเพลงที่ร้ิองนั้นในจุดนี้ชาร์ตอนนี้
ยังหาข้อสรุปไม่ได้

ชาร์เกิดมาจากสกุลอกสามศอกทำมาสุจริตไม่เคยปล้นใครกินและมีฐานะต่อมาแบบสัมมา
และชาร์เกิดมาในยุคที่ตนเองเป็นเด็กในพานทองแล้วและไม่เคยรู้เลยว่า
แรงงานนั้นคืออะไร จนกล่ยเป็นทายาทแบยบนหอคอยงาช้าง หลังรัยมรดกเลือดก็รู้อย่างเดียว
ว่าเมื่อมีเสียมีสูญอะไรก็มีสิทธิทวงถามเอาคืนได้
ทำโทษคนผิดบำเหน็จคนถูกเป็นกฎหมายให้ยึดมั่นถ้าตัวนี้พลาดไปเกิดสงครามและสังคมวิกฤติแน่นอนเพราะความเที่ยงธรรม
แต่ก็ไม่ชี้ว่าดามุกผิดถูมีจริงไม่มีจริงในโลกตาม
ที่เตนเสนอมาพอดีชาร์มารู้ทีหลังอีกว่า
เจนมีขีวิตเหมือนชาร์ทุกประกาต่างแต่ความเป็นเพศเท่านั้นและไม่มีผัวอย่างที่ชาร์มีคุณวิให้เป็น
อย่างสถานะของชาร์ตอนนี้
เท่านั้นจากที่เจนเป็นทาสตามสัญญากับชาร์และคฤหาสน์ชาร์มัวร์และชาร์เป็นนายตามสัญญาของเจนด้วยเวินทรัสต์ขอวคุณวิตามกฎหมายเริ่มแรกแต้ตอนนี้เจนมีสถานะเพิ่มเข้ามา
คือเป็นพยาบาลและชาร์เป็นคนป่วยติดเตียง
ที่อดีตชาร์เคยเป็นพระเอกแบยพระนางต้องห้าม
ของเจนมาเป็นชายที่เจนสามารถจับถูกแตะลูบคลำคัวชาร์ได้ในฐานะคนป่ว
ย และขาร์เคยคิดไว้ก่อนอุบัคิเหตตุว่าจะตั้งให้เจนเป็นนางเอกแทนคุณวิที่ตายไปแต่ไม่ทีเพศสัมพันธ์กันและไม่จดทะเบียนสมรสส่วนมิเมย์และหิมะนั้นทำหน้าเสมือนเป์นเมียชาร์ก็จริงแต่มิเมย์และหิมะเป็นสัตว์จึงเป็นนางเอกไปแสดวหนังไม่ได้หนังจะสมบูรณ์ได้ต้องมีพระเอกและนางเอกคือคู่พระคู่นางให้คนชมดูนิยายที่เป็นหนัง(ภาพยนต์)นั้นๆจึงจะสนุก



เอาละมาที่แนวคิดเชิงคลาสสิก(โบราณบานบุรีโป้น)ของชาร์ที่เรียนมาคือ
แนวคิดปรัชญาบางอย่างของท่านเบอทรันต์ที่ว่า
สังคมเรานั้นมีเรื่องจะพูดหายเรื่องต่ถ้าพูดแล้วมันจะไม่สนุกเสพเห็นโดยสัวคมเหมือรกับว่า
ดูหนังรู้ว่าตอนจบพระเอกกับนาวเอกจะแสดงบทใดต่อเราก็ไม่อยากดู"ใช่มั้ย"
แค่ถ้าปิดแบะปล่อยวอบแวมๆทำให้คนอยากดูเพราะสงสัยไปคนเอาเองนะเจน มันยังงัย
ตามแนวปรัชญาของท่านนี้แต่ชาร์เข้าใจมาอย่างนี้ตอนเรียนอบบนิรนัยน่ะ

แบะก็สังคมยูโทเปียของมอร์(บรรไดสวรรค์และขนขั้นของมนุษย์หรือสังคมแบยรัฐในจินตนาการหรือรัฐในอุดมคติ
แนวคิดนี้เจนต้องไปดูเองนี่คือสิ่งที่ชาร์เข้าใจ
รวมทั้งแนวคิดหลักเหตุผลศาสตร์และตรรกศาสตร์อันเมามันส์สำหรับคนขยันคิดประจำยุคใหม่หรือยุคแบบทุกคนประเทศอาจจะมีอาวุธนิวเคลียร์คอยจ่อเชือดคอหอยโจรไว้พร้อมสรรพ์พร้อมและรอปฏิบัติแต่อาจปกปิ
ดไว้(ชาร์เดาเอา)กลัวทุเรศนึกขึ้นมาอย่างยุคนี้งัย


และแนวคิดของท่านทอยบีย์นักปรัชญาอังกฤษเข่นกันแนวคิดเรื่องการกลับสู่จุดเดิมที่ชาร์เข้าใจคือ cyclical theory ชาร์เชื่อว่าเป็นพลวัตร ทางประวัติศาสตร์และการซ้ำที่ชาร์เข้าใจอีกแนวคิดแบบ Bryondว่าทุกสิ่งๆสิ่งจะกลับมาจุดเดิมหมุนกลับไปกลับมาหรือมองเป็นลูกโซ่ก็ได้(ชาร์เป็นเพื่อนกับหลานนสาวท่านคน
หนึ่ง(ปกปิดชื่อ)เมือเรียนที่อังกฤษตรงนี้พอชาร์เล่าถึงเจนยิ้ม) คิดแบบ"บียอน"นี้อย่างนี้ถือเป็นมุมมองของชาร์มีอย่างนี้ต่อท่านทั้งหมดที่อ้างมาเพื่อมาดุลย์ปัญหาของเจนที่เสนอมาเรื่องดามุกและอื่นๆ



แค่ปัญหาดามุกอิจฉาเจนมีรถจักรยานยนต์สะดวกใช้เพื่อไปๆมาๆเมื่อเจนเผลอดามุกเอาาปูโยนทิ้งไว้ให้รถของเจนยางรั่ว มีปัญหากับเจน
ต่อมาและเจรู้มีแผนดามุกแกล้งอันก็แฟกเตอร์หนึ่งที่จะวิเคราะห์ต่อไปของเจนน่ะสำหรับชาร์นั้นถือหลักคือเมื่อผิดทำโทษถ้าถูกบำเหน็จไม่มีข้อละเว้นและกฎมอรัลเลียและกฎการชดใช้ และกฎถ้าผิดแก้ให้มันถูกถ้าถูกอยู่แล้วปล่อยให้ทมันถูกต่อไปอย่าไปแตะและเสือก ลัทธิทำอะไรแล้วทำไม่รู้ไมชี้ไม่มีอยู่จริง และลัทธิความลับไม่มีในโลกมีอยู่จริง  ลัทธิการรับผิดชอบและการชดใช้และความยุติธรรม ลัทธิหนีไม่รอด ลัทธิฉวยโอกาสและด้อยโอกาส"ใช่"
เท่านั้นที่ชาร์เหลืออยู่ให้ชาร์ครอบครองเป็นตัวเจว็ดแห่งเทพเจ้าแห่งนครชาร์มัวร์ที่สมุติได้ในโลกสวรรค์และมนุษย์ต่อไปของนิยาย"เชนัวร์"ที่ปรากฏอยู่นี้
"ฟังจบลงเจนหัวเราะร่า"
เจนนำไปตรึกดูเพราะถ้าชาร์กล่าวมานั้นมันเป็น
ปรัชญาข้างๆคูเพราะนี่เป็นนิยายมิใช่ตำรา
ตึวต้อวงไปดูเทกต์อักครั้งแต่เจนเชื่อแน่ว่า
นิยายนี้ของท่านชาร์คงไม่มี"ลัทธิกินแล้วโกยแนบแน่อน"


(130000                                              มอนสเตอราเน

                                     ภาค2ของนิยายเรื่องคฤหาสน์ชาร์มัวร์

 

 


 

            ตอนที่1 ภาค2
                 "มอนสเตอราเน"
   (ภาค2ของนิยายคฤหาสน์ชาร์มัวร์)
           "ส่วนเกิน และการอพยพ"
         1.  ส่วนเกิน และการอพยพ
(ส่วนเกิน และแบบการอพยพและการลี้ภัยทางใจ(Lunatic asylem)
                      "มอนสเตอรา"

หมายเหตุบันทึก บก.
1."มอนสเตอราเน"ชื่อจำเฉพาะนิยายนี้จากมอนสเตอรา "ไม้ฟอกอากาศ"ที่ราคาแพงสมใจ(Monstera deliciosa albo variegata (สีเผือกหรือสีเหลืองนมข้นหวานหรือสีmint)ที่ท่านบอกว่าเป็"The world most expensive plants"ที่พระเอกในนิยายนี้ชอบและเลี้ยงปลูกมันตามอารมณ์ฺ ไม่เน้นธุรกิจ ขณะที่ดามุกจ้อง

มาแอบดูและจะขโมยและทำลายเสียเพราะ “ความฉาอิจ” อิจฉาและและอาฆาตมาดร้ายในตัวชาร์และมรดกคุณวิเหมือนยุคที่ทหารโรมันห้ำหั่นคณะพระเยซูขณะยุคศาสนาคริสต์อุบัติ แต่ดามุกกระทำต่อชาร์และคุณวิแบบนามธรรม ในที่นี้คือการกระทำไม่ให้มีหลักฐาน ถ้ามีมันผิดกฎหมายเท่าที่ชาร์พระเอกของเรื่องนี้รู้สึก พระเอกจึงพยายามทำให้พวกดามุกเขาสยบด้วยหลักธรรมที่พระเอกนิยามมันว่าสิ่งนั้นคือ"มอรัลเลีย"ก็สื่อทางนามธรรม แต่ชาร์มิใช่"หมอสอนศาสนาและนักสอนศีลธรรมแต่อย่างใด"

จรเกิดสงครามลับหลังขึ้นมาในนวนิยายนี้ในภาพของปรัขญาและการต่อสู้

ที่ไร้เลือดและหนามคมและไม่มีตัวตน แต่จะแทรกมากับการดำรงชีวิตของชาวเชร์มัวร์

โดยตอนนี้พบว่ส"เจน"คือพยานปากเอกในเรื่องนี้ส่วนชาร์นั้นแม้ตะบาดเจ็บอย่างไร

ก็ไม่คิดสู้แต่วางเฉยพร้อมบันทึกการตำหนิในการกระทำของพวกดามุกไว้ตลอดเวลาและให้กาลเวลาเป็นเครื่องพิสูจน์โดยตอนนี้ ใข้อาวุธคือ " ไม่ชอบและไม่เห็นด้วย" ต่อการกระทำที่เลวทรามของดามุก

อย่างนี้จงหมดไป จยกว่าสันติภาพในทถกแง่มุมเกิดขึ้น

รำลึกถึงมิได้อ้างอิงอธิบายทางวิชาการใดนอกจากเป็นไปเองตามนิยายนี้
2.วิวียนน์ ชื่อเต็มของคุณ วิ สังเกตมี"นน์"
ท้ายวิเวียนน์ สำหรับนิยายนี้สื่อเท่านั้นมีพยัญชนะ นอ-หนูสองตัวเพราะสื่อว่าวิเวียนน์ในนิยายคฤหาสน์ชาร์มัวร์Chairmour Estate"และดรดท่อมเชร์นัวร์นี้นิยายนี้นั้นมีเชื้อสายต่างประเทศมิได้ชื่อพ้องกับวิเวียน “Vivien Leigh”ดาราในในเรื่อง “Gone with the Wind”(ชื่อภาพยนต์เรื่องวิมานลอย)ที่ “Clark Gable” แสดงนำ
3". คฤหาสน์ชาร์มัวร์ "The Hut of Charnoir' คือที่คุณวิเธอได้รับมรดกมา
กระท่อมเชนัวร์ คือที่พระเอกไปอาศัยตอนกลางวันห่างจากคฤหาสน์ชาร์มัวร์150เมต
ร อยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ
4.เชร์มัวร์คือชื่อสถานที่เหตุเกิดชื่อ
เชร์มัวร์
5.นิยายชื่อคฤหาสน์ชาร์มัวร์เล่มที่1 ส่วนกระท่อมเชร์นัวร์นี้ตอนเล่มที่2ของคฤหาสน์ชาร์มัวร์ นิยายกำหนดเล่มที่2นี้ชื่อว่า "กระท่อมเชร์นัวร์ ที่กำลังอ่านอยู่นี้"
         จากการหาสิ่งสงสัยจากสื่อจากด้วยคำเขียน จนมาด้วยคำพูด จนมาถึงด้วยภาพ จนมาถึงด้วยเสียง และด้วยจิตใจ และสุดท้ายด้สยอารมณ์  และท้ายสุดด้วยความรู้
สึก ตามระบบ(AI)(Artificial intelligence)ลันธิวิทยาศาสตร์
ริเริ่มขึ้น ความเจริญใหม่นี้ก้าวเข้ามาพร้อม
มๆกับโควิด-15ไวรัส"
        ยังไม่รู้ว่าอะไร! มาแบบไหน!และจบลงเอยอย่างๆไร แน่นอน แต่ท้ายสุด ยังคงมัต่อไปอีก ความก้าวหน้าจะมาอย่างไีร!  แต่ว่าทุกอย่างใช้ได้ มันลงตัว ทุกคนพอใ
จ และพากัน"ซื้อ"บริโภคอย่างไม่ลืมหูลืมต
า จึงสมกับที่นักปรัชญากรีกท่านได้กล่าวไว้ว่า มนุ๋ษย์เป็นเครื่องวัดสรรพสิ่ง
        แต่ที่นี่แน่นอน ผลงานนี้ มิใช่ลิงทำขึ้นแต่เป็นฝีมือจากมนุษย์แน่นอน(man- made)
ดูไม่ออกบอกไม้ถูก "ชาร์จึงมอวว่าขอให้มีชีวิตอีกนานแสนนาน ถ้าเทพเจ้าอนุมัติ เ
พื่อเห็นสิ่งที่วิทย์คิดไม่ออกแบบจิตวิทยาศาสตร์ที่พระเวทสร้าง จึงค่อย ๆ ตายตามคุณวิไป
       แต่ตอนนี้เพื่อแก้ควาสงสัยในตัวเองจึงย้ายจากที่คฤหาสน์ชาร์มัวร์ไปอยู่ที่กระท่อมน้อยปลายนา (กระท่อมเชร์นัวร์)ที่เร้นลับสุดยอดคือที่กระท่อมกระท่อมเชร์นัวร์นี้แล
        เพื่อเปลี่ยนอรรถรส(รสชาติ)แห่งชีวิตจิตใจและอารมณ์ ส่วน "เจน"จะได้ทำงานของเธอตามภารกิจที่ชาร์มอยหมาย ที่ทำสัญ
ญากันไว้ต่อหน้าทนายเป็นพยาน "เจน" เธอจะได้เเก้ผ้าอาบน้ำในห้องน้ำในเวลากลาง
วันเมื่อเธอเหนื่อยที่คฤหาสน์ใหญ่แม้กล้องวงจรปิดจะมีทุกมุม เธอจะไดีไม่เขินอายตัวเอง  เพราะถ้าชาร์ยังอยู่บนบ้านใหญ่(คฤหาสน์) แม้ห้องน้ำจะปกปิด มิดชิ
ดและวงจรปิดกันเหตุร้ายก็มีอยู่แต่ว่า โดยธรรมชาติของผู้หญิงก็กลัวคนเห็นเมื่อตอนแก้ผ้าอาบน้ำอยู่ดี ในห้องน้ำ
       เมื่อใส่กลอนล็อคแล้วก็เถอะ !  แต่ชอบล้างตัวที่ก้องน้ำสำรองนอกคฤหาสน์ แต่มีอุปกรณ์และปกปิดมิดชิดกันเหตุร้ายและสิ่งไม่พึงประสงค์เช่นกัน เว้นแต่มอซอกว่ามาตรฐานเท่านั้น"วิเคยบอกมา" แม้ขาร์เองไม่มีนิสัยเสีย แต่ว่า "คิดไว้อย่างนี้มองดูมีทัศนคติที่ดีนั้นเชื่อว่าจะดีกว่า"  ส่วนเจนนั้นถ้าชาร์แอบดูหรือมาเห็นเข้า เจนนคงจะพอใตอย่างยิ่ง ที่เนื้ออันเต่งตึงได้ให้ชาร์มอง แต่ไม่ปริปากพูดเชื้อเชิญเท่านั้น เพราะผู้หญิงขึ้อายเป็นปกติ
      แต่เอมส์(Aims)มันแบบนี้ดีกว่า"ท้ายสุดชาร์คิดสรุป"
     ชาร์จึงตัดสินใจไปอยู่เพราะคนเฝ้าคฤหาสน์คุณวิให้แล้วในเวลากลางวัน  และที่กระท่อมมีชาร์เฝ้าดูในตอนกลางวันเผื่อมีพวกดามุกมาแอบบุกรุกเข้ามาขโมยดักไก่เถื่อน ชาร์ไป
     อยู่กับหิมะแมวรักที่ถือเป็นเมียหลวงคนที่สองหรือว่าที่นางรองในนิยายเรื่องนี้(แมวรักนี้มีอิมมิเตจ(immitate)เป็นมนุษย์นิมส์(Nymph)ร่างงาม ใน"มโน"ด้วย เธอทั้งสองคือมิเมย์และหิมะทำหมันด้วยมือสัตว์แพทย์)
    เมื่อมโนขึ้นจึงมีภาพเป็นคนในจินตนาการ (ถ้าเป็นภา
พยนต์ก็จะเป็นตัวคนสมจริงปรากฎเป็นตัวตนแบบภาพยนต์เรื่อง"สุรีรัตน์ล่องหน (ช่วงพ.ศ.2507)"เป็นวิญญาณเลยทีเดียว)แต่ชาร์ ไม่ทำได้ถ้าจะเอาเมียใหม่จริงๆเพราะบอกแล้วงคนรักของชาร์
นั้นอมตะ มีวิที่ตายไปเท่านั้น เพราะเห็นใจคุณวิ จึง เบี้ยวเที่ยวที่มายกเเมวเป็นเมียรักให้อุ่นใจในตอนนี้นี่งัย "มันเหงานะเมื่อเมียรักตายไปนิ"
    ความเหวา ว้าเหว่ อ้างว้าง มันเป็นภา
พจิตหลอนหลอกชาร์อยู่ตลอดเวลา ไม่เช่นนั้นการฆ่าตัวตายจะเกิดขึ้น ในสิ่งที่ทำให้ชาร์เหงาเบื่อโลกเพราะขาดเมียระดับคนอันเป็นเพื่อนกอด และหลังเมียจริงๆตายไปตนเอ
งเหงาหงอยก็จะคิดฆ่าตัวตายตามวิไปแล้ว
      เมื่อชาร์ครองความเป็นแม่หม้ายทรงเครื่อวคือชายหม้ายเนื้อหอมตอนนี้ และถือว่า
โสดแม้ไม่สดๆเซ็งๆ และอยู่ได้อย่างมีความสุขด้วยทางออกด้วยวิธีการนี้
ทาง"ดามุก"ตัวโกงจ้องมองส่วนเกินในความเป็นโสดของชาร์ อยู่แบบแนวตั้งเลย "จากเจนยืนยันมา"แต่การเฝ้าระวัง เอาสติตั้งไว้ที่ตากับที่การตัดสินใจ คงชนะพวกนี้ไปได้ ถ้าชาร์ไร้หรือเสมือนไร้ความสามารถก็นิติกรรมมีอยู่ทั้งก่อนตายหลังตายเป็นตัวตายตัวแทนของตนเองได้ "ชาร์คิดอย่างนั้น" สรุปทุกๆอย่างลงตัวและปลอดภัยใรโลกที่มีอุปสรรค
        ส่วน"มอนสเตอราเน" ต้นละหลักล้าน ไม้ที่ทำให้ชาร์ลองเล่นนั้นแก้ขี้เกียจอารมณ์แบบหนาวใจเหมือนได้เฝ้าถนุถนอมคุณวินางเ อกของนินายที่ตายไป
      จากเสียงเพลงขับ
The Swan Lake
ตามด้วย
Danube blue
และปิดท้ายอารัมภกถาในตอนนี้ด้วย
Somewhere My Love ร้องโดยAndy Williams.
     ต่อไปชาร์จะเข้าเรื่องกัน และก่อนที่นิยายเรื่องนี้จะถูกวาง ชาร์เปล่งงานเขียน
ของวิ ไปอีกต่างหากที่วิเขียนไว้บ้างพอกลมกลิน
      แล้วก์เพราะคุณวิเธอก็มาด่วนตาย
ทิ้งและมอบให้ชาร์เขียนแก้ตรวจยิยายเรื่องนี้ให้เสร็จ พร้อมคฤหาสน์เชมัวร์อีก1
หลังเพื่อชาร์จะได้นอนเล่น และเงินทรัส
ต์อีกจำนวนหนึ่ง เพื่ิอชาร์จะได้จับจ่ายใช้
สอยเพิ่อดูแลคฤหาสน์(แต่ค่าดูแลตัวชาร์เองคุณวิมิได้ระยุไว้)และค่าจ้างคนงาน นอกนั้นชาร์"เธอไม่ต้องทำอะไร"วิเวียนน์ให้คำมั่นสัญญาพร้อมพินัยกรรมลับมีทะเบียนตราสินนี้ไว้กั
บชาร์
      วิเวียนน์ (วิ)บ่นว่า")ชีวิตเธอเท่าที่ผ่านมามีแต่การเดินทาง มีดีสบอารมณ์บ้าง ไม่ดีบ้าง(พายุและโรค) คล้ายการอพยพของคนพลัดถิ่นตลอดมา ไม่เคยได้"สถิ่น"( มั่นคงแน่นอน)สักพักเดียว
    "ชาร์นั่งฟังเธอพูดแต่ไม่ตอบโต้เธอเลยคำพูดอะไรทั้งสิ้น 
ที่ชาร์นอกจากานั่งอมยิ้มรับคำให้การของ
วิเธอขณะเธอนอนบนเตียงคนไข้ก่อนที่
เธอคุณ วิ จะตายจากกันได้ 2 วัน.
      มอสตะไคร้น้ำขึ้นเกาะอิฐจนเขียวสวย "ชาร์ชอบ" (และด้วยเหตุนี้เองชาร์จึงไม่ได้กลับไปคฤหาสน์บิลอนของตนเองนับจากสมรสกับคุณวิเสร็จ) ผืนหญ้ามอสมันรับกับลมอ่อน แดดสีทอง
รำไร  มันเป็นที่ร่มรำไร เป็นฉาก ตามอิฐบล็อกที่ทำเองของคุณปู่คุณวิ  มอสนี้เกิดจากคนเริ่มแล้วธรรมขาติช่วยเติมเต็มมห้จนเขียวชอุ่มสวย พอเห็นแล้วตาชอบใจนั้น
ก็สุดเพลินตาม ไม่เคยเบื่อ
      ท่านทำด้วยมือ "คุณวิ"บอก 
ดินเหนียวผสมแกลบ ดินปูนขาวนิดนึง
กับน้ำ กวนมห้เข้ากัน แล้วนำเขี้นเต
าดินแล้วเผาอบจนสุก
     2 วันผ่านไป เสร็จ!
ออกเป็นก้อน แข็งแน่นผนึกกันดีขนาด12นิ้วคูณ5นิ้วต่อหนึ่งก้อน
    มันหนา3นิ้วต่อก้อน ท่านบอกว่าได้ความ
คิดมาจากคนสูงวัยขณะปู่คุณวิ เดินทางไปเที่ยวเมืองจีนทางเรือที่นั้น ที่เกาะไฮหลำโบราณ
      สูตรนี้ทำไว้เกือบพัน(+-)1,000 ก้อนท่านทำในยุคเริ่มสร้างตัวเพื่อทำกำแพงบ้านชั้นล่างชนิดแบบครึ่งอิฐครึ่งไม้ แทนการซื้ออิฐแดงที่หาซื้อยากตอนนั้นยุคหัวรถจักรไอน้ำร้อน ควายลากเกวียน เชิง และล้อเลื่อน และควายทำนาแทนรถไถสมัยโป้น
       ต่อมาอีก 100 ปีให้หลัง บางส่วนเมื่อคฤหาสน์บางมุมมันชำรุด อิฐดินหนียวนี้ ถูกพาไปทำกระท่อม ไม่รู้ความคิดของใครให้ทำกระท่อม
        เพราะชาร์ไม่เคยถามคุณวิ เพราะกฎมอราลเลียว่าไว้ "ห้ามัา โน่น นี่ น้่น เรื่องส่วนตัวเพื่อน
         และ เพราะอะไรอีกชาร์จำไม่ได้
แต้เชื่อว่าเหตุเกิดกระท่อมนี้ คงเป็นที่พักฝนและแดด ของคนเลี้ยงแพะสมัยก่อน "พวกทาสได้มาพักที่แบบนี้จะไม่ล้าและเหนื่อย"
      จนต่อๆมาหลายชั่วอายุคน จึงเป็น
กระท่อมที่มนุษย์สามารถเข้าไปอยู่ได้ คุณวิหวงและไม่อนุญาตให้ใครไปเล่น ตอนเธอมีอำนา
จเต็มและรับมรดกชิ้นนี้มาแล้ว
      กระท่อม มีหลังคามุงกระเบื้องและมีตับจากหญ้าคามุงบางส่วน
มันจึงโรแมนติคมากเมื่อใครกล้าเข้าไป
       กระท่อมนี้เนยเป็นที่สำหรับที่ใครตัวรัยๆรีบๆวิ่งมา แล้วหยุดพัก เช่น เมื่อหมาจรจัดหหรือหมาบ้านหรือแม้เจ้าบ็อกเชอร์(ตัวนี้หมาประจำคฤกาสน์ชาร์มัวร์)
ที่วิ่งหอบหรือหิวหรือกลัวภัยอะไรมา แอบซุกพักใจแล้วไปต่อ อีกทั้งกระรอก กระจ้อน บางครั้งมีกระแตด้วย และที่กระท่อมมีนกชอ
บบินมาเกาะ เค้าแมวในคืนเดือนหงาย และเหยี่ยวนกเขาในตอนกลางวัน ชอบบินมาเกาะหลังคากระท่อม
ค้างคาวชอบๆบินมาห้อยคอนอน ถ่ายมูลไว้
เป็นหลักฐาน แต่ตอนชาร์มาพักค้างคาวจะน้อยลง
    ค้างคาวชอบบินมาเที่ยวในกลางคืน หลายตัว ส่วนตุ๊กแกไม่มีเลย สักตัวเดียว เท่าที่ชาร์สังเกต
      นกเค้าแมวชนิดนกฮูก นกพิทึดพิทือ(ตัว ใหญ่เท่าไก่ตะเภา) นกแสก(หน้าคนคล้ายผีคนตอนมัดตราสังข์โปกแป้ง)  นกกา บินมาเกาะบ้างนานๆครั้ง  นกเอี้ยงหงอน เอี้ยงควาย ชาร์ไม่เคยเห็น ที่กระท่อม
      ไก่แจ้และไก่เถื่อนที่นี่นักกะรึงดักไก่หรือพวกดามุกเซียนเลี้ยงชอบแอบมาขโมยต่อจะชอบมาซุกหัวนอนที่นี่ตอนชาร์ยังไม่มาที่ใช้ที่กระท่อมนี้เช่นกัน ไก่แจ้เลี้ยงและไก่เถื่อนเลี้ยงได้แต่ต้องมีคนอยู่ด้วยมิฉะนั้นมันตะเลิดเปิดเปิงไปอื่นหมด เมื่อมันขาดสมาธิ
       

 chapter2


                                   ตอน1 หน้าเต็มนำมาต่อกับตอน .2

(ตัดจากตอน1ที่่เผยแพร่แล้วแต่หน้าเต็มจึงนำมาต่อกัน)

                             ต่อมาหลัง"คุณวิ"ตายลง เมื่อชาร์ตัดสินใจรับทาสคนใหม่คือรับ"เจน"มาทำงานแล้ว
      ชาร์ได้ย้ายมาพักที่กระท่อมนี้ในกลา
งวัน เป็นทางกาน ที่ชาร์มาของกระท่อม และเลี้ยงมอนสเตอราไว้ 2-3ต้นไว้ดูสมัยนั้นตเนมอนสเตอ่าเาพลูฉลุ พลูแฉ พลูด่างขนิดนี้ยังไม่นิยมหลักล้าน มันจึงเป็นไม้ที่รสนิยมคนชอบ น้อยตอนนเ้น เพ่าะยังค้นไม่พบว่ามันเป็นไม้ฟอกอากาศได้มันจึงเป็นเพียงไม้ประดับสายตาเท่านั้น แต่ตอนนี้
นั้นชาร์ชอบสิ่งนี้เพราะแปลกปลูกได้ทนอากาศเสียได้และเป็นริ้วรอยมิาต์สีตัดกันสวยงาม  ทั้งสามต้นลายขาวมินต์ตัดกับ
สีเขียว หลายคนอยากซื้อแต่เจ้าของไม่ยอมขาย แม้ตอนนั้นถ้าขายก็ได้ถูกถ้
าใครพยายามจะขายและเสนอขายมันในราคาสนน(ราคาสนใจซื้อ) และรอวันฝันเป็นจริงซึ่งยากเย็น "คนขายต้นไม้ชื่อเจ๊จ้อง ที่สามแยกตลาดนักโคถึกบอกมา" และบอกมา
      แต่ชาร์ไม่คิดเพื่อขาย แต่คิดปลูกมันเพราะชอบและแปลกและถือว่าเป็นปรัชญา จึงทำมันหนุกๆเล่นๆ เพราะชาร์ไม่ร้อนเงิน แต่ต้องการหาความสบายใจ ก่อนตายแบบธรรมชาติวิทยา เ(พราะถ้าชาร์ฆ่าตัวตายตามเมียรักเป็นอาญาในตัวมันเอง )เพื่อได้ไปอยู่กับคุณวิที่สวรรค์ของเมืองผี

                              ตอน 2.   “ความรักที่บางเพลย์”

                            ความรักที่บางเพลย์เป็นส่วนที่เกินของมนุษย์ผู้อาภัพ จากการได้ มาเก็บองุ่นรับจ้างที่"ลอก-ซู -อูด"ประเทศฝรั่งเศส

ชาร์ขออนุญาตนิยามมันในฐานะเป็นคนที่มีเสี้ยวหนึ่งของคนอาภัพที่มีส่วนเกิน

ทาสและคนขาดส่วนเกิน ที่เชร์มัวร์เป็นแบบไหน คือใครอยากได้ต้องหาเอาเอง ทำงานเอาเพื่อแลกกับสิ่งเหล่านี้
ที่เห็นว่าชาร์มี แต่พวกทาสไม่มี “เขาไม่มีจริง ๆ” และพวกดามุกนี่ที่จะ
ขนานนามได้เลยว่
า พวกเขาเป็น"ราชาแห่งการอิจฉา " ที่นี่นะ!ที่อื่นไม่รู้งัย เห็นก่อนจึงพูด ไม่เห็นอย่าพึ่งพูด เพราะมันขัดกับมอรัลเลียของชาร์

  ความรักที่บางเพลย์

เพราะ"คุณวิ"เธอปฏิเสธให้หมอมาเยียวย
า แม้ชาร์ผัวรักจะแนะนำเธอ
ท้ายสุดตอนนี้เธอย้ายไปนอนในหลุมดินหลังคฤหาสน์เชร์นัวร์ด้านทิศตะวันตกที่มีต้น
ลั่นทมแดงและนกแซงแซวเป็นเพื่อน

"บอกอะไรเธอก็ไม่เจื่อ"ชาร์ค้อน
ถ้าเจื่อผมสักนิด
เธอคงรอด
"ชาร์ทบทวนเหตุการณ์วันนั้น"ก่อนที่เธอจะตายลงอย่างสงบต่อหน้าชาร์นั่นเอง

        ผล "ทุเรียนน้ำ"ของหวานมื้อนี้ ตามด้วยเงาะป่าขึ้นเอง และสับปะรดปลูกเอก 
และกล้วยหอมใหญ่ดอกขาวอมสีชมพูเนื้อ ออกปลีกล้ว ที่ชาร์ได้นำมาต้มกะทิกินได้หร่อยดี ในช่วงชีวิตสมถะและสงครามโรคโควิด-19(2564.สค.)กำลังระบาดชาร์ฝันว่าตัวนี้แก้ได้ก่อนตายขอได้"อิ่มและอร่อย"คงรอดว่างั้น

        ตัวหลังคือผลกล้วยนี้ ชาร์ขาดไม่ได้ เพราะพบว่เมื่อกินกล้วยหอมใหญ่มากๆ สายตาของชาร์เองจะดีขึ้น ต้นมันใหญ่ใบสวยถ้าปลู
กต้องหมั่นดูแลถ้าคิดจะกินมัน ปลูกไม่ง่ายเหมือนกล้วยน้ำว้า
         "ใช่" ส่วนเกินมันตรงกันข้ามกับส่วนขาด
            ชาร์มีส่วนเกินมากเมื่อเทียบกับทาสทุกคน
ที่เชร์นัวร์ แต่ว่าทุกคนเกิดมาก็มีส่วนเกินติดตัวมาทั้งนั้น เช่น อวัยวะเพศและลมหายใจที่มีอากาศบริสุทธิ์ และการได้หลับสนิทเป็นส่วนเกินของทุกคนทาสที่เชร์นัวร์
นอกจากนั้นที่แปลกไป ที่นี่มีก็คุณ วิและคุณชาร์เท่านั้นที่มีส่วนเกินที่นี่ที่น่าอิจฉาที่สุดเพราะบ้านมีรั้วแข็งแรงมีดอกไม้ป่าขึ้นเองไม้ไม่ต้องปลูกขณะนิเวศน์ถูกทอดทิ้ง ส่วนมากที่นกและค้างคาวนำมาช่วยปลูกและฤดูกาลช่วยพรมและสังคมช่วยชื่นชอบชมวิวแห่งนิเวศน์ทัศน์อันอลังการและฟรีสุด

'ก็มีส่วนเกินอะไรอีกรึ"เรานะ
ชาร์ย้อนถามตนเอง

"เกิดมามีทุกอย่างไม่ต้องมาดิ้นรนหาอีก
เช่นบ้านรถ นิเวศน์ และเงินติดตัวที่พอเพียงเพื่อใช้ก่อนตาย"

      ทาสทุกคนที่เชร์นัวร์ไม่มีสิ่งดังกล่าวนี้ทั้งหมด "พวก เขามีแต่ลมหายใจและการได้นอนหลับสนิทเป็นส่วนเกิน แต่ชาร์พบว่าตน
เองไม่มี ลมหายใจต้องซื้อจากการได้นอนแอร์ หลับสนิทได้ต้องซื้อจากคนยามดูแล และ



ที่เป็นเพื่อนใจให้เขาเอง อยู่ได้ในวันๆหนึ่งอย่างมีความสุข

ชาร์เชื่อว่าทุกชีวิตที้หายใจเป็น กำลังหาส่วนเกินเพื่อเติมเต็มให้กับชีวิตตนเอง ให้เหมือนคนอื่นที่เขาเกิดมามีส่วนเกินมาแล้ว
ชาร์เขื่อว่า ส่วนเกินหาไม่ยากเมื่อมี"มอราลเลีย"(Morallia)
             ส่วน"เจน"นั้นทาสใหม่แห่งเชมัวร์มองเเล้วก็ดูดี 
             แต่ในสายตาของดามุก "อ้ายยายนี่มาขวางลูกกะตาพวกกูจริงๆ"
และความจริงมีว่า ที่ดามุกไม่สืบค้นมา
" เจนเคยติดคุกเพราะมีสิ่งเสพติดครอบครอง และนอกจากนั้นยังมีเรื่องการเมืองอีกแบบทับซ้อนซ่อนทับ"ทั้งจริงทั้งเท็จผสมกันไปแล้วเราไปดูกัน เพราะสรรพสิ่งพิสูจน์กันได้ด้วยเวลา "ชาร์คิด"

      ตัวหลังอาจจะมีปัญหากับชาร์
เพราะที่คฤหาสน์เชร์มัวร์สถาบันแห่งนี้
ไม่มีการเมืองแม้ไปเลิอกตั้งก็ไม่เอาเว้น
ถูกบังคับ เพราพเขมัวี์ขาดความสงยหบังพ่อคุณวิตายลงด้วนการถูกฆาตกรรม
        ที่นี่ไม่เอาทั้งส่วนายทุนนิยมและคอมมิวนิสต์นิยม "แล้วเอาอะไร"
คำถาม
หลังจัดศพ"คุณวิ"เสร็จจะบอก
"ชาร์โพล้งออกมาทันทีถ้ามีคำถาม"

ที่เชร์นัวร์นี้เมิื่อมองให้ดี
จะมีก็ส่วนเกินนิยมเท่านั้น เพราะทุกคนที่เชมัวร์ไม่มีใครเหมือนเชมัวร์สักครัวเดียว
ประวัติศาสตร์บันทึกไว้อย่างละเอียดเพราะมีคดีความเกิดขึ้น
     ถ้าทางตำรวจสงสัย
ว่ส"เจน"
มาร่วมหัวกับชาร์เพื่อขอมีทุนผลักดันชีวิตตัวเองออกสู่สังคมวิกฤติ ที่ตนเคยประสบ

คำตอบ" สบายมาก กฎหมายมี ถ้าจริงอย่างที่ดามถกเสนอมาทางสายโทรจิต(จิตวิทยาทำ
ลายสมาธิแบบผีหลอก)
"ชาร์มั่นใจ"

        แต่อันนี้ชาร์แก้ไขได้คือ

กรอบมุมมตัวนี้ มีว่า ขอให้เจนเอาแต่การงา
นให้ใช้ได้  แต่เรื่องส่วนตัว(เเอบมีชู้กันมีสินบนทางเพศกัน)นั้นไม่เกี่ยว คือเจนจะมีประวัติอะไรเสียมา  ตอนนี้รับเข้าทำงาน
แล้ว( ที่ถือคือก่อนนั้นทำไม่มีใครพูด เรามีข่าวปรกาศทาง นสพ. ท้องถิ่นถึง15วันถึงเรื่องการรับคนเข้าเอาคนออกจากที่นี่)

           ตอนนี้ จะมาเหมาเอาเป็นว่า "เจน"เอาตัวมาทำที่นี่เป็นหน้าต่างของตนเองเอาบ้านเชร์มัวร์เป็นทางออก 
อันนี้ย่อมผิดหวัง 
เพราะเขร์มัวร์เป็นตระกูลเก่า มั่งคั่งมาก่อน
มั่นคง มีหน้า สายบุญชั้นเยียมของชุมชนในอดีต
แม้ตอนนี้ไม่มีรายได้

            เป็นที่เชิดหน้าชูตาเท่านั้น(เพราะคุณวิสั่งปิดประเทศตนเองทำนองนั้น หลังพ่อเธอตายลงและมารับมรดก)
ใช่!
หลังคุณวิตายลง
          เจนตามประวัติ เคยเล่าให้ชาร์ฟังในวันแรกบและนัดสัมภาษณ์ใช้เวลาถึง3ชั่วโมงในห้องลับที่นี่
เธอกล่าว(ในบันทึก)

ว่า ครอบครัวเธอมีภัยจากโคตร มีคนกลุ่ม
หนึ่งติดตาม ยังไม่มั่นใจว่า"ดามุก"รึเปล่า
เพราะหลักฐานไปเชิงคดีได้

        แต่พบว่า 
"เจน"กำพร้าพ่อแม่แต่เด็ก อยู่กับยาย(แม่ของแม่)มีฐานะพอสมควร คือพอส่ง"เจน"เรียนมหาวิทยาลัยได้
เจนสารภาพทุกอย่างเปิดอก(ด้วยสาเหตุนี้กระมังชาร์จึงตัดสินใจรับเธอเป็นทาส)ในวันนั้น
ก็ที่เชร์นมัวร์ยึดหลัก " การไม่บังคับจิตใจคนอื่น คือให้เสรีภาพคนคิดเองทำเองและเป็นเองเป็นสำคัญ"ไม่ว่าจะเริ่มตรวไหนที่นี่ เว้นกฎหมายแม่บททที่นี่ เช่น ฆ่าคน ขโมยขอ
งหนี ให้การเท็จเป็นต้น
นอกนั้นที่นี่ไม่ว่า

           การยึดหลักมรรยาทสากล

เช่นมรรยาทอังกฤษเขามีมรรยาทว่า 
"การขอให้คนอื่นทำอะไรตาม หรือว่าถามความสมัครใจ" ใช่!ความสมัครใจ"
จะพบว่า เป็นประโยคหรือวลีเต็มภาษาอังกฤษว่า:

"If you like".
ถ้าคุณชอบ

" If you do not mind".
ถ้าคุณไม่ว่ากระไร

"Coud you".

ได้ไหม
"Will you".

จะได้ไหม

"May I  go with you".
ขอไปด้วยได้ไหม

"Can I come with you".
เรามาด้วยกับคุณได้ไหม
           ทั้งหมดนี้เป็นใบเบิกทางในการใช้ชีวิตปฏิสัมพันธ์กับสังคมในทุกชีวิตที่ประสบ(จากในครัวเรือนและนอกครัวเรือน)
แบบยังงัยเสียสิ่งแรกคือ "ต้องบัวไม่ให้ช้ำ
น้ำไม่ขุ่น"เป็นสำคัญ"ก่อนอื่น  

         คือไม่ขัดใจกัน 
คือไม่ทำอะไรแบบให้ตามอารมณ์ตนเองหรือ"ห้ามทำอะไรเอาแต่ใจตัว"
คิอละเมิดความพอใจของผู้อื่นเป็นหลักในการใช้ชีวิตในทุกลมหายใจจนถึงวาระแห่งการตาย
            อันนี้

เป็นบรรทัดฐานในการใช้ชีวิตอยู่ในประเทศอังกฤษได้ในประจำวัน ที่ชาร์ พบว่า" มิใช่พูดผิดไวยากรณ์เขาจะไม่พูดด้วย"อันนี้เข้าใจผิด"
ทุกครอบครัวก็จะมีแต่"สันติภาวะ"แม้สงครามกำลังคุกรุ่นในทุกวินาที ถ้าทำได้อย่างนี้
“จะไม่ขัดคอกัน จะไม่ละเมิดกัน”

นั่นคือทุกความหมายของทุกคนก่อน "ที่ต้องคิดก่อนพูด "
เมื่อได้มองหน้าและอ้าปากพูดอะไรออกมา    

         ต่อ
ไปเรื่องกฎหมายแม่บทเช่น การฆ่าคน คนฆ่าต้องถูกรับโท
เรา(ชาร์)ยกเช่นกฎหมายของ "แฮมมูรามี" กฎหมาย"จัสตี
เนียน" และอื่นๆอีก

ส่วนประโยชน์ที่จะได้รับในระดับใดระดับหนึ่ง

นั่นคืออรรถประโยชน์ลัทธิ

เชร์มัวร์ถือว่าเจนเป็นอรรถประโยขน์ของชาร์และคฤหาสน์ตอนนี้ ถ้ามีปัฯหาอะไรจะให้ทนายดูแลให้

ปัญหาอะไรจะพึงมีพึงเป็นในประวัติอของ"เจน
ชาร์และคฤหาสน์นี้คงสงวนสิทธิ์ไม่รับผิดชอบต่อท่สทีขแวเธแ
หากมีหรือ"เจน"นำเขื้อไวรัสสายพันธุ์ไหนเข้า
มาสู่คฤหาสน์เชร์มัวร์
ทำเป็นผลใหัลงานชีวิตประจำวันของเธอที่คฤหาสน์เชมัวร์

สิ้นสุดลง
และชาร์ทัศนะต่อเจนในการทำงานนั้นเน้นที่การคิดคำนึงถึงแบบใน
ลัทธิอรรถประโยชน์ ของชีวิต

เพียงคิดว่า
ทำอะไรที่มีประโยชน์กั
บตนเองและผู้อื่น

อันนี้สำคัญมาก การที่จะเป็นคนสมบูรณ์ได้ ต้องมี
รรถประโยชน์

คนทำงานถือว่าทำประโยชน์ให้นายจ้าง ๆให้รางวัลเป็นเงินเดือน
มีประโยชน์ต่อกัน

          ต่อไปมีคนคิดหนุนคือคิดให้อยากให้ชาร์ตั้งสำนักปรัชญาเสียเลย
เพื่อสนองตอยบุคคลิกไว้ทรงผมบุบผาชน "พวกดามุกหนุนทีเดียวเรื่องนี้"
ชาร์ตอบว่า
          "เอาแค่คิดเป็นเท่านั้นก็พอ พวกดามถกเชียร์เพื่อให้ขาร์ออกนอกเส้นทางมากกว่า
แน่นอน สิ่วเหล่านี้
"มากไป" และสื่อผิดๆ เราต่องถูกประณาม
ถ้าผิดแนวคิดสากลและธรรมชาติของความจริง
ขึ้นมา

         และเป็นถือกบฎต่ออดีตได้ ชาร์ไม่พร้อมเป็น
เจ้าสำนักปรัชญา เชร์มัวร์
"Institue of Charmoir Philosophical thoughts"

          "สำนักปรัชญา" ชาร์คิดว่าตัวนี้เอาเพียงแค่ให้ทุกคนรู้ว่าโลกเขากำลัง"จะพัฒนาให้ทุกชีวิตในโลกได้มีส่วนเกินเท่าๆกันก็พอแล้ว ฉะนั้นทุกคนต้องรอวันนั้นมาถึง ถ้าหรือรวมดามุกด้วยถ้ายังไม่พอใจอะไรกันอีก และก็ไม่ต้องไปทำสำนักปรัชญาอะไรให้สังคมตื่นตระหนกเปล่าๆ เพราะโบราณแห่งกรีกทำโลกปรัชญามาให้แล้ว

          ส่วนคำว่าImprest   คือการออกเสียง
เน้นเป็น"t"ออกเสียง แต่มันคือ(impress-impressive)แต่เขียนสะกดเป็นตัว"s"นะที่ชาร์หมายถึง
 

 

Chapter3


 


 

 

 

กระท่อม นี้
สำรับชาร์ มันคือจุดกำเนิดของสรรพสิ่งและกระท่อมเชนัวร์……

 

 

กระท่อม นี้
สำรับชาร์ มันคือจุดกำเนิดของสรรพสิ่งและกระท่อมเชนัวร์……

ต่อจากตอนที่2และขึ้นตอนต่อไป

ร่วมกัน(หน้าเต็ม)…..คาบเกี่ยวกัน

ความรักที่บางเพลย์


      หนังสือเล่มนี้หลัง"คุณวิ"ตายลงชาร์ได้เก็บไว้ใน"ตู้ไม้สักมีค่าเป็นสมบัติเก่า"บนคฤหาสน์เพื่อเป็นอนุ
สรณ์แด่คุณวิทรฝี่ขอยอ่านหนังสือเล่มนี้เป็นชีวิตจิตใจทีเดียว

ส่วนที่กระท่อมห่างไปทางทิศตะวันจากคฤหาสน์เชร์มัวร์ 50 เมตรมีโฉนดและหลักเขตที่ดินแบ่งไว้เฉพาะชัดเจนนานมาแล้วสมัยปู่ของคุณวิ


         ที่กระท่อม ไม่มีไฟฟ้าใข้ มีแต่น้ำบ่อมีตุ่มใหญ่ และเตาฟืน เตาย่าง มีแต่ไฟแสงอาทิตย์ติดไว้ช่วงหลัง และ เป็นเขตหวงห้าม
ใครเข้ามาที่กระท่อมถือว่าบุกรุก มีป้ายติดไว้
ถ้่าตอนนี้ใครเข้ามาแสดงว่า"มาเพื่อฆ่ามุ่งร้ายชาร์" ตำรวจเห็นให้จับทันที

        แม้"เจน"ทาสคนใหม่
ก็ไม่อนุญาตเข้ามาทุกกรณี
ที่กระท่อมเชร์นัวร์นี้ เพราะกลัวผี"คุณวิ"ดุเอา
เนื่ิองจากเธอหึงหวงมาก(พ่อมด"สิงคล
า อายุมาก หนวดขาวโพลน ยาวเฟื้อย เดินไม่ค่อยไหว มีไม้เท้าเป็นพาหะในการเดิน ตาบอดหนึ่งข้างๆซ้ายและเป็นหมองู มีว่านงูไว้ในครอบครอง คนเชร์นัวร์ถือว่าท่านเป็นพ่อมด"


          ในวันฝังศพ"คุณวิ"ท่านทำนายบอกชาร์ไว้หลังวิตายลง

           ชาร์รับฟังและพองขนเมื่อได้ยินคำนี้จากท่าน


      ที่ กระท่อมเชร์รัวร์ติดกับสระบัวเป็นสระใหญ่ มีกบและตัวนาก เขียดน้ำค้าง จิ้งหรีดขาว และตัวตะกวด และงู่เห่าและตัวพัวพอนชุกชุมมากเป็นนิเวศน์สมบูรณ์ "ท่านปลัดอำเภอท่านหนึ่งยืนยัน" ตอนมาตรวจเยี่ยมดูความสงบในพื้นที่ นานมาแล้ว และมีบันทึกในสมุดเยี่ยมถูกเก็บรักษา
ไว้ที่บนคฤหาสน์


หนังสือเล่มนั้นมีชื่อว่า:

 

หนังสือ The Point Counter Point ของAldoux Huxley
เขาแปลว่าจุดเคาน์เตอร์จุด งานที่ซับซ้อนในการมองตัวละครอื่นจากเรื่องที่เจาะจงมาเฉพะของตัวละคร(จำเป็นมีอ้างอิง)ตีพิมพ์ พ.ศ.2471

 


"คุณวิ"ซื้อมาจากปารีส ที่ร้านขายหนังสือเก่าริมฝั่งซ้ายแม่น้ำเซน
ชาร์จำได้เพราะวิบอก แต่ชาร์ไม่มั่นใจ
สรุปวิซื้อมาไม่ได้ขโมยหรือหยิบจากเพื่อนมาเฉยๆ" ว่างั้น"

 

 

                  


                         ความจริง

                   (ความจริงเกินไป)

   Chainoir เป็นชื่อกระท่อม ในแนวนอน
ที่เป็นที่นอนเล่นพักกลางวันของ"ชาร์ "หลังจากที่รับ"เจน"เข้ามาเป็นทาสคนใหม่ของคฤหาสน์ชาร์มัวร์แล้ว ส่วนคำว่า เชนัวร์มันต่า
งจากชื่อของคฤหาสน์Charmoirอันเป็นมรดกของพ่อคุณวิที่ตกทอดมาที่วิและตกทอดมาถึงชาร์ผู้โชคดีแต่อาภัพตอนนี้ 
"ใช่"ชื่อกระท่อมและชื่อคฤหาสน์มันต่างกันนิดนึง คือChair นั่นมีที่มาและความหมาย
ก็และชาร์ยังมีอีกที่ยังคิดไม่ออกเพราะกลงและลืม คือตอนนี้ลืมไปว่าคำพยางค์นี้มันสื่ออะไร คือคิดได้จะบอ
ก แต่ที่แน่นอน มันเป็นคำดี ที่แน่นอนคือคำสนธิหลังคือ"นัวร์"มันคือแปลว่าสี"ดำ"มัน เป็นคุณศัพท์ในภาษาฝรั่งเศส จำได้เพราะขาร์เคยเรียนภาษาฝรั่งเศสที่กรุงปารีสประเทศฝรั่งเศส ณ.ที่นั่นมีความหลังมากมายเช่นการสนุกกับการนั่งรถไฟใต้ดินที่นั่น กับภาษาที่เพราะและสนุกอีกแนวนึงของโลก


     "  ต้องขออภัยกับธรรมชาติและความจริงของผม"ชาร์พลันสารภาพ" 
คือ ยังไม่เจาะจงว่ามันมีความเป็นมาอย่างไ

ตอนนี้ยังคิดไม่ออกคือลืม เมื่อคิดได้จะบอ
ก ส่วน"noir "แปลว่า"ดำ"


อ้นนี้ดูแล้วเกิน แต่ว่ามันเกินเชิงปรัชญา
ในที่สุดแห่งส่วนเกินที่คนรักความพอใจของตนเองจะพอใจมัน โดยไม่ต้องมาหาคำตอบให้ "สภาวะในตัวมันเองงัย"

"ยังไม่บ้า"

ชาร์ย้ำ
  " ใช่" ทั้งหมด  เป็นชื่อของนวนิยายชุดที่อ่านอยู่นี่นี้ 
ที่ชาร์เขียน มันจากงานคุณวิ มันเป็นแรงบันดาลใจที่เกิดร่วมกัน"แบบมีอารมณ์ร่วม"ในทางวรรณกรรมร่วมกันมิใช่ทางเพศ
เพราะในทางเพศเมื่อเราคือวิกับผมมีชีวิตอยู่กันตอนนั้นชาร์ จำได้ว่าจะหลับนอนด้วยกัน มันนานๆมีได้ครั้งเท่านั้น "และดีอิ่มสุข
ว่งั้น แต่ตัวนี้ไม่ใช่สาเหตุที่เราไม่มีลูกด้วยกันนะ " ถ้านอนด้วยกัน เราเรียกมันว่า"การออกกำลังกายบนเตียงนอนงัย"

จากประสบการณ์ที่บินลงที่สนามบินออร์
ลี่Orly Avion และ ที่มหานครปารีส อันกระจ่างสีและแพรวระยับ

ทุกๆอย่างชาร์จำมันมาอย่างเป็นระบบชนิดไม่จดบันทึกอย่างก็จำได้ ที่เขาทำกันคือ
ไม่ประสงค์ต่อผลของความจำอะไรที่นั่นว่างั้น ชาร์เจอถนนชื่อว่า"Rue de Siam"อีกด้วยที่กรุงปารีส และก็ดีใจที่เกิดมาเป็นSiamese Siamesr cat, Siames twin,...อีกเรื่องที่นำมาบรรจุในนิยายเพื่อ
รำลึกถึงคนเขียนป้าย จำได้ว่าป้ายเป็นตัวหนังสือสีน้ำเงินบนพื้นสีแดง แผ่นสังกระสี
เสาลายสวยเชื่อว่าทรงลุยส์

ครับ! ชาร์พระเอกของเรื่องนี้ยอมรับ
คือปล่อยให้มันคิดได้แบยคิดผลุดขึ้นมาเองอย่างเป็นระบบ มันจึงไม่มีพิษทางการเมืองทหาร และคณะปฏิวัติ ปกครองประเทศ
ในสมัยวิยังมีชีวิตอยู่


เพราะชาร์เดิมทีไม่คิดอยากเป็นนักเขียนชื่อดังสำ
เร็จรูปเพราะถ้าเป็นมันจะ"อดอยากและจน"คือเงินไม่พอสนองความต้องการสุขที่เขาทำกันได้ว่างั้น  คุณลีเดียท่านบอกผมมาตอนไปพักอยยู่กับท่านที่อังกฤษ(England) เมืองออกร์ฟอร์ด(Oxford)-(Lydia Pasternek)น้องสาวของบอริส ( Boris Pasternek)ผู้เขียนวรรณกรรมชาวรัสเซีย หนังสือนิยายเรื่องดร.ชิวาโ
ก(Dr.Zchivako)และได้รับรางวัลโนเบลปีคริสตศักราช  A.D.(Anno -domini  ภาษ
าลาติน -Latin)1958(ถ้าบวกด้วย543เมื่อจะทำให้เป็นพุทธศักราช)

     ถ้าเข้าไปรับตำแหน่งนี้ 
แต่ชาร์สนใจทำมันเพราะอารมณ์มี และเชื่อว่าเพราะความที่ท่านเทพเจ้าพระองค์หนึ่ง
ทรงได้โปรดประทายมาว่า " ต้อง
ทำและเดินไปตามทางที่ท่านกำหนดมา เหมือนเราเกิดมาได้ต่างกรรมกันงัย"
(ชาร์ขออนุญาตอารมณ์ความรู้สึกว่าใ
ช้ร่วมๆกันตอนนี้ก่อนแล้วกัน)

 


    ณ กรุงปารีส   ศิลปะข้างถนนและไวน์ที่โรงเตี้ยมน้อยใหญ่

เรียงรายเต็มถนนหนทางทุกช่วงเหมาะเจาะจนตาตนเองมองไม่หมด และต้นเมเปิลเป็นทิวแถวตามข้างถนน เกือบทุกที่ ชาร์จำไม่ได้ว่าที่ไหนถนนชื่ออะไร
แต่ใกล้ๆเมืองชายแดนปารีสเห็นมากมายนัก ตาของสมองจำมา ส่วนสมองเองนั้นลืมไปหมดแล้ว
         ที่มองมาร์ต (Montmartre,Paris.ที่นักวาดระดับโลกอาทิเช่น (Edgar, Degas, Edgar Degas, Matisse,Toulouse-Lautrec ,Renoir... จำได้ว่าตอนเข้าไปไหว้พระในโบสถ์มีพระศพให้สักการะด้ว
ยเป็นเชื่อว่าเป็นพระศพของกษัตริย์นโปเลียนพระองค์หนึ่ง จำไม่ได้ชัดนาน มาแล้วตอาตรวบนิพนธ์นี้เช็คดูซ้ำไม่พบที่อ้างอิ
ง แต่ได้ค้นหาที่ไหนทางสื่อไม่ยักเจอที่เขากล่าวไว้ จึงอนุมานจากความทรงจำของตนเองที่เลือนลางไป"วิสิเขาจำแม่น"แต่ก็ไม่ผิดที่จะอ้างอิงอย่างนี้ ถ้าผิดชาร์ก็ขอโทษเพราะชาร์เกิดวันวาเลนไทม์(St.Valentune'day)และมี
รักอยู่ในใจตอนนั้น
         อนึ่งบางอย่างเขาไม่แพร่สื่อรู้เอาเอ
งวัฒนธรรมบาง(เช่นการไว้ทุกข์อันเกรียงไกรในอดีตเป็นต้น)อย่างของคนผิวขาว เช่นกษัตริย์นโปเลียนที่3ของฝรั่งเศสลี้ภัยใน
อังกฤษและทรงขอเก็บพระศพไว้ที่อังกฤ
ษเลยต่อมา เป็นต้น 
         ชีวิตที่นั่นมันเป็นเรื่อราวยาวสุดจะเล่า เช่นเรื่อง(Catacomb)แบบที่ฝังเก็บศพคนตายไว้ใต้ดินแต่เดี๋ยวนี้เขาพาชื่อมาทำเป็นโรงเหล้าไป อันนี้ในตะวันตกเรารู้กันว่าเป็นร้านเหล้าใต้ดิน แต่ไม่มีผีนะ ชาร์ชอบไปเที่ยวตอนกลาวคืนในใต้ดินร้านเหล้าเหล่านั้น จำไม่ได่อีกว่ามีที่ไหนบ้าง)
          ที่มองมาร์ต ชาร์เคยมาพักที่นี่ ชาร์เคยเช่าบ้านพักกับเพื่อนอยู่ใกล้ๆตอนอยู่ปารีสเมื่อรับจ้างเขียนภาพที่นี่ด้วยสนามบินที่ชาร์เคยใช้ที่นี่คือสนามบินในกรุงปารีสชื่อออร์ลี
(Aéroport de Paris-Orly )ถนนที่เยื้องตรงกันข้ามพักหน้ามองมาร์ตชื่อถนน.Rue des Faubourg et rue Berryer ชาร์อยู่ตึกที่หัวมุมอยู่หัวมุม ชาร์ชอบกินสลัดที่นี่และขนมปังทรงลูกบวบ

 

) ชาร์เคยไปรับจ้างวาดภาพเหมือนและได้คาาไวน์แดงหลายจอก (เขามีให้เลือก ไวน์น้ำสีแดง สีชมพู สีขาว ..)ปกติชาร์ไม่ชอบกินเหล้า แต่นี่กินเป็นยาแก้หวัดตนเอง เมื่อเหนื่อยและล้าเพลีย


      สีน้ำเงินผสมนสีหมอก (ดำขาว)ชาร์เรียกมันว่า" สีstarry night"มันเหมือนเสียงบทเพลงที่
ดอน แมคลีนทำ แต่นั่นมิใช่ประเด็น
แต่ที่ชอบเพลงนี้เพราะเป็นที่ที่เปฺ็นจุดกำเนิดให้ชาร์คิดอะไรออกดีขี้น


       กีตาร์ถูกแบกมาด้วยเมื่อบินมาลงที่ปารีสครั้งนี้

        สีหลายหลอดWinton-Winsor...  พกมาด้วย ภู่กันหลายอันถูดมัดกับย่าง
รัดมาด้วย
เตรียมดีดกีร์ต้าด้วยภู่กันแต้มสีและ
แถมจิบไวน์ไปด้วยชนิดไม่ให้เมา

ส่วนใจจรืงนั้นคือกำลังตามหาเพื่อน
คนหนึ่งรักมาก เขาหนวดยาว เด็กปารีสพ่อมีสวนแอปเปื้ล เพราะเราเคยมีความหลังกันที่
ตลาดนัดลอนดอนที่ Patticote Lane และKensington high street  และ at" Biba"อันดูดดื่ม

แต่แล้วทุกอย่างมาจบลงที่
กระท่อมเชนัวร์ตอนนี้ด้วยมรดกเลือด และเมื่อเงินหมด 
ตอน ณ ทุ่งทะเลสีครามติดตัดกับเมฆขาวฟ้าน้ำเงินอ่อนวันแดดจัด

หอยครางและหอยบิดหลายกิโลที่หอบมาจากทะเลโดยเด็กประมงเมื่อวานเพื่อแลกกับไข่ไก่เถื่อนที่กระท่อมของชาร์

หอยเมื่อย่างเสร็จถูกป้อนข้าวปา
กตนเองจนอื่มและหลับพร้อมสมาธิและสติ
มันเสียงีบหนึ่ง แก้ที่ร่างกายมันอยากเหนื่อย "ตื่นมารู้สึกสบาย"

วันนี้ไม่ใข้ยานอนหลับ เพ่าะไม่มีเสียงปืนจากสงครามและพอดีพวกดามุกเหนื่อยที่จะมากวนทำสงครามเงียบชนิดจิตวิทยาประสาทหลอน


แล้วตื่นขึ้น เมื่อมาทราบว่าตนเองฝันไปว่า

   ตอนนี้มีศพของวิเวีบนนอนแนบกายตนเองเคียงข้างชนิดมีความจำมีคำพูดร้องเรียกและมีลมหายใจกระพือปีกหอบเหมือนคนหนีอะไ่รมา เป็นไปได้อย่างกะคนจริงเลย "ไม่น่าเชื่อ"
 แทรกนิดนึง
"เห็นมิเมย์เค้ากินถั่วต้มเป็นวันนี้" พึ่งจะครั้งแรก"
จบท่อนแทรก

ไปต่อ

แต่ที่เป๊นความจริงศพคุณ"วิ"นั้นเธอนอนอยู่ห่างมาก จากที่ชาร์นอนหลับ แต่ตอนนี้ชาร์ยังคิดอะไรอยู่ที่ไม่จบ "คล้ายฝันค้าง แต่ตื่นแล้ว"


 ความจริงตอนนี้วินาทีนี้

ที่กระท่อมเชร์นัวร์มีแต่มิเมย์
ตอนนี้คุณเมียผมปัจจุบันอันเป็นแมวสุดที่รัก

ส่วน
วินั้นนอนที่หลุมสุสานหลังคฤหาสน์เชร์มัวร์
ร์ โป้นอย่างสงบโน่นงัย
"หรือว่าวิจะมาบอกหวย แต่ชาร์ไม่เชื่อเรื่องหวย "


"ใช่" คิดมากเกิน ขอเรียกมันว่าเป็นความคิดฝัน
ที่เกินไป คงเกิดจาก"ธาตุอิ่มหนักมาก"จึงฝันไปเรื่อย
(นี่คือตอนที่มาของชื่อเรื่องของตอนนี้)

"เลิกคิด"

เพราะว่า สิ่งที่ควรคิดคือได้กินหอยย่าง ครางและหอยย่างบิดย่างซ้ำ(กลัวมีเชื้อโ่รคติดมา)จิ้มน้ำพริกเกลือรสหวานๆ ปะแล่มๆเข้าไปอีก เพื่อเติมเต็มให้มีพลังคิดและฝเนไฝ่

และขนมปังจิ้มเนย พูดแล้วเหมือนโกหกแต่เปฺ็นความจริงทุกโดยประการทั้งปวง และก็นอนต่อไป
เพื่อให้หลับอย่างมีแรงอย่างสุดขึดเมื่อลุกขึ้น


มิเมย์
แอุบหมอบอยู่เคียงข้าง เธอรอหนูนามาให้มั
นกิน

ใช่ชาร์เมื่อรวบสมาธิได้อีกครั้งหนึ่งหลังการอิ่มตื้อจากอาหารมื้อสัญจรเมื่อเมื่อตะกี้นี้


"หลับต่อ" เพราะการหลับคือการพักผ่อนที่ดีที่สุดในโลกมานุษย์  การนอนมิใช่การขึ้เกียจและชนิดโดยไม่ต้องกินยานอนหลับ "อันนี้เป็นสูตรการหลับไหลของชาร์"จำได้เหมือนสูตรนิวเคลียร์ไอน์สไตน์ (E=mc²)ตอนสอบ

หลับต่อพร้อมส่วนเกินที่มีอยู่ด้วยกำลังภาวนา
ทางจิตของชาร์ว่า "จงหลับ จงหลับ"

ไม่วายที่ผีวืเวียนน์มาอีก มาอีกเหมือนมาตามเวลานัดกันที่เราพบรักกันครั้งแรก และพร้อมกับพูดว่า

กลับไปนอนที่คฤหาสน์เชร์มัวร์เถอะ
"หนูเหงา" เนี่ยวิเวียนน์พูดนะ!


ชาน์สะดุ้งตื่นขึ้นมาอีกครั้ง

กึ่งกลัวกึ่งงงจึงตอบไปว่า(ปกติชาร์มีนิสัยกลัวผี)


"เดี่ยวมืดจะกลับไปครับผม" ชาร์ตอบ


พูดออกมาในใจ ทั่งๆที่ตื่นขึ้นมายังไม่ได้ล้างเช็ดทีนะ
หน้าของชาร์ดูแปลกๆไปนิดจึง
พลางคิดอยู่ในใจต่อไปว่า

"แม้ผีของวิเวียนน์ที่ตายไปแล้ว
ยังมีพลังแรงรักแรงขนาดนี้เชียวรึ" เทพเจ้าช่วยหนูด้วย หนูโดนผีอำหลอกแล้ว"

คนจบปริญญาแล้วต้องรู้แน่แก่ใจแล้วว่า
"คนตายก็คือคนตาย คนเป็นก็คือคนเป็น" ผีไม่มีอยู่จริง " จบปริญญาแล้วชาร์ถือว่า"คนคิดมากนคือคนมีประสาทหลอนโดนยาแน่นอน ชัวร์! อันนี้คือสิ่งที่ชาร์ปักใจเชื่อ"


 

 

Chapter4

 


 

 

 

กระท่อม นี้
สำรับชาร์ มันคือจุดกำเนิดของสรรพสิ่งและกระท่อมเชนัวร์……

 

 

กระท่อม นี้
สำรับชาร์ มันคือจุดกำเนิดของสรรพสิ่งและกระท่อมเชนัวร์……

ต่อจากตอนที่2และขึ้นตอนต่อไป

ร่วมกัน(หน้าเต็ม)…..คาบเกี่ยวกัน

ความรักที่บางเพลย์


      หนังสือเล่มนี้หลัง"คุณวิ"ตายลงชาร์ได้เก็บไว้ใน"ตู้ไม้สักมีค่าเป็นสมบัติเก่า"บนคฤหาสน์เพื่อเป็นอนุ
สรณ์แด่คุณวิทรฝี่ขอยอ่านหนังสือเล่มนี้เป็นชีวิตจิตใจทีเดียว

ส่วนที่กระท่อมห่างไปทางทิศตะวันจากคฤหาสน์เชร์มัวร์ 50 เมตรมีโฉนดและหลักเขตที่ดินแบ่งไว้เฉพาะชัดเจนนานมาแล้วสมัยปู่ของคุณวิ


         ที่กระท่อม ไม่มีไฟฟ้าใข้ มีแต่น้ำบ่อมีตุ่มใหญ่ และเตาฟืน เตาย่าง มีแต่ไฟแสงอาทิตย์ติดไว้ช่วงหลัง และ เป็นเขตหวงห้าม
ใครเข้ามาที่กระท่อมถือว่าบุกรุก มีป้ายติดไว้
ถ้่าตอนนี้ใครเข้ามาแสดงว่า"มาเพื่อฆ่ามุ่งร้ายชาร์" ตำรวจเห็นให้จับทันที

        แม้"เจน"ทาสคนใหม่
ก็ไม่อนุญาตเข้ามาทุกกรณี
ที่กระท่อมเชร์นัวร์นี้ เพราะกลัวผี"คุณวิ"ดุเอา
เนื่ิองจากเธอหึงหวงมาก(พ่อมด"สิงคล
า อายุมาก หนวดขาวโพลน ยาวเฟื้อย เดินไม่ค่อยไหว มีไม้เท้าเป็นพาหะในการเดิน ตาบอดหนึ่งข้างๆซ้ายและเป็นหมองู มีว่านงูไว้ในครอบครอง คนเชร์นัวร์ถือว่าท่านเป็นพ่อมด"


          ในวันฝังศพ"คุณวิ"ท่านทำนายบอกชาร์ไว้หลังวิตายลง

           ชาร์รับฟังและพองขนเมื่อได้ยินคำนี้จากท่าน


      ที่ กระท่อมเชร์รัวร์ติดกับสระบัวเป็นสระใหญ่ มีกบและตัวนาก เขียดน้ำค้าง จิ้งหรีดขาว และตัวตะกวด และงู่เห่าและตัวพัวพอนชุกชุมมากเป็นนิเวศน์สมบูรณ์ "ท่านปลัดอำเภอท่านหนึ่งยืนยัน" ตอนมาตรวจเยี่ยมดูความสงบในพื้นที่ นานมาแล้ว และมีบันทึกในสมุดเยี่ยมถูกเก็บรักษา
ไว้ที่บนคฤหาสน์


หนังสือเล่มนั้นมีชื่อว่า:

 

หนังสือ The Point Counter Point ของAldoux Huxley
เขาแปลว่าจุดเคาน์เตอร์จุด งานที่ซับซ้อนในการมองตัวละครอื่นจากเรื่องที่เจาะจงมาเฉพะของตัวละคร(จำเป็นมีอ้างอิง)ตีพิมพ์ พ.ศ.2471

 


"คุณวิ"ซื้อมาจากปารีส ที่ร้านขายหนังสือเก่าริมฝั่งซ้ายแม่น้ำเซน
ชาร์จำได้เพราะวิบอก แต่ชาร์ไม่มั่นใจ
สรุปวิซื้อมาไม่ได้ขโมยหรือหยิบจากเพื่อนมาเฉยๆ" ว่างั้น"

 

 

                  


                         ความจริง

                   (ความจริงเกินไป)

   Chainoir เป็นชื่อกระท่อม ในแนวนอน
ที่เป็นที่นอนเล่นพักกลางวันของ"ชาร์ "หลังจากที่รับ"เจน"เข้ามาเป็นทาสคนใหม่ของคฤหาสน์ชาร์มัวร์แล้ว ส่วนคำว่า เชนัวร์มันต่า
งจากชื่อของคฤหาสน์Charmoirอันเป็นมรดกของพ่อคุณวิที่ตกทอดมาที่วิและตกทอดมาถึงชาร์ผู้โชคดีแต่อาภัพตอนนี้ 
"ใช่"ชื่อกระท่อมและชื่อคฤหาสน์มันต่างกันนิดนึง คือChair นั่นมีที่มาและความหมาย
ก็และชาร์ยังมีอีกที่ยังคิดไม่ออกเพราะกลงและลืม คือตอนนี้ลืมไปว่าคำพยางค์นี้มันสื่ออะไร คือคิดได้จะบอ
ก แต่ที่แน่นอน มันเป็นคำดี ที่แน่นอนคือคำสนธิหลังคือ"นัวร์"มันคือแปลว่าสี"ดำ"มัน เป็นคุณศัพท์ในภาษาฝรั่งเศส จำได้เพราะขาร์เคยเรียนภาษาฝรั่งเศสที่กรุงปารีสประเทศฝรั่งเศส ณ.ที่นั่นมีความหลังมากมายเช่นการสนุกกับการนั่งรถไฟใต้ดินที่นั่น กับภาษาที่เพราะและสนุกอีกแนวนึงของโลก


     "  ต้องขออภัยกับธรรมชาติและความจริงของผม"ชาร์พลันสารภาพ" 
คือ ยังไม่เจาะจงว่ามันมีความเป็นมาอย่างไ

ตอนนี้ยังคิดไม่ออกคือลืม เมื่อคิดได้จะบอ
ก ส่วน"noir "แปลว่า"ดำ"


อ้นนี้ดูแล้วเกิน แต่ว่ามันเกินเชิงปรัชญา
ในที่สุดแห่งส่วนเกินที่คนรักความพอใจของตนเองจะพอใจมัน โดยไม่ต้องมาหาคำตอบให้ "สภาวะในตัวมันเองงัย"

"ยังไม่บ้า"

ชาร์ย้ำ
  " ใช่" ทั้งหมด  เป็นชื่อของนวนิยายชุดที่อ่านอยู่นี่นี้ 
ที่ชาร์เขียน มันจากงานคุณวิ มันเป็นแรงบันดาลใจที่เกิดร่วมกัน"แบบมีอารมณ์ร่วม"ในทางวรรณกรรมร่วมกันมิใช่ทางเพศ
เพราะในทางเพศเมื่อเราคือวิกับผมมีชีวิตอยู่กันตอนนั้นชาร์ จำได้ว่าจะหลับนอนด้วยกัน มันนานๆมีได้ครั้งเท่านั้น "และดีอิ่มสุข
ว่งั้น แต่ตัวนี้ไม่ใช่สาเหตุที่เราไม่มีลูกด้วยกันนะ " ถ้านอนด้วยกัน เราเรียกมันว่า"การออกกำลังกายบนเตียงนอนงัย"

จากประสบการณ์ที่บินลงที่สนามบินออร์
ลี่Orly Avion และ ที่มหานครปารีส อันกระจ่างสีและแพรวระยับ

ทุกๆอย่างชาร์จำมันมาอย่างเป็นระบบชนิดไม่จดบันทึกอย่างก็จำได้ ที่เขาทำกันคือ
ไม่ประสงค์ต่อผลของความจำอะไรที่นั่นว่างั้น ชาร์เจอถนนชื่อว่า"Rue de Siam"อีกด้วยที่กรุงปารีส และก็ดีใจที่เกิดมาเป็นSiamese Siamesr cat, Siames twin,...อีกเรื่องที่นำมาบรรจุในนิยายเพื่อ
รำลึกถึงคนเขียนป้าย จำได้ว่าป้ายเป็นตัวหนังสือสีน้ำเงินบนพื้นสีแดง แผ่นสังกระสี
เสาลายสวยเชื่อว่าทรงลุยส์

ครับ! ชาร์พระเอกของเรื่องนี้ยอมรับ
คือปล่อยให้มันคิดได้แบยคิดผลุดขึ้นมาเองอย่างเป็นระบบ มันจึงไม่มีพิษทางการเมืองทหาร และคณะปฏิวัติ ปกครองประเทศ
ในสมัยวิยังมีชีวิตอยู่


เพราะชาร์เดิมทีไม่คิดอยากเป็นนักเขียนชื่อดังสำ
เร็จรูปเพราะถ้าเป็นมันจะ"อดอยากและจน"คือเงินไม่พอสนองความต้องการสุขที่เขาทำกันได้ว่างั้น  คุณลีเดียท่านบอกผมมาตอนไปพักอยยู่กับท่านที่อังกฤษ(England) เมืองออกร์ฟอร์ด(Oxford)-(Lydia Pasternek)น้องสาวของบอริส ( Boris Pasternek)ผู้เขียนวรรณกรรมชาวรัสเซีย หนังสือนิยายเรื่องดร.ชิวาโ
ก(Dr.Zchivako)และได้รับรางวัลโนเบลปีคริสตศักราช  A.D.(Anno -domini  ภาษ
าลาติน -Latin)1958(ถ้าบวกด้วย543เมื่อจะทำให้เป็นพุทธศักราช)

     ถ้าเข้าไปรับตำแหน่งนี้ 
แต่ชาร์สนใจทำมันเพราะอารมณ์มี และเชื่อว่าเพราะความที่ท่านเทพเจ้าพระองค์หนึ่ง
ทรงได้โปรดประทายมาว่า " ต้อง
ทำและเดินไปตามทางที่ท่านกำหนดมา เหมือนเราเกิดมาได้ต่างกรรมกันงัย"
(ชาร์ขออนุญาตอารมณ์ความรู้สึกว่าใ
ช้ร่วมๆกันตอนนี้ก่อนแล้วกัน)

 


    ณ กรุงปารีส   ศิลปะข้างถนนและไวน์ที่โรงเตี้ยมน้อยใหญ่

เรียงรายเต็มถนนหนทางทุกช่วงเหมาะเจาะจนตาตนเองมองไม่หมด และต้นเมเปิลเป็นทิวแถวตามข้างถนน เกือบทุกที่ ชาร์จำไม่ได้ว่าที่ไหนถนนชื่ออะไร
แต่ใกล้ๆเมืองชายแดนปารีสเห็นมากมายนัก ตาของสมองจำมา ส่วนสมองเองนั้นลืมไปหมดแล้ว
         ที่มองมาร์ต (Montmartre,Paris.ที่นักวาดระดับโลกอาทิเช่น (Edgar, Degas, Edgar Degas, Matisse,Toulouse-Lautrec ,Renoir... จำได้ว่าตอนเข้าไปไหว้พระในโบสถ์มีพระศพให้สักการะด้ว
ยเป็นเชื่อว่าเป็นพระศพของกษัตริย์นโปเลียนพระองค์หนึ่ง จำไม่ได้ชัดนาน มาแล้วตอาตรวบนิพนธ์นี้เช็คดูซ้ำไม่พบที่อ้างอิ
ง แต่ได้ค้นหาที่ไหนทางสื่อไม่ยักเจอที่เขากล่าวไว้ จึงอนุมานจากความทรงจำของตนเองที่เลือนลางไป"วิสิเขาจำแม่น"แต่ก็ไม่ผิดที่จะอ้างอิงอย่างนี้ ถ้าผิดชาร์ก็ขอโทษเพราะชาร์เกิดวันวาเลนไทม์(St.Valentune'day)และมี
รักอยู่ในใจตอนนั้น
         อนึ่งบางอย่างเขาไม่แพร่สื่อรู้เอาเอ
งวัฒนธรรมบาง(เช่นการไว้ทุกข์อันเกรียงไกรในอดีตเป็นต้น)อย่างของคนผิวขาว เช่นกษัตริย์นโปเลียนที่3ของฝรั่งเศสลี้ภัยใน
อังกฤษและทรงขอเก็บพระศพไว้ที่อังกฤ
ษเลยต่อมา เป็นต้น 
         ชีวิตที่นั่นมันเป็นเรื่อราวยาวสุดจะเล่า เช่นเรื่อง(Catacomb)แบบที่ฝังเก็บศพคนตายไว้ใต้ดินแต่เดี๋ยวนี้เขาพาชื่อมาทำเป็นโรงเหล้าไป อันนี้ในตะวันตกเรารู้กันว่าเป็นร้านเหล้าใต้ดิน แต่ไม่มีผีนะ ชาร์ชอบไปเที่ยวตอนกลาวคืนในใต้ดินร้านเหล้าเหล่านั้น จำไม่ได่อีกว่ามีที่ไหนบ้าง)
          ที่มองมาร์ต ชาร์เคยมาพักที่นี่ ชาร์เคยเช่าบ้านพักกับเพื่อนอยู่ใกล้ๆตอนอยู่ปารีสเมื่อรับจ้างเขียนภาพที่นี่ด้วยสนามบินที่ชาร์เคยใช้ที่นี่คือสนามบินในกรุงปารีสชื่อออร์ลี
(Aéroport de Paris-Orly )ถนนที่เยื้องตรงกันข้ามพักหน้ามองมาร์ตชื่อถนน.Rue des Faubourg et rue Berryer ชาร์อยู่ตึกที่หัวมุมอยู่หัวมุม ชาร์ชอบกินสลัดที่นี่และขนมปังทรงลูกบวบ

 

) ชาร์เคยไปรับจ้างวาดภาพเหมือนและได้คาาไวน์แดงหลายจอก (เขามีให้เลือก ไวน์น้ำสีแดง สีชมพู สีขาว ..)ปกติชาร์ไม่ชอบกินเหล้า แต่นี่กินเป็นยาแก้หวัดตนเอง เมื่อเหนื่อยและล้าเพลีย


      สีน้ำเงินผสมนสีหมอก (ดำขาว)ชาร์เรียกมันว่า" สีstarry night"มันเหมือนเสียงบทเพลงที่
ดอน แมคลีนทำ แต่นั่นมิใช่ประเด็น
แต่ที่ชอบเพลงนี้เพราะเป็นที่ที่เปฺ็นจุดกำเนิดให้ชาร์คิดอะไรออกดีขี้น


       กีตาร์ถูกแบกมาด้วยเมื่อบินมาลงที่ปารีสครั้งนี้

        สีหลายหลอดWinton-Winsor...  พกมาด้วย ภู่กันหลายอันถูดมัดกับย่าง
รัดมาด้วย
เตรียมดีดกีร์ต้าด้วยภู่กันแต้มสีและ
แถมจิบไวน์ไปด้วยชนิดไม่ให้เมา

ส่วนใจจรืงนั้นคือกำลังตามหาเพื่อน
คนหนึ่งรักมาก เขาหนวดยาว เด็กปารีสพ่อมีสวนแอปเปื้ล เพราะเราเคยมีความหลังกันที่
ตลาดนัดลอนดอนที่ Patticote Lane และKensington high street  และ at" Biba"อันดูดดื่ม

แต่แล้วทุกอย่างมาจบลงที่
กระท่อมเชนัวร์ตอนนี้ด้วยมรดกเลือด และเมื่อเงินหมด 
ตอน ณ ทุ่งทะเลสีครามติดตัดกับเมฆขาวฟ้าน้ำเงินอ่อนวันแดดจัด

หอยครางและหอยบิดหลายกิโลที่หอบมาจากทะเลโดยเด็กประมงเมื่อวานเพื่อแลกกับไข่ไก่เถื่อนที่กระท่อมของชาร์

หอยเมื่อย่างเสร็จถูกป้อนข้าวปา
กตนเองจนอื่มและหลับพร้อมสมาธิและสติ
มันเสียงีบหนึ่ง แก้ที่ร่างกายมันอยากเหนื่อย "ตื่นมารู้สึกสบาย"

วันนี้ไม่ใข้ยานอนหลับ เพ่าะไม่มีเสียงปืนจากสงครามและพอดีพวกดามุกเหนื่อยที่จะมากวนทำสงครามเงียบชนิดจิตวิทยาประสาทหลอน


แล้วตื่นขึ้น เมื่อมาทราบว่าตนเองฝันไปว่า

   ตอนนี้มีศพของวิเวีบนนอนแนบกายตนเองเคียงข้างชนิดมีความจำมีคำพูดร้องเรียกและมีลมหายใจกระพือปีกหอบเหมือนคนหนีอะไ่รมา เป็นไปได้อย่างกะคนจริงเลย "ไม่น่าเชื่อ"
 แทรกนิดนึง
"เห็นมิเมย์เค้ากินถั่วต้มเป็นวันนี้" พึ่งจะครั้งแรก"
จบท่อนแทรก

ไปต่อ

แต่ที่เป๊นความจริงศพคุณ"วิ"นั้นเธอนอนอยู่ห่างมาก จากที่ชาร์นอนหลับ แต่ตอนนี้ชาร์ยังคิดอะไรอยู่ที่ไม่จบ "คล้ายฝันค้าง แต่ตื่นแล้ว"


 ความจริงตอนนี้วินาทีนี้

ที่กระท่อมเชร์นัวร์มีแต่มิเมย์
ตอนนี้คุณเมียผมปัจจุบันอันเป็นแมวสุดที่รัก

ส่วน
วินั้นนอนที่หลุมสุสานหลังคฤหาสน์เชร์มัวร์
ร์ โป้นอย่างสงบโน่นงัย
"หรือว่าวิจะมาบอกหวย แต่ชาร์ไม่เชื่อเรื่องหวย "


"ใช่" คิดมากเกิน ขอเรียกมันว่าเป็นความคิดฝัน
ที่เกินไป คงเกิดจาก"ธาตุอิ่มหนักมาก"จึงฝันไปเรื่อย
(นี่คือตอนที่มาของชื่อเรื่องของตอนนี้)

"เลิกคิด"

เพราะว่า สิ่งที่ควรคิดคือได้กินหอยย่าง ครางและหอยย่างบิดย่างซ้ำ(กลัวมีเชื้อโ่รคติดมา)จิ้มน้ำพริกเกลือรสหวานๆ ปะแล่มๆเข้าไปอีก เพื่อเติมเต็มให้มีพลังคิดและฝเนไฝ่

และขนมปังจิ้มเนย พูดแล้วเหมือนโกหกแต่เปฺ็นความจริงทุกโดยประการทั้งปวง และก็นอนต่อไป
เพื่อให้หลับอย่างมีแรงอย่างสุดขึดเมื่อลุกขึ้น


มิเมย์
แอุบหมอบอยู่เคียงข้าง เธอรอหนูนามาให้มั
นกิน

ใช่ชาร์เมื่อรวบสมาธิได้อีกครั้งหนึ่งหลังการอิ่มตื้อจากอาหารมื้อสัญจรเมื่อเมื่อตะกี้นี้


"หลับต่อ" เพราะการหลับคือการพักผ่อนที่ดีที่สุดในโลกมานุษย์  การนอนมิใช่การขึ้เกียจและชนิดโดยไม่ต้องกินยานอนหลับ "อันนี้เป็นสูตรการหลับไหลของชาร์"จำได้เหมือนสูตรนิวเคลียร์ไอน์สไตน์ (E=mc²)ตอนสอบ

หลับต่อพร้อมส่วนเกินที่มีอยู่ด้วยกำลังภาวนา
ทางจิตของชาร์ว่า "จงหลับ จงหลับ"

ไม่วายที่ผีวืเวียนน์มาอีก มาอีกเหมือนมาตามเวลานัดกันที่เราพบรักกันครั้งแรก และพร้อมกับพูดว่า

กลับไปนอนที่คฤหาสน์เชร์มัวร์เถอะ
"หนูเหงา" เนี่ยวิเวียนน์พูดนะ!


ชาน์สะดุ้งตื่นขึ้นมาอีกครั้ง

กึ่งกลัวกึ่งงงจึงตอบไปว่า(ปกติชาร์มีนิสัยกลัวผี)


"เดี่ยวมืดจะกลับไปครับผม" ชาร์ตอบ


พูดออกมาในใจ ทั่งๆที่ตื่นขึ้นมายังไม่ได้ล้างเช็ดทีนะ
หน้าของชาร์ดูแปลกๆไปนิดจึง
พลางคิดอยู่ในใจต่อไปว่า

"แม้ผีของวิเวียนน์ที่ตายไปแล้ว
ยังมีพลังแรงรักแรงขนาดนี้เชียวรึ" เทพเจ้าช่วยหนูด้วย หนูโดนผีอำหลอกแล้ว"

คนจบปริญญาแล้วต้องรู้แน่แก่ใจแล้วว่า
"คนตายก็คือคนตาย คนเป็นก็คือคนเป็น" ผีไม่มีอยู่จริง " จบปริญญาแล้วชาร์ถือว่า"คนคิดมากนคือคนมีประสาทหลอนโดนยาแน่นอน ชัวร์! อันนี้คือสิ่งที่ชาร์ปักใจเชื่อ"


 

 
ตอนที่5


                                           มิเมย์เธอตามมาอยู่ด้วย

 

                       
                        มิเมย์
              (มิเทน์เธอตามมาอยู่ด้วย)
          ไม่น่ามองข้ามที่กระท่อมเชนัวร์ “มิเมย์พูดเป็นเสียงแมว ชาร์ตีความ”และมิเมย์เค้าก็ตาม
มาบำเรอผัวเค้าอย่างดี ด้วยการหลับนอน
ไม่กวนใจ 
         และพบว่า ต่อมากระจ้อนสัตว์กระโดดไว
        หัวขโมยเริ่มหายไป มัน ซุกซนที่สุดชนะยากแม้ด้วยกรงดัก "สำหรับอ้ายตัวกระจ้อนนี่" ชาร์สบถ
         เพราะมันฉลาดกว่าหนู เรื่องหาขโมยของกินในครัวแล้วเค้าละที่หนึ่ง เค้าซนยิ่งกว่า การ์ตูนสงครามอันแสนตลกของ"ทอมและเจอรี่เสียอีก "เมื่อว่าไป" แต่ว่าน่าสงสาร มันกลับดันมาช้ากว่าแมว" มิเมย์" เมียคนที่สองของข้า มิเมย์จัดการใ
ห้อย่างเรียบร้อย ไม่เหลือแม้แต่กระดูกและเอ็น และขนและคราบเลือด มิเมย์มีมรรยาทกินแทะเล็มกัด ตะปบ ดึง เรียบร้อย "ชาร์นึกสงสารเมื่อเห็นจึงจุดธูปหนึ่งดอก พร้อมรำลึกและพูด
       ให้กระจ้อนและขอวิงวอนกระจ้อ
นตัวน้อยๆนั้นว่าว่า"กระจ้อนน้อย!สูเจ้าจงไปเกิดใหม่ที่ไม่ทำให้คนอื่นเดือดร้อน
และรำคาญในชาติต่อไปเถิด"
      สรุปกระจ้อนที่ซนสุดๆ “แมวเอาอยู่”
กระรอกมันขึ้นต้นไม้อยู่ในสถานะที่สูง แมวแพ้
กระท่อมเขนัวร์ไม่มีกระจ้อนมากวนอีกต่อไป
        พรสวรรค์ของชาร์คือถ้าหลับกได้แล้วยาวและนาน ถ้าได้กินแล้วกินจนอิ่มและจุและเปลือง  แต่ชาร์ปฏิเสธเหล้าที่กินอย่างหนัก แม้จะมีพรสวรรค์ได้มาแบรนด์ดีๆทั้งนั้นเช้น Vodka Cognac Champaigne Drumbui ชื่อว่าไม่โอดครวญโม้ ไม่รู้เป็นอะไร สร้างบุญอะไรมาแต่ชาติก่อน
        แต่ว่าชาร์ขาดพรสวรรค์ในการไม่ถูกกลั่นแกล้ง อิจฉาริษยา ถูกกดทับ ถูกข่มเหง และถูกรังแก เมื่อได้ตั้งใจมุมานะที่จะทำงานอะไรสักอย่าง มีวินี้ละผมไม่พยสิ่วที่ดบ่าวมาแบะวิก็เมียรักผมนั่นเอง "ขอขอบคุณขอบใจเธอมากม้ากสุดขั้วจริงๆ"ในชีวิตของชาร์ แต่พ่อแม่และญาติของชาร์ไม่เคยใช้วานชาร์ให้ทำอะไร เพราะท่านส่วนใหญ่ตายไปเสียก่อน
     ที่นี่ที่กระท่อมเชนัวร์ ชาร์จึงหลับได้สนิทและนานและเสรี ปลอดจากสรรพทุกข์สรรพโศก สรรพโรค สรรพภัย มาแผ้วพาล เมื่อต้องการ
     สิ่งที่ตามมาที่จะคำนุึงต่อไปคือ คือมิ"เมย์"เขากินทุเรียนเป็นด้วย นอกจากหนู
       ทุเรียนเคยซื้อกินช่วงก่อนโควิดที่ลูกละไม่ถึงพัน
พอโควิดมาปี พ.ศ.2564 ช่วงสิงหาคม ทุเรียนติดโควิดด้วย
จากลูกละ1000สู่ลูกละล้าน ลดลงเหลือมีเงิน100บาทซื้อกินได้
       แต่มันก็รู้สึกยังแพง "ไมรู้ว่าเป็นเพราะเหตุอะไร ธรรมชาติของมนุษย์นี่เรื่องกินมัน
อุบาทว์จริงหนอ "ชาร์เพ้อคิดร่ำไปกับสายลมโชยที่่กระท่อมน้อยเชร์นัวร์ของเย็นที่ฝนโปรยนับเม็ดได้ในวันหนึ่งตอนเย็
นของพลบค่ำ"
        ชาร์ยอมกิน ๆ เมื่องบพอ กินมันเสพมันพร้อมไปกับสียงเพลงกล่อมของ Perry Como
        มันอร่อยดีจนลืมอิ่ม เพราะมันหอมหวานนิ่มมันส์ อร่อย จุใจ และที่ดีใจคือ "มิเมย์เค้าจะร้องขอกินด้วย"
แม้ตนเองกำลังอร่อย แต่ฉุกคิดว่าเมตตาเป็นเครืาองค้ำตุนโลกที่ท่านว่าไว้ ก็พลั
นหยิกส่วนหนึ่งของพูทุเรียนลองให้มิเมย์ แม้ตนเองกำลังได้สมาธิในการกินอยู่
        เมื่อยื่นพูนิดๆ
ให้เขา
เค้าดมก่อนตามรรยาทของแมวแล้วกิน
แลัเค้าก็กิน
ถ้าปลาทูกับไก่ย่าง(ตอนนี้ไก่ย่าง)นี้ไม่ได้เค้าเว้นมรรยาทเดิมคือ"ตะปบเอาเลยทันที"
        ชาร์ดีใจมาก
เมื่อเห็นมิเมย์กินทุเรียนเป็น
ส่วนหิมะไม่กินทุเรียน เค้าชอบดมอย่างเดียวแล้วพักเอาไว้ คงจะกินเหมือนกันแต่คิดก่อน"ว่านี่มันเนื้ออะไร"
มาถึงตอนนี้
        พูดถึงหิมะสักนิด พอดีชาร์เดินทางไปพักผ่อนที่เกาะกัลปังหา(Gallapang-Ha)
เกาะนี้ตั้งอยู่ในกลางทะเลทางทิศใต้ของกระท่อมเชนัวร์ ไม่ค่อยมีคนรู้จักและยุงก้นปล่องและงูกะปะสีหม้อใหม่ชุมที่นั่น
ก้อตามเคย ตามคำเชิญ(ชาร์ไม่ได้รับคำเชิญจะไม่ไปไหนเด็ดขาดนี่เป็นมอรัลเลียของชาร์)ของเพื่อนหญิงคนหนึ่งที่เกาะนั้น.     
         เธอเป็นคนจากเผ่ามอร์แก
นอันลือลั่นในวัฒนธรรมของคนเล ได้มาพบแม่ของหิมะที่นั่น"เขามาอ้อนกินปลาที่ชาร์หยิบอยู่ในมือ"
ในห้องอาหารของที่พัก"ที่นั่น"
         ชาร์ให้แม่ของหิมะกินๆจนแม่ของหิมะเขาหลับและสบาย
เค้าจึงมีลูกต่อมา ลูกของเขาออกมาเป็นสีขาว มีสองตัวสีขาวนวลดังจันทร์เพ็ญ หรือสีดอกมะลิตูมบอกไม่ถูก

       ชาร์เลี้ยงเต็มที่ เค้าโตวันโตคืนเต็มที่ทั้งแม่ทั้งลูก ที่นี่ปลาไม่ต้องซื้อ ปลาถึงปากเขาทันที(ปลาสด ปลาดิบ ปลาย่าง ปลาปิ้ง ปลานึ่ง ปลาทอด ปลากตากแห้งแดดเดียว)เมื่อเขาหิ
วและร้องให้ขึเนมาคราใด และทุกขีวิตตัว ต่อมาคงพอใจ ต่อมาแม่ของเธอถูกงูเห่าดงกัดตาย
ลูกสองตัวถูกชาร์ปรนิบัตรชุบเลี้ยงจนโตและเลี้ยงจนโต ในส่วนตัวพี่หางลากดินติดพื้นเมื่อเดิน
       ตัวน้องคือคือชื่อหิมะ ตัวพี่ยังไม่ตั้งชื่อเพราะตายเสียก่อน
       สาเหตุไม่ทราบแน่ชัด เพราะแท้ที่จริงวันหนึ่งลูกคงหิวจึงกินงูพิษเข้าไป
เพราะลูกแมววัยสะรุ่นซนและโกงและฟันคม เมื่อตัวพี่ตายลงจึงเหลือแต่ตัวน้องคือหิมะนี่งัย
       เมื่อชาร์กลับมาคฤหาสน์เชร์นัวร์และต่อมาที่กระกระท่อมเชร์นัวร์ จึงนำมันมาด้วย และตั้งชื่อว่า “หิมะ”
เมื่อสถาปนาให้เป็นเมียน้อย แต่ตอนนี้ให้เขาอยู่ที่คฤหาสน์เชร์มัวร์และเขาก็ไม่อยากมา
อยู่ที่กระท่อมเชนัวร์ในตอนกลางวันกับชาร์
       ชาร์ปล่อยเสรีไม่กวนเขา
หิมะขึ้อ้อน ไม่วางตัว เข้ากับคนง่าย กับเจนไปกันได้ดี
        ส่วนมิเมย์นั้นชอบอิสระ แต่ชอบมานอนซุกตักกับชาร์เสมอแต่เขาไม่ขอบให้ใครแตะต้องตัวเขา
แม้เจนก็ไม่ชอบ มิเมย์จะวิ่งหนีทันทีถ้ามิใข่ขาร์ แม้เธอจะหิวอย่างไร
นี่คือ ชีวิตย่อยๆของ มิเมย์และหิมะ
      ชาร์ขาดไม่ได้นั่นคือเพลง
มิใช่ดัดจริต ชอบมันจนเสพติด
กัญชาไม่เสพได้อีกอย่างหนึ่งมักผิด
แต่ทางออกมีเยอะก็เสียงเพลงนี่งัย
       แต่ชาร์ชอบเพลง"เป็น"เพราะสันดานตนเองมนการคลั่งเพลงสั่งมาและสั่งมา
คราวนี้มาที่Matt Monro"แมตต์ มอนโร" เพลงของเขาคือ"Yesterday" "ชอบ"
เพลงต่อไป"If I Never Sing Another Song" เมื่อว่าง
         ในยามวัยสนธยานี้ จึงมีเวลาคิดและจำสิ่งไร้สาระมากเพราะมีสมาธิและมิได้ทำอะไรไปมากกว่า
"การหายใจ" ก็เลยเห็นว่านามสกุลของดาราและนักร้องและประธานาธิบดีสหรัฐคนที่ 5
         และลัทธิมอนโร(เรื่องการไม่แทรกแซงทางการเมืองต่อ…)
 มันพ้องเสียง
พ้องอักษรกัน ก็เลยรู้และพบว่าที่นามสกุลตัวอักษรตัวท้าย มี “e” และไม่มี “e”ต่อท้าย
เป็นข้อสังเกตถ้าของนักร้องชาวอังกฤษผู้นี้ที่จะกล่าวถึงคือ “แมท มอนโร” ไม่มีeต่อท้ายนามสกุุล) กล่าวคือถ้ามี"e"อักษรอักขระของภาษอังกฤษมี “อี”ต่อท้าย คือชื่อนามสกุลของ Marylin Monroe
           ไม่น่านำมากล่าวในวรรณกรรมนี้ แต่ว่า
             ชาร์พบว่า ตนเองต้องมีสิ่งเหล่านี้เป็นส่วนควบก่อนจะปั่นให้เสมองตนเองเดินงาน
งานวรรณกรรมของตนเองได้ จึงทำมันอย่างงัย ชาร์เชื่อว่ามันมีอรรถประโยชน์ทาง
อ้อมแก่ตนเองมาก
แต่การอ้างอิงจะเน้นไม่ให้ผิด
         พบว่า"เจน"ชอบฟังเพลงคลาสสิคมากและติดชนิดคลั้งไคล้ แม้เเธอจะเป็นทาสที่เชมัวร์ก็ตาม ก็เหมือนคนกสวาดถนนอังกฤษเขาใส่ชุดนอกทำงาน อ๋อ!แน่นอนที่นั่นมันหนาวจนถึงหนาวมากคือบางครั้งเมื่อหิมะตกเดินลุยหิมะได้เลย
ทั้งหมดเป็นความคิดนอกกระโถน "ชาร์เม้นต์'
        จึงไม่ธรรมดา แต่ต่อมาเคยพบสิ่งสงสัยแล้วและไม่กล้าถามใคร
กลัวเสียภูมิและเกียรติ" อันนี้ทางตาย ชาร์คิดว่าถ้าใครคิดอย่างนี้ในความเป็นคน คิอไม้รู้ต้องถาม เมื่อสงสัยต้อง ต้อวหาคำเฉลยให้ได้เรื่อง อันนี้เป็นปรัชญาเพราะปรัชญาคือการแก้ปัญหาความสงสัยให้บรรลุได้"
และชาร์ต่อมา
        สืบพบว่า ที่เมียตนเองก่อนตายคบกับเจนก็เพราะมีรสนิยมเหมือนกันคือชอบฟังเพลงคลาสสิค
เหมือนๆกัน แต่ไม่ได้ถามคุณวิถึงชอบขนาดระดับ คีย์ และไมนอร์หรือเมเจอร์อะไรในระบบเพลงนั้นๆบ้าง
          เพราะชาร์ไม่ชอบถามเรื่องส่วนตัวของเมีย
สำหรับคุณ" วิ"นั่นชอบคลาสสิคมากไม่ชอบเพลงป๊อปและลูกทุ่ง 
จนหลายคนที่เห็นเหตุการณ์ในกาลครั้งหนึ่ง
วิจารณ์ว่า"คุณวิบ้า "ฟังเพลงอะไรก็ไม่รู้ แต่คุณ วิชอบ เป็นที่สุดเพลง
แบบจะชอบกว่ารถหรูและการพลอดรักและอารมณ์โรแมนติกในชีวิตครอบครัวเสียอีก
เมื่อสมัยที่วิยังมีชีวิตอยู่
เท่ากับว่าชีวิตของคุณ วิ ในทุกๆวันเป็นประจำวันคุณวิใช้ชีวิต
         "แบบจะให้ลงตัวให้คือให้งานเดิน สำหรับ"วิ'" ไม่ว่าอะไรที่คฤหาสน์เชมัวร์ตอนคุณวิมีชีวิตอยู่
มิฉะนั้นคุณ วิจะอารมณ์เสียทั้งวัน
จะเดินได้ในวันๆหนึ่งๆ คุณวิต้องเริ่มที่ฟังเพลงคลาสสิคก่อน งานจึงค่อยเริ่มและในทำนองเดียวกันก่อนนอนก็จบลงเพลงด้วยอีกตามเคย"คุณ วิ"ฟังเพลงคลาสิคก่อนคุณวิจึงจะเริ่มนอนได้หลับ เปิดทิ้งไว้ระหว่าวนอนจนเพลิงปลุกให้ลุกขึ้น ด้วยเสียงแผ่วเบาอย่างนั้นทีเดียวเทียว เมื่อตอนยังมีชีวิตอยู่
        ก็ตอนนี้เมื่อชาร์คิดถึงหรือเนื่องในวันครบรอบปีแห่งการจากกันคือวันที่ตายจากกัน ชาร์จะไปที่หลุมศพและชาร์จะพกนำพาเสียงเพลงไปให้ ก็พาเสียงเพลงที่แกชอบตอนแกมีขีวิตอยู่ไปเปิดให้ผีฟัง 1 ชั่วโมงเป็นอย่างน้อย
        พบว่า นกแซงแซวที่เกาะแถวสุสานนั้นชอบฟังเช่นกัน เพราะสังเกตเห็นมันพาพวกชวนบินกันมาสนุกสนานและเล้นน้ำที่พอนส์(Pond)อ่างเล่นน้ำบัวแเดงที่จัดไว้ของนกเพื่อเล่นกันทุกวันอย่างผิดปกติอย่างเหลือเชื่อและเหลือเชื่อ(สาริกา นกฟ้าจุฬาภรณ์ กรงหัวจุก แซงแซว นกกระปูด)สับเปลี่ยนเวียนกันมาเล่นน้ำกันอย่างสำราญมีแต่นกเอี้ยงเท่านั้นไม่ค่อยเห็น
       “แต่ตอนผมอยู่อังกฤษ” "ชาร์สารภาพ" ผมชอบฟังคณะสี่เต่าทอง และเสียงเพลงของ “แอนดี วิลเลี่ยม” 
“ทอม โจน” และเพลงคลาสสิคนี่ชอบมากเช่นกัน
จนไม่สามารถเอ่ยชื่อว่าอะไรบ้างมันมากมายนัก
       ที่เอ่ยไม่กล้ากลัวจะผิด(ถ้าเอ่ยผิดตรงจุดนี้มันเหมือนการสั่งอาหารถ้าสั่งผิดเข้าใจผิดมื้อนั้นคือโมฆะเงินก็เสียและไม่
สบอารมณ์เกิดอารมณ์"บ่จอย"Not joy or a full of joy)จนกว่าอาหารมืีอที่สั่งผิดมานั้นมันจะย่อยหมดไปจึงลืมความผิดพลาดนั้นมันลงได้) แต่ชาร์จะอ้างมันเมื่อมั่นใจว่า “ใช่แน่ ”จึงทำ"ชาร์สารภาพ"

 

 

 

 

ตอนที่6


     กลางวันเป็นผีเสื้อที่กระท่อมเชร์นัวร์กลางคืนเป็นมนุษย์ที่คฤหาสน์เชร์มัวร์6.กลางวันเป็นผีเสื้อที่กระท่อมเชร์นัวร์กลางคืนเป็นมนุษย์ที่คฤหาสน์เชร์มัวร์


                                                     
                                                           กลางวัน

                กลางวัน:เปีนผีเสื้อที่กระท่อมเชนัวร์กลางคืนเป็นมนุษย์ที่คฤหาสน์เชมัวร์-

                  กลางวันเป็นผีเสื้อที่กระท่อมเชร์นัวร์กลางคืนเป็นมนุษย์ที่คฤหาสน์เชร์มัวร์
เพราะกลางวัน ให้ผีของคุณวินอนเล่นบน
คฤหา
สน์คนตนเดียวให้พอใจ เพราะท่าาบอกกว่า"ผีก็ชอบเงียบๆเช่นกัน
   เกิดอุบัติการแห่ง"ความรักที่บางเพล
ย์ในภาคกลางวัน"ขึ้นมาส่วนภาคกลางคืนนั้นฝังอยู่ในแต่ละตอนที่ปรากฏตามสภาพของวรรณกรรมนี้
ชาร์ยังอาวรณ์ใน
ความรักที่บางเพลย์(คือความรักที่เกิดและพัฒนาที่คฤหาสน์ระหว่างวิและชาร์ก่อนตายจากกัน"
      หนังสือเล่มนี้หลัง"คุณวิ"ตายลงชาร์ได้เก็บไว้ใน"ตู้ไม้สักมีค่าเป็นสมบัติเก่า"บนคฤหาสน์เพื่อเป็นอนุ
สรณ์แด่คุณวิที่ชอบ
     อ่านหนังสือเล่มนี้เป็นชีวิตจิตใจทีเดียว
ส่วนที่กระท่อมห่างไปทางทิศตะวันจากคฤหาสน์เชร์มัวร์ 50 เมตรมีโฉนดและหลักเขตที่ดินแบ่งไว้เฉพาะชัดเจนนานมาแล้วสมัยปู่ของคุณวิ
         ที่กระท่อม ไม่มีไฟฟ้าใข้ มีแต่น้ำบ่อมีตุ่มใหญ่ และเตาฟืน เตาย่าง มีแต่ไฟแสงอาทิตย์ติดไว้ช่วงหลัง และ เป็นเขตหวงห้าม
ใครเข้ามาที่กระท่อมถือว่าบุกรุก มีป้ายติดไว้
ถ้่าตอนนี้ใครเข้ามาแสดงว่า"มาเพื่อฆ่ามุ่งร้ายชาร์" ตำรวจเห็นให้จับทันที

        แม้"เจน"ทาสคนใหม่
ก็ไม่อนุญาตเข้ามาทุกกรณี
ที่กระท่อมเชร์นัวร์นี้ เพราะกลัวผี"คุณวิ"ดุเอา
เนื่ิองจากเธอหึงหวงมาก(พ่อมด"สิงคล
า อายุมาก หนวดขาวโพลน ยาวเฟื้อย เดินไม่ค่อยไหว มีไม้เท้าเป็นพาหะในการเดิน ตาบอดหนึ่งข้างๆซ้ายและเป็นหมองู มีว่านงูไว้ในครอบครอง คนเชร์นัวร์ถือว่าท่านเป็นพ่อมด"

          ในวันฝังศพ"คุณวิ"ท่านทำนายบอกชาร์ไว้หลังวิตายลง

           ชาร์รับฟังและพองขนเมื่อได้ยินคำนี้จากท่าน

      ที่ กระท่อมเชร์รัวร์ติดกับสระบัวเป็นสระใหญ่ มีกบและตัวนาก เขียดน้ำค้าง จิ้งหรีดขาว และตัวตะกวด และงู่เห่าและตัวพัวพอนชุกชุมมากเป็นนิเวศน์สมบูรณ์ "ท่านปลัดอำเภอท่านหนึ่งยืนยัน" ตอนมาตรวจเยี่ยมดูความสงบในพื้นที่ นานมาแล้ว และมีบันทึกในสมุดเยี่ยมถูกเก็บรักษา
ไว้ที่บนคฤหาสน์

หนังสือเล่มนั้นมีชื่อว่า:

          หนังสือ" The "Counter Point ของAldoux Huxley
เขาแปลว่าจุดเคาน์เตอร์จุด งานที่ซับซ้อนในการมองตัวละครอื่นจากเรื่องที่เจาะจงมาเฉพะของตัวละคร(จำเป็นมีอ้างอิง)ตีพิมพ์ พ.ศ.2471
"คุณวิ"ซื้อมาจากปารีส ที่ร้านขายหนังสือเก่าริมฝั่งซ้ายแม่น้ำเซน
ชาร์จำได้เพราะวิบอก แต่ชาร์ไม่มั่นใจ
สรุปวิซื้อมาไม่ได้ขโมยหรือหยิบจากเพื่อนมาเฉยๆ" ว่างั้น"

           ทำไปทำมาชาร์ได้"เจน"
เป็นคู้คิดคู่ขา แต่เราไม่มีอะไรกัน"
พวกทาสที่เขนัวร์และพวกดามุกคิดว่าเตนเป็นเทียลับของชาร์แต่เจนทำทีว่าเป็นคนใช้มีเงินปีจากคฤหาสน์ แต่ชาร์กัยเจนไม่ทีอะไรกันท้ามห้พวกดามุกเชิงลบมาตั้งวงตรปิดแอบดูได้เพราะเดี๋ยวนี้มีกล้องวจรปิดชนิดละเอียดสุดขีดแล้วเฉียดคาร์บอนส์14 และดีเอ็นเอ
           ขาดไปคือกลิ่นคือส่งกลิ่นทางมือถือ ทำได้ "เพราะเจนเชื่อว่า มรุษย์ทำได้ทุกอย่าง"วันหนึ่งเจนาารภาพกับชาร์" ชาร์หัวเราะเมื่อได้ยินคำนี้แต่คล้อยตา
มเจน เพราะเตรเป็นคนใ
ช้ แต่เจนก็เป็นปัญญาชน
       "ชาร์ไม่สะอึกในคำพูดของเจน"
พวกดามุกคิดว่า ชาร์นี้โง่
บัดซบ เป็นเศรษฐีส่วนเกิน
มีแต่อดีต และดามุกอิจฉาและริษยา
คอยจ้องว่า ชาร์น่าตะโอนส่วนเกินมาให้พวกตน แต่
ดามุกทำไม่ได้ แต่มีทาง
By -passคือทางเบี่ยง
เขากำบัวทำกัน
บองติดคามแนสคิดของดามุก ว่าเขาจะทำอย่างไรต่อไป "ชาร์นั่งครุ่นคิดอยู่
อย่างภาพปั้นของ.......ครุ่นคิด :Le Penseur- The Thinker) งโดยโอกุสต์ รอแด็ง
        นักปฏิมากรชาวฝรั่งเศส ที่ตัวจริงปั้นตอนนี้อยู่ที่ กรุงปารีส ในประเทศฝรั่งเศส รูปชายนั่งคิดเหมือนมีความขัดแย้งภายใน รูปปั้นมักจะใช้เป็นสัญลักษณ์ของปรัชญา
โดย...Auguste Rodin..(ออกุส โรแดง=ภาษาฝรั่งเศส..สำหรับรูปจำลองมีหลายๆแห่ง ในส่วนที่ปรากฎหลางถนนในในเมือ
งของปารีส(Arrondissement
เขตที่....)เขามีไว้เป็นอนุสรณ์ ที่ชาร์เห็นขณะเดินเชื่อว่ามิใช่ตัวจริงเพราะตัวจริงเป็นบร็อนซ์แบะหินอ่อน
อย่างไรก็ตามชาร์ไม่ชอบเป็นคนอ่อนอ้างอิงหลักฐานคือเมื่อไม่แน่ใจตะไม่นำมาพูดอ้าง
ทุกอย่างในชีวิตชาร์จึง
เน้นการอ้างอิงเหมือนกับการมีโอกาสได้ปรากฏตัวบนที่หน้าบัลลังก์ศาล
        ชาร์จำได้ที่เที่ยว และหลงทางไป เลยเหลือบไปเห็นเข้าเป็นอาหารตา (food of visions) อาหารใจ(food of thoughts)
ก็นี้งัย ที่ชาร์ชอบปั้นแกะอย่าง ปฏิมากรทำ
เคยเรียนบ้างเป็นวิชาโท ในระดับอนุปริญญา และสอบได้ 
!แต่เมินเสียเถอะ'ดามุก' คิดหรือว่าข้าจะทำให้ส่วนเกินที่ข้ามีอยู่นี้นี้หายไปจากตัวข้า !  "ชาร์ทนงใจในตัวเองอยู่ในใจอย่างเงียบ" เพราะมันเป็นมรดกชิ้นสุดท้ายที่ขาร์เหลือมันพร้อมกับลมหายใจชุดสุดท้ายก่อนตายที่มันดื่มกินได้ "ปณิธานของชาร์"
          !โง่บัดซบ!  ดามุกมองชารฺด้วยใจหนยามเหยียดต่อชาร์
และชาร์ก็ยอมรับว่าตนเองนะโง่ในสายตาของพสกดามุก "แต่เดี๋ยวก่อนสหาย
'เราจะขายความโง้นี้แก่เจ้า' เพราะเราไม่คิดคิดคดโกงทรยศต่อคใามรู้สึกของใครๆเหมือนพวกเจ้า"
           เราจะทำความโง่ของเราให้ฉลาดให้เป็นสิ่งใช้ได้เหมือน ดังที่าำนักปรัชญา
Unilitarianism สื่อเอาไว้'ลัทธิอรรถประโยชน์'
ให้ได้เจ้าจงรู้ไว้ ข้ามีส่วนเกินของข้าเป็นเดิมพัน
ก็ดพราะพวกเจ้าคิดลบอย่างที่พวกเจ้ากำลังคิดงัย พวกเจ้าจึวเป็นคนมีบาปในสายตาของสังคมเชรัวร์"
ชาร์กล่าวในมิตินี้ในใจของตนเองที่สุด
ผ่านม่านหน้าต่างเชนัวร์ออกไปที่ที่ทุ่งมีหญ้าป่านาและฟ้ากว้างอย่าง (impress)ประทับใจ
ของช่วงเช้าวันหนึ่ง
        คนเขารวยกันตูมตาม
แต่ชาร์ไม่มีวี่แววว่าจะรวยเหมือนเขาบ้าง 'ท่าดีทีเหลว'
'ดามุกเหยียดชาร์กันถ้วนหน้า"
"อ้าว!ทำไมพวกเธอยังมาคงตามล่าความโง่ของ(ชาร์)เราอีกล่ะ"
      ชาร์กล่าวโต้ความรู้สึกของพวกดามุกอยู่เงียบๆ
และ
คิดต่อไปพูดต่อไปในใ
จอันสดใสและปราศจากอคติของตนเองว่า
:
       ก็ถ้าตนเองคิดว่า 'เราโง่ เจ้าจงไปตามคนที่รวย และรีดไถ และจ้องเอาความมั่งมี
และส่วนเกินของคนรวยเหล่านั่นซิ'  "แต่นี่พวกเธอไม่"
       แสดงว่าพวกเธอแย่มาก ตามหากินกับคนมีแต่ส่วนเกินเยี่ยงอย่างเรา ส่วนคนที่มีป
มเกินกว่าเรา ทำไมเจ้าไม่ไปจ้องเอาของเข
าเหล่านั้นล่ะ..หรือว่าเขาไม่เปิดทางให้ ไม่ให้ช่อง
โหว่แก่พวกเธอ พวกเจ้าจึงไม่มีปัญญาทำ
พวกเจ้ามีดีแต่จะคอยรังแกคนด้อยกว่า เหมือน
'พรานนฝนตกพรำ'ดักช้อนจับกิน"อึ่งปากขวด"ที่ลอยคอพรอดรักกันในหนองนาแล้วไปทอดหมกเกลือกินซึ่งง่ายกว่าจับกบทำกิน !ใช่มั้ย!
'อย่างนั้นใช้มั้ย' ชาร์ย้ำ
          ก็นี่ละ แววแห่งแรงอิจฉาริษย่ขอวพวกเจ้านี้ละ่
เป็นบาปติดตัวเป็น(Sin)ทำให้พวกเจ้าเกิดมาเป็นทาสทางความคิดของพวกดามุกงัย..
พวกสูเจ้าจงรู้ไว้
'คนเราทำอะไรลงไปมันมีบัญชีทั้งนั้น  ทุกๆอย่างทั้งการกระทำงในที่ลับที่แจ้ง
ที่พวกเจ้าทำมา
         !มันเหมือนแผลเป็นจากมัดที่หั่นปลาทำกินแล้วเผลอไปบาดมือเอา
งัย...
และพวกเรา"ที่เป็น"พอตายไปพวกมึงจึงถูก
'ยมพบาล'
เปิดบัญชีกำหนดโทษานุ
โทษ....ดั่งที้มโนคติแห่งความดีความชั่วหรือมโม
คติเชิงบวกและเชิงลบที่เคยทำไว้แสดงไว้ตอนมี
ชีวิตงัย
        พวกมึงอยู่กินไปวันๆหนึ่ง
โดยไม่คิดถึวชีวิตหลังความตายแบบคนกินข้าวเสร็จแล้วไม่ล้างหม้องั้นรึ
"ไปเถอะ ..พวกเจ้าจงไปเสียจากมโนคติอันเลวทรามที่เน้นเชื่อว่าความชั่วคือความดีของ
เจ้า"ชาร์กล่าวในที่สุด
        ความรู้ท่วมหัวเอาตัวไ
ม่รอด  ดามุกปลุกเสกคำนี้เป็นบรรณกา
รให้ แต่ชาร์เองส่วนตัวถือว่า "ความรู้ท่วมหัวแต่เอาตัวไม่รอดมันคือความโง่"
        เมนความคิด(Main ideas)เรื่องตอนนี้ ต้องบอกหน่อยว่า พอดีลิมิต(Limit)ส่ง6,000คำต่อตอนที่ บอ.กอ(บรรณาธิการเวบ)นี้ บางครั้งอารมณ์คนเขียนยังเดินอยู่ เมื่อไม่ยังไม่จบตอน
         เลยต้องแยกตอนทันทีมิฉะนั้นจะไปเปลืองหน้าคนอื่นเขา จึงแจ้งมาให้ทราบ ขออภัยแต่นิยายนี้เรื่องยาวไม่ถึงขนาเสามก็กหรือเพชรพระอุมาหรอก แต่ยาว
         และในนิยายนี้หากพบคำว่าGreek  และGreece
ให้บันทึกไว้เลยว่า คำแรกเป็นคุณนามของคำหลัง ตือประเทศกรีซ แต่คนกรีก 
หากพบที่ใดในนิยายนี้กรุณาเข้าใจตาม
นี้
        เพราะเวลาคนทั่วไปใช้มักจะพูดแล้วเข้าใจกันงเพราะตัวสะกดมันออกเสียงคล้ายกันมาก แม้ตัวสะกดจากภาษาอังกฤษไม่เหมือนกันคือตัวหานึ่งเป็น"C"และอีกตัวหนึ่งเป็น"K" สรุปคือ
 Greek =ชาวกรีก
 Greece=ประเทศกรีซ
        อนึ่งนิยายนี้เน้นอรรถประโยชน์สูงสุด(Utilitainism)เป็นที่ตั้ง คือจะพยายามให้ผู้ติดตามสนใจได้เชอร์พลัส(surplus คือภาษสที่นิยมในอังกฤษคือtrade surplusที่รัฐอังกฤษนิยมมากถ้ารัฐบาลชุดใดพบพลาดเป้าตัวนี้ไปก็ต้องจัดรัฐบาลใหม่คำยนี้หมายถึงทำให้รัฐมีรายได้ไม่ติดลลบคือได้มากเพิ่มตามหลักเศรษฐศาสตร์ ที่ส่วนใหญ่นักการเมืองระดับนายกจะจบ วิชารัฐเศรษศาสตร์และปรัชญา(PPE :politics- economics- philosophyในระดับปริญญาตรีB.A.(Oxon))มาจากออกร์ฟอร์ดส่วนใหญรู้ดีว่าเขาจะแก้ยังงัย ถ้าใครแก้ไม่ได้ก็ออกไปเท่านั้นเอง)มากที่สุด แม้นิยายนี้จะมีขาดตกบกพร่องบ้าง
           เพราะผู้เขียนเป็นนักเขียนวัยบำนาญแต่เพราะภัยโควิด(Covid-19)ด้วยและกอร์ปกับพอดีถึงยุคพ็อกเก็ตทัวร์(Space pocket tour)อ
วกาศได้มาถึง(พ.ศ.2564)จึงเกิดปีญหาทางเบี่ยงby-passทางความคิดสื่อขึ้นชนิดใช้รหัสยลัทธิ(Mysticism)
แบบอ่อนเช่นการใช้อักษรย่อ การใข้คำแฟชั่นสื่อกันแต่เข้าใจเป็นองค์รวมว่าคืออะไีรเช่นใช้คำว่า(Drama) ดรามาๆคืออะไรแทนใช้ว่าเป็นเรื่องราวในความหมายภาษาท้องถิ่นไทยโดยตรง ถ้าใช้แสลงเหล่านี้สังคมรู้ทันทีเพราะภาษารหัสเหล่านี้มันอมความและประหยัดเวลาดีจึงนิยมสื่อ บางครั้ง เช่นคำว่า กิ๊ก(ชู้ชนิดหนึ่ง)เป็นต้น
ความคลุมเครือบางจุดอาจมีแต่ผู้เขียนจะแก้ไขให้ดุลย์กับงานวรรณกรรมเป็นที่สุด มิใช่แก้ตัว หากเจตนานี้ไม่สบอารมณ์ก็ขอกราบประทานอภัยผู้ที่บังเอิญมาพบเจอนิยายนี้เข้า มา ณ โอกาสนี้ด้วย
ชื่อคฤหาสน์เชร์มัวร์มิใช่เชร์นัวร์
         ถ้าพบที่มใดเป็นเชนัวร์
ให้เข้าใจตามนี้แม้เหจุทางวรรณกรรม การแก้ไขจะแจ้ง มันจะสมบูรณ์
โดยไม่แก้อีก ก็ต่อเมื่อหนังสือนี้พิมพ์นอก
อี-บุ๊ค(e-book)แล้วขึ้นแล้วเท่านั้น
ผู้เขียนขออนุญาตประกาศแจ้งให้ทราบ เพราะพวกเล่นมุขของนิยายที่มีอัตลักษณ์จะล้ำเส้นภาษาศาสตร์ แต่นิยายนี้ไม่มีนโยบายสื่อลำ้เส้นสิ่งที่เป็นแม่แบบไปแล้วถ้ามี
        จะมีจะอธิบายและแก้ไขแจ้งเหตุผลให้ทรา
บเป็นกรณีๆไป
เพราะในฐานะปัญญาชนต้องเคารพเหตุผลเป็นใหญ่
ต่อไปตอน"ความมรักที่บางเพลย์"ความรักเกิดขึ้นที่ซอยเล็กๆและเงียบเหงาแบบมันจึงถูกเรียกอย่างนี้
         มันเป็นซอยเล็กๆแบบ ทางเดินเล็กๆในแนวคิดนักปรัชญากรีกของชาวประเทศกรีซแบบที่จะทำ promenade walkทางปัญญาหรือเดินเล่นปรับความสื่อตกลงเรื่องรักๆกัน(มีคำพูดนิยมของกรีกที่จำเป็นการอ้งอิง คิดได้จะมาเพิ่มต่อไป)กันเดินพักทางปัญญา
ที้ขาร์แอบไปเห็นความซื่อสัตบ์ที่เจนมีต่อเขร์มัวร์ "แต่เจนไม่รู้"

 

 

 

 


 

                       


   

 

 


                

 ตอนที่7


    

 

                                                        ตอนที่ 7

 

 


                                                      7.มันเป็นสุนัขเกรย์ฮาวน์


               (มันเป็นสุนัขเกรย์ฮาวน์ถูกจัดมา)
            เมื่อมันเป็นสุนัขเกรย์ฮาวน์ที่ถูกจัดม

                   เมื่อมันเป็นสุนัขเกรย์ฮาวน์ที่ถูกจัดมา

 ชาร์พบว่า:
สุนัขพันธุ์นี้ถูกมนุษย์หลอกให้ไล่กินกระต่ายที่เขากำหนดเขตมันไว้
และพาไปแข่งกันในเขตที่เขากำหนดไว้อีก และมันก็เป็นกีฬาที่แข่งกันแสนสนุก จนกลายเป็นกีฬาสุนัขสายพันธุ์นี้ของมนุษย์ มีนิยมใน
อังกฤษ เหมือนกีฬา เป่าตูดเต่าให้วิ่งไปข้างหน้า แล้วแข่งกันในเกมประจำเทศกาลที่วิทยาลัย เฉพาะที่เกิดเล่นกันในที่
ชาร์พบที่ Christ Church College, Oxford Univetsity,England.
 
      ในตอนนี้ของนิยาย ชาร์นำมาเป็นชื่อสื่อสัมพันธ์กับเนื้อเรื่องของตอน มิใช่ว่าชาร์จะกล่าวมันว่า "อย่างนี้โน้นนั่น" เพราะต้องการจะโอดตัวเองว่า เข้าไปกินไออุ่นของที่นี่มา
ที่นี่มาน่ะ "ชาร์ไม่ชอบการโอดเพราะขัดมอรัลเลีย"
แต่ที่เรานำมาเพราะมันเป็นวรรณกรรมในนิยายที่สมัยเรียนวรรณกรรมได้ไป
เที่ยวและไปเที่ยวนตะลอนตะลอนได้เห็น
มาเท่านั้น แม้มีเพื่อนเรียนที่นี่

และคิดจะสอบเข้าเรียนที่นี่ตอนนั้นเพราะ
ไปดูการเล่นกีฬา"เป่าตูดเต่า"แข่งกันในเทศกาลประจำปีของคณะนี้ที่มหาวิทยาลัย

พอดีสุขภาพของชาร์มิอำนวย
จึงงดสอบเข้าและรอไป จนวันหนึ่งโชคดีได้เรียนที่จุดอื่นกับท่านจารย์ที่มาจากคณะที่นี่เดินไปเรียนเพียงก้าวเดียวแทนที่Dept.of Extra-mural Education วิชาประวัติศาสตร์ช่วงหนึ่งของอังกฤษสอนโดยท่านศาสตราาจารย์ชาร์ด
วิค(Chadwick)
และที่ในยามค่ำในเมืองเราถูกชวนไปกินคือ
แต่มีแข่งกินไก่งววแทน "ชาร์ก็
ภูมิใจแล้ว "เอาเท่าที่ได้ทำเท่าที่มี"
คือความสุขและสุดยอดของ"ชีวิตตะลอนตะลอนไปไป"แล้วเขาเรียกว่า(peak)แห่งประสบการณ์ "พีค"ภาษาแฟชั่นในโซเซีบลมีเดียหนังสือพิมพ์งัย

และคำตอบของชาร์ ทั้งในตอนนี้และในตอนนั้นคือ "นี่เป็นปรัชญาในการหายใ
จเพื่อสัจธรรมของชาร์" งัย และจากปรัชญาจุดนี้เราจึงได้ใช้มือถือสื่อความลงตัวของวัตถุดิบแต่ละตอนได้เชืาอมโย
งกันจนเกิดนิยาย และตอนนี้ได้พัฒนางานเขียนกันอย่างเอร็ด
อร่อยตอนนี้งัยตอนนั้นยังไม่ได้แต่งงานกับคุณวิ แตืใกล้เต็มทีแล้ว "ขาร์ยืนยัน"

เรื่องมือถือนี่ก้อมิใช่ย่อยนะ สมัยไปเรียนนอกไม่ใช้ตัวนี้ตะทีก็ตู้โทรษัพท์สาธาร
ณะเขาเรียกว่า public teleohone ,kios และก็โทรศัพท์บ้าน ตอนก่อนวิตายเล็กน้อยตึงรูจักใข้pack-lingตามด้วยมือถือชนิดปุ่มกดจนมาระบบสัมผัส(android) computerก็เหมือนกันเน็ตเริ่มใช้เย็ตระบบโปรแดรมไะน์จนมาwindows รุ่นยุคแรกจนมาถึงwindow10..11ตามลำดับ
ชาร์จำได้แค่นี้

ตอนหลังยุคสงครามเวียดนามนิดนึงเกิดชีวิตโซเซีลยมีเดียหลากหลายขึ้นมา มีตัวหนึ่งชาร์จำไม่ได้เริ่มใช้มันบนคอมพ์มีรูหัวคนหมุนไปมาบนหน้าคอมพ์สนุกติดต่อกัน"จาละหวั่น"เลย จนถึงยุคปัจจุบันแห่ง
การมีและ
มีfacebook , instagrame, twitter   youtube ทุกอย่างพัฒนาในจอพบเปิดได้ผ่านระบบที่มาจากอินเตอร์
เน็ตคอมพ์จนมือถือมา จึงใช้อย่างอินเตอรเน็ตคอมพ์ได้ โลกใบนี้ต่อมาก็สนุกจนไม่มีเวลาหยุด
จนคุณวิตายลงชาร์ก็งดทุกอย่างเพราะเหนื่อย
แต่เรามาดูตัวที่เคยใช้มันโดย
ดูที่
ตัวช่วยมีตัวHarddisk sim memory cardและตัว
มีตัว  scanner and copy  and printer and notebook ทุกคนที่เรียนทำงานต้องมีจึงจะสนุก
มีตัวคอมสพ์ตั้งโต๊ "ทั้งหมดต้องสะอาดไม่มีฝุ่นติด"มิฉะนั้นไวรัสลงถ้ามันลงทีนี่ก็ยาวยากแก่การรักษาและเปลืองเงินมากที่จะหายใจไปกับมันเว้นแยงต่เราอยู่ในธุรกิจหรือนักศึกษามหาวิทยาลัยรุ่นใหม่ก็ทันกัน ถ้านอกวงการแล้วก็ต้องเก็กซิมกับนโยบายการใช้ของมันทีเดียว ทั้งๆที่คอนเซปต์มันก็มี0กับ1ในการทำงานจนเราพบทุกอย่างออกมาโดยไม่เห็นตัวตนในการส่งสัญญาณ แต่รู้เพียงว่าสรรพสิ่งมากับเป็นคลิ่น พอเราสัมผัสก็เป็นเรื่องเป็นราวที่กินได้ขึ้นมาทันทีเมื่อมันปรากฏบนหน้าจอมือถือของเรา "ชาร์ยืนยัน"
แต่อนิจจาถ้าไม่ใช้มัน ระยะนึงคือไม่ได้ใช้ ""แมลงสาป   และไวรัสฝุ่นจะช่วยใช้แทน"
สุดท้าย มือถือคือตัวออกหน้าใช้แทนเพราะมันสะดวกมาก และสะดวกที่สุด และจิ๋วไปไหนไปด้วยได้สบาย(ไม่ไดโฆษณาขายมือถือนะ)
ประวัติที่จำได้
คือcomputer notebook notepadจนทุกอย่างย่อลงในมือถือ phoneใช้กันตอนนี้

       แต่คุณวิเมียผมที่ตายไปแล้ว เค้าไม่ชอยทั้งหมดที่กล่าวมา เค้าชอบพิมพ์ด้วยมือใชเนิ้วจิ้มสองนิ้วชนิดไม่สัมผัส จากเครื่องพิมพ์ดีดชนิด
ตั้งโต๊ะโบราณที่สุด ของวิคือ(Remington) เครื่องนี้ยังอยู่แม้เมียชาร์ เธอตายไปแล้วตั้งนาน
    จนตอนนี้ ชาร์ต้องเอาธูปไปปักไว้ให้เพื่อ
บูชาคุณวิเป็นการรำลึก และเวลาทำต้องพร้อมดอกสายหยุดและกระดังงาดอกไม้ที่เธอถูกใจเธอมาก ชาร์จะทำในทุกๆเย็นหรือ
ในทุกคืนอาทิตย์
     นับว่าเป็นการบูาชาครูแด่เธอผู้เขียนและเธอที่จากไปแล้วอย่างไม่มีวันกลับ..และที่สำคัญชาร์
คือต้องนำไป "บูชาด้วยมือผมเองทำเท่านั้
น"คนอื่นมิได้แม้เจนทาสผู้รับใช้และคนซื่อก็ตาม

"วิ"เขาโตมีผัวแล้วก็จริง เธอยิ่งกว่าเด็กทา
รกอีกเมื่อเธอยู่ด้วยกันตอนที่ยังมีชีวิต แต่ผมก็พอใจ เพราะเป็นคนรักและรัก กัน มีอะไรขึ้นมา ไม่ว่ากัน และ"จึงพูดไม่ออก"
"ชาร์ยืนยัน"

วิ บันทึกไว้ว่าที่อังงกฤษเขากินน้ำชากัน แค่ชั้นสูงเขากินกาแฟ แต่ฝรั่งเศสเขากินกาแฟกันส่วนคนชั้นสูงกินชา เวลาเขากินกาแฟ
กินเพียงจิบๆเดียว แบบกินเหล้าไวน์ในเทศกาล "มิได้กินเป็นแก้วเป็นจอก"คือเขากินดื่มมิใช่เพราะหิวน้ำ เพราะประเพณีอย่างนั้นจนติดเป็นสันดานแล้วทุกคน เหมือนคนจีนชอบจิบกินชาเป็นอาชีพทุกคน

วิเข้าไปสมัยฝั่งทะเลช่องแคบโดเวอร์(Dover)ระหว่างฝรั่งเศสและอังกฤษยังไม่ได้สร้างอุโมงค์เชื่อมต่อ

"ชาร์ยืนยัน"

" วิเคราะห์ดามุกว่าทำไมกวนใจชาวโลก"

จาก 1.ปัญหาความยากจนทำให้ดามุกมาแทรกแทรงกิจการภายในชีวิตและส่วนเกินของชาร์

จาก 2.ปัญหาชีวิตและความสับสนของเจนและชีวิตรักของเธอสับสนและมีชะตากรรม

ที่ทำให้ชาร์ต้องมีสมาธิดีพอที่เพื่อรับฟังเรื่องราวของเธอ

จาก3.พร้อมกับ

การรายงานความเลวทรามของแก๊งดามุกอันเลวทราม

ที่ชาร์ไม่เคยรู้มาก่อน

 ในขณะที่เจนมาเป็นทาสเงินเดือนของคฤหาสน์เชมัวร์

จาก4. จากการแก้ปัญหาเงินเฟ้อและเงินฝืดและการพัฒนาตนเองสู้ยุคโดรน(drone advancemence)และมนุษย์อาวกาศ(space man) ทำให้ชาร์ต้องระวัง

อารมณ์มากจนมี ปัญหาตามมาคือ "จะมีไฟฟ้าดับ ฟ้าผ่าเมื่อฝนมา  ไฟฟ้าลัดวงจร
อุปกรณ์ไฟฟ้าใช้ผิดประเภท(ใช้สักแต่ใช้ไมคำณวนค่าแอมป์ วัตต์ โวลต์ และค่าผิดพลาดคาดหวังก่อนใช้ และมีการประมาทด้วยฝีมือมนุษย์)
 มีพายุฝน ฝนเทียม ฝนบ้าบอ มี ไข้หวัด และไวรัสโควิค-15 ตามมาด้วนแรงเสริมจากดอกฝน และหมอกฝน ขาร์ชอบใช้ถุงพบาสติกคลุมหัวเสมอ เมื่อตากดอกฝน
ไม่จำเป็นว่าฝนจะตกมากน้อย เมื่อไปที่กระท่อม
และแนะให้เจนปฏิบัติตาม

ไฟฟ้าดับหรือพักจ่ายไฟชั่วคราว
เพราะ
มีจลาจล มีกบฎ มีการตัดสาย มีปัญหาขัดข้องทางเทคนิคทาง
เพราะไฟจ่ายแบบสากลโยงใยไปทั่วจากเมนในเชมัวร์ จากเขื่อนเชมัวร์ที่เชมัวร์เองซื้อกระแสไฟมา

อะไรอีกหลายทางแบบ “นอม ปาตเตอกัว”แปลว่า"อะไรก็ได้"ภาษาฝรั่งเศส(n'importe quoi)
ทั้งหมดสร้างปัญหาอุปสรรคบั่นทอนกำลังชีวิตของคนมีส่วนเกินแบบชาร์ต้อวประสบ

ที่ชาร์ต้องเป็นแพะรับบาปตอนนี้

4 ข้อนี้เป็นจุดกำเนิดที่ทำให้สงครามมีการ
ประทะเกิดขึ้นในขีวิตประจำวันของชาร์หลังคุณ วิตายลง
ชาร์เชื่อว่าสงครามเกิดเพราะความหิว
ชาร์จึงเปิดร้านกินข้าวและข้าวต้มฟรี1มื้
อต่อวันต่อคน แก่คนเชนัวร์จากเงินทรัสต์ พบว่าคนขอทานที่เชนัวร์น้อยลง เอาอย่าง
ที่ปารีส เจามีบริการฟรีเรียกว่า " เรโชปา"
อาหารเที่ยงฟรี1มื้อต้องสั่งจอง ชาร์ เกิดเจอในนครปารีส ที่อื่นชาร์ไม่ทราบ
เพราะตอนนั้นชาร์ไปรับจ้างวาดภาพคนหน้าเหมือนด้วยสีพาเทล(มีทะเบียน)"มองมาร
ต์"และหิวข้าวและขาร์ทำเงินหายเพื่อนชื่อคลูดแนะไปกินด้วย จำได้ว่ามันเหมือนโรงทาน

โง่บัดซบ!  ดามุกมองชารฺด้วยใจหนยามเหยียดต่อชาร์
และชาร์ก็ยอมรับว่าตนเองนะโง่ในสายตาของพสกดามุก "แต่เดี๋ยวก่อนสหาย
'เราจะขายความโง้นี้แก่เจ้า' เพราะเราไม่คิดคิดคดโกงทรยศต่อคใามรู้สึกของใครๆเหมือนพวกเจ้า"

เราจะทำความโง่ของเราให้ฉลาดให้เป็นสิ่งใช้ได้เหมือน ดังที่าำนักปรัชญา
Unitarian สื่อเอาไว้'ลัทธิอรรถประโยชน์'
ให้ได้เจ้าจงรู้ไว้ ข้ามีส่วนเกินของข้าเป็นเดิมพัน
ก็ดพราะพวกเจ้าคิดลบอย่างที่พวกเจ้ากำลังคิดงัย พวกเจ้าจึวเป็นคนมีบาปในสายตาของสังคมเชรัวร์"
ชาร์กล่าวในมิตินี้ในใจของตนเองที่สุด
ผ่านม่านหน้าต่างเชนัวร์ออกไปที่ที่ทุ่งมีหญ้าป่านาและฟ้ากว้างอย่าง (impress)ประทับใจ
ของช่วงเช้าวันหนึ่ง

คนเขารวยกันตูมตาม
แต่ชาร์ไม่มีวี่แววว่าจะรวยเหมือนเขาบ้าง 'ท่าดีทีเหลว'
'ดามุกเหยียดชาร์กัรถ้วนหน้า"

"อ้าว!ทำไมพวกเธอยังมาคงตามล่าความโง่ของ(ชาร์)เราอีกล่ะ"


ชาร์กล่าวโต้ความรู้สึกของพวกดามุกอยู่เงียบๆ
และ
คิดต่อไปพูดต่อไปในใ
จอันสดใสและปราศจากอคติของตนเองว่า

:
 ก็ถ้าตนเองคิดว่า 'เราโง่ เจ้าจงไปตามคนที่รวย และรีดไถ และจ้องเอาความมั่งมี
และส่วนเกินของคนรวยเหล่านั่นซิ'  "แต่นี่พวกเธอไม่"


แสดงว่าพวกเธอแย่มาก ตามหากินกับคนมีแต่ส่วนเกินเยี่ยงอย่างเรา ส่วนคนที่มีป
มเกินกว่าเรา ทำไมเจ้าไม่ไปจ้องเอาของเข
าเหล่านั้นล่ะ..หรือว่าเขาไม่เปิดทางให้ ไม่ให้ช่อง
โหว่แก่พวกเธอ พวกเจ้าจึงไม่มีปัญญาทำ

พวกเจ้ามีดีแต่จะคอยรังแกคนด้อยกว่า เหมือน

'พรานนฝนตกพรำ'ดักช้อนจับกิน"อึ่งปากขวด"ที่ลอยคอพรอดรักกันในหนองนาแล้วไปทอดหมกเกลือกินซึ่งง่ายกว่าจับกบทำกิน !ใช่มั้ย!

'อย่างนั้นใช้มั้ย' ชาร์ย้ำ


ก็นี่ละ แววแห่งแรงอิจฉาริษย่ขอวพวกเจ้านี้ละ่
เป็นบาปติดตัวเป็น(Sin)ทำให้พวกเจ้าเกิดมาเป็นทาสทางความคิดของพวกดามุกงัย..


พวกสูเจ้าจงรู้ไว้
'คนเราทำอะไรลงไปมันมีบัญชีทั้งนั้น  ทุกๆอย่างทั้งการกระทำงในที่ลับที่แจ้ง
ที่พวกเจ้าทำมา

!มันเหมือนแผลเป็นจากมัดที่หั่นปลาทำกินแล้วเผลอไปบาดมือเอา
งัย...


และพวกเรา"ที่เป็น"พอตายไปพวกมึงจึงถูก
'ยมพบาล'
เปิดบัญชีกำหนดโทษานุ

โทษ....ดั่งที้มโนคติแห่งความดีความชั่วหรือมโม
คติเชิงบวกและเชิงลบที่เคยทำไว้แสดงไว้ตอนมี
ชีวิตงัย

พวกมึงอยู่กินไปวันๆหนึ่ง
โดยไม่คิดถึวชีวิตหลังความตายแบบคนกินข้าวเสร็จแล้วไม่ล้างหม้องั้นรึ

"ไปเถอะ ..พวกเจ้าจงไปเสียจากมโนคติอันเลวทรามของ
เจ้า"ชาร์กล่าวในที่สุด

    แล้วไปที่แนวคิดเรื่อง"ความรู้ท่วมหัวเอาตัวไ
ม่รอด"
เพื่อตรสจสอบตนเองว่า
(ข้อที่.1)
ที่พวกดามุกวิจารณ์ว่าชารฺ์บ้าจริงหรือไม่?

(ข้อที่.2)
ก็มีส่วนเกินก็ทำส่วนเกินให้มันเปฌนพลุ ในเมื่อโลกใหม่นี้คนทีแววรู้ฉลาดทันคนสามารถเป็นมหาเศรษฐีไดภายในเสี้ยงวินาทีด้วยปลายนิ้วสัมผัสมิใช่หรือ โดยเรื่อง ดามุก และสิ่งขวางกั้นอื่นมดเช่นโดนบล็อก โดนจารกรรมเรียกค่าไถ่
ชาร์เริ่มหวนคิดถึงแต่ความรักที่บางเพลย์
มันเกิดจาก'Law of thoughts"ที่ลืมได้ไม่ลง
 

จากที่ภาค2เชมัวร์กำลังกล่าวอยู่นี้
แต่ภาค2คือเล่ม2นี้ขื่อว่า"กระท่องเชร์นัวร์=The Hut of Charnoir")ให้ชื่อว่าตอน “อพยพ” เพราะ เรื่องเดิมหน้าเต็มรอเล่ม

จึงขึ้นเรื่องใหม่ ต่อจากเล่มแรกชื่อนิยายว่า" กระท่อมเชร์นัว ( The Hut of Charnoir)ที่ให้เกียรติแด่คุณ วิเมียของชาร์เองผู้ที่ตายไปเร็วเกิน แต่ความรักที่บางเพลย์ยังคงตราตรึงอยู ชิ่อภาค2นี้คุณวิไม่ชอบเพร่ะเธอถือวว่าคสามรักดป็นยาพิษรสขม กินไม้ได้จึงไม่อย่ากให้โลกรู้ "แท้ทันมีอยู่จริง" แต่ชาร์เชื่อตรงกันข้าม
ว่าความรักมิใช่ยาพิษและรสขมแต่มันกินได้ถ้
ารู้จักกินคือกินที่ละนิด ถ้ามีสิ่งพิษ"หมอแผนโบราณ"ท่านว่าทำ"สะตุ"พิษให้เบาจากพิษนั้นเสียก่อน " "ใช่" ชาร์ได้เก็บความไว้ในใจคนเดียวไม่บอกให้คุณวิรู้เพราะกลัวว่าคุณ"วิ"จะโกรธ ชาร์ จึงฉวยโอกาศหลังเธอตายไปแล้ว อ้างอิงในนิยายเล่มนี้ และชา

ร์"ก้อขออภัยหากตนเองใช้เสรีภาพทางวรรณกรรมเกินไป ที่นำสสารแห่งความรัก  ที่เกิดขึ้นในความรักที่บางเพลย์นี้มากล่าวย้อนหลังสอดแทรกในนิยายนี้อีก
และชาร์ขอต้อนรับที่เลี่ยงไม่ได้กับการต่อสู้กันในสงครามไวรัสโควิด-19(Virus Covid-19)อันน่าเศร้าและน่ากลัวนี้ ที่ทำให้เพื่อนมนุษย์หลายคนทุเดียวที่ีัรักษาบำบัดเยียวยาอยู่และที่รอตาย และที่จำเป็นต้องตายจากกันไปอย่างไม่มีวันหวนกลับคืนมากกว่าล้านชีวิตขึ้นไปทั่วทุกมุมโลกจาก"WHO"องค์การอนามัยโลก ของอวค์การสหประชาชาติยืนยันมา ในขณะที่ชาร์กำลังม่วนอยู่กับการตรวจงานของคุณ"วิ"นี้
เหตุเกิด
ในช่วง ปี พ.ศ. 2564 ขณะที่ชาร์ผู้เขียนกำลังตรวจงานให้คุณ “วิ” นางเอกที่ตายไปอยู่

หมายเหตุ " บก."(ส่วนชื่อนิยายว่า "คฤหาสน์เชมัวร์ “Charmoir Estate” เล่มแรกนั้นได้ตรวจแก้จบเสร็จไปแล้วกำลังรอที่จะพิมพ์)
 

 

 
ตอน8


           ทรยศ

เมื่อมันถูกทรยศ


 

                                    เมื่อมันทรยศ

                                ที่ชุมทางสถานีถ้ำขุนโจรดามุก

        เพื่อมิให้เกิดครหาชื่อของตอน
จึงตั้งสังกัปว่า

ความกับตอนมันไม่สัมพันธ์ตาม
ที่ควรเป็นสันดานการเขียนว่า"เมื่อมีปากกาและน้ำหมึกแล้วร่ายมนต์แห่งการขีดเขียนไปตามอำเภออำใจ แต่ชาร์ปฏิเสธว่า"เปล่า
นะ"
"มันเป็นเช้นนั้นเอง"

กัน
การขึ้นตอนเมื่อมันมีคำถามว่า"ใครทรยศใครต่อใึครแบบไหนแล้วเกิดอะไรขึ้น

คำตอบมีคือตอนนี้ความมจริงทรยศกับ
ความจริงอันนำสู่มาในการตั้งชื่อตอนนั่นเอง"

 

เริ่มตอน(ฉาก)
           
           จากการใช้ชีวิต แต่สำหรับชาร์มิใช่เพื่อชีวิตไปวันๆหนึ่ง คือทุกก้าวมีความหมายเสมอ

          เพราะชาร์รู้ว่า""มีการทรยศเกิดขึ้นในโลกแห่งเชร์มัวร์  ที่พอทราบรู้ได้เพราะเจนบอกมา ถ้าไม่บอก ชาร์คงต้องโง่และบอดสนิทต่อไป "ส่วนเกินเท่านั้นที่ชาร์พอใจตอนนั้ ไม่เคยคิดเรื่องการทรยศหรือไม่ทรยศ ตามที่เจนบอก หรือว่าเป็นเพราะเจนคิดมากไปเอง ในเรื่องการถูกทรยศ เพราะเหตุนี้เจนจึงต้องเกิดมาเป็นทาสของเขร์มัวร์ มันจะอย่างไร คบคุยกับเจนต่อไปจนกว่าเจนจะหยุดเล่าและลาออกจากเชร์มัวร์ทรัสต์ไป "ชาร์ครุ่นคิดอย่างมีเหตุมีผลในตัวมันเอง"

          มันเหมือนไฟกำลังแล่นและเรากำลังนั่งไปกับรถไฟคันนั้น "แน่นอน"
ไม่มีใครรู้ดีว่ารถไฟจะตกรางที่ไหน นอกจาก หินและไม้หมอนและเหล็ก 2 เส้นที่ทอดยาวตั้งขนานกันไปเพื่อให้รถไฟวิ่ง
ไปได้สู่จุดหมายปลายทางที่คาดว่าจะต้อง
ถึง


        การคาดคะเนและเดาปรากฏการณ์นี้ชาร์ใช้มันนอย่างภูมิใจและตามสบาย
ก่อนตาย ชาร์ถือว่าได้หายใจได้อย่างมีคว
ามสุขในวันๆหนึ่ง  ก็พอใจแล้วชีวิตนี้เพราะมันไม่มีอะไรแน่นอนไปกว่าความไม่แน่นอน แม้ใจหนึ่งยังคำนึงหาคิดถึงแต่คุณ"วิ"ผู้จากไปที่แสนจะเร็วเกิน

"ใช่!มันน่าเศร้า"

 แต่ทำงัยเล่า "นั่นชาร์จึงนิยามว่า ชีวิตรั
กนี้คล้ายทรยศเหมือนรถไฟกำลังแล่น บนทาง ที่ไม่
รู้ว่าจะตกรางฤาไม่ นอกจากไม้หมอนท่อนเหล็กตันและรางคู่ขนานที่นำมันไป"

       ก็ในเมื่อชีวิตมาแบบนี้เอง เมื่อมันทรยศ
"ชาร์พยายามถามเองตอบเองอย่างเป็นปรัชญา"ว่าทรยศคืออะไร มันเป็นสัจธรรมแห่งความเลวใช่หรือไม่ใช่"หยุดแค่นี้ก่อนจะคิดให้มันมากต่อไป"


     มีอะไรที่ทำให้ชาร์มีความสุข ตามสูตรท่านบอกว่า

"ก็ที่ไหนมีร้อนที่นั่นมีเย็นแก้ และ ที่ไหนมีหนาวเย็นที่นั้นมีร้อนแก้สูตรนี้ตายตัวจนเกิดเป็นปรัชญาและลัทธิศาสนาขึ้นมา "อันนี้ท่านบอกมา" และก็ก้อปักใจเชื่อ
และชาร์ก็ตัดสินใจง้อความจริงต่อไปแทนการไม่คิดถึงมัน

    เมื่อไช้อารมณ์เกิดขึ้นประทุขึ้นมาทีไร ชาร์ใช้วรรณกรรมเข้าช่วยคือแต่งเขียนครวจแก้งานให้วิเมียรักที่เธอนิยายไว้

    เมื่อเหงาและวังเวงทำอะไรไม่ถูก ชาร์หยุดคิดและฟังเสียงเพลง ทำให้หยุดแล
ะทนรอเพื่อได้อารมณ์และทำต่อ

    เมื่อเบื่องานเขียนอารมณ์ขุ่นมัว ชาร์ใช้สีน้ำมันบรรเลงวาดภาพบนพื้นแคนวาสขาวผ้านอกแสนแพง
จนเบื่อและเหม็นน้ำทงมันลินซีด(น้ำมันผสมสีวาดภาพ)จนแทบเบื่อ


    ก็นอนกินเสพดื่มเดินเล่นกินอากาศชายทะเลยามเย็น กัญชาเหล้าชาร์ไม่แตะเมื่ออารมณ์ขุ่นสำหรับชาร์

สรุปเพลง เขียนหนังสือ วาดภาพคือทาง
ออกเมื่ออารมณ์ของตนเองเริ่มพิการ
ลายคนว่าสวนครัวซิแต่ชาร์ไม่เป็นและไม่
ชอบแต่ถ้าเลือกได้เลือกเดินเก็บเปลือกหอยชายทะเลที่เขาไม้ห้ามดีกว่า
ๆทางออกอื่นที่
มีทางออกอื่นๆอีกคือปลูกผักสวนครัวนั้น

ดูอินเตอร์เน็ต มันดีตัวนี้สำหรับชาร์เพราะว่าชาร์เกิดมาท่ามกลางแสงตะเกียงและเตาถ่านจึงใช้เน็ตดูมันเปรียบเทียบชีวิตที่สะดุดอยู่ได้ดี

   น้ำประปาคือจากบ่อ ไฟฟ้าคือจากตะเกียงเจ้าพายุ และกระโปกไฟน้ำมันก้าด
แต่
อินเตอร์เน็ตให้ทุกอย่างเพียงต่อสายด้วยราคาสนนเท่านั้น จะเอาอะไรได้ทุกอย่าง"มันไม่เคยขัดข้องเลยหนอ"ที่เน็ต" " ไม่รู้อะไร"จงถามเน็ต"ที่อินเตอร์เนตรู้หมด


   มีเท่านี้นี่คือโรงพยาบาลทางใจของชาร์เมื่อไข้ขึ้นชาร์เปลี่ยนได้และหายทุกๆครั้
งเพราะเคยเรียนแพทย์มา
เมื่อ ดอกฝนและ
อารมณ์เสียที่ทำให้ชาร์มีไข้ที่+-37องศาจากการวัด สุดท้ายหายเหมือนเดิม

   โรงพยาบาล ชาร์ไม่เคยเป็นคนไข้ให้เขาเปลือง
เพราะชาร์เรียนแพทย์มาแต่ไม่จบเพียงคือรู้รักษาตัวฉีดยาเป็นกินยาถูก
จะไป โรงพยาบาลทำไม
ก็ต่อเมื่อผ่าตัด ชาร์ไปพึ่งหมอที่โรงพยาบาล พึ่งรถพยาบาล(Ambulance)การพึ่งอุปกรณณ์และอุป
กรณ์แพทย์เท่านั้นและที่จะต้องใช้นางพยาบาลเท่านั้น

     ชาร์จำได้ว่า แมงตับคา(ดาวเรืองตัวเล็กมากเลื้อยเข้าหูทำรัง ในรูหูลึกเข้าไปนิ้วครึ่งชาร์หมดปัญญาเอาออกเองไม้ได้ไปให้
พยาบาลเอาออกให้และโดยหมอหูทำให้"จำได้"  ชาร์ไม่เคยคิดพึ่งเจนแม้ให้เงินเดือนเธอ
 

   "เอาตัวไม่รอดความรู้มี" 
หลายคนบ่น 
ชาร์
ศอกกลับว่าลำพังลำพังส่วนเกินที่ชาร์มีอยู่ก็รักษาได้ดูได้ไม่หมด จะไปเอาอะไรวิมานที่ไหนจะมีดีกว่าส่วนเกินดีกว่าที่ชาร์มีและเป็นอยู่ตอนนี้นะ "ใครช่วยตอบ"

   วันหนึ่งๆตอนนี้ขอให้อารมณ์จอยย์ กินได้นอนหลับ เท่านี้ก็พอ พอใจแล้ว"ชาร์ตอบสรุป"


    เพราะการไปแข่งส่วนเกินกับภายนอกอีกมันแย่งที่นั่งคนอื่นเค้า  อาขญากรร
ม และสงครามตามมา ถ้าชาร์คิดมักให
ญ่ใฝ่สูงอีกอย่างนั้น


นี่คือสิ่วที่เป็นเหตุเป็นผลที่ชาร์ไม่เคยละเว้นคิด เพราะในโลกนี้"ดินกับน้ำ"มีจำกัด มันหมุนวนกลับไปกลับมาต่อกันเมื่อความร้อนและความเย็นของอากาศที่เปลี่ยนไป


    การหมุนเวียนไปมาเท่านั้นที่ทำให้ชื่อและธาตุของมันเปลี่ยนไป
    "ใช่"ส่วนหนึ่งขาดแสดงว่าอีกส่วนหนึ่งเกิน
      ทำนองเดียวกันส่วนหนึ่งเกินแสดวว่า
อีกส่วนหนึ่งขาด หรือนัยะว่า "เมื่อคนหนึ่งได้อีกคนหนึ่งต้องเสีย "เป็นเช่นนี้เป็นสัจธรรมเรื่อยไปอย่างเป็นกลบท
สำหรับแนวคิดเชิงประติทรรศน์ของ
ของชาร์


         ชาร์คิดถึงแต่ความรักที่บางเพลย์
มันเกิด กฎแห่งความคิด(Law of thoughts)แม้จะโตป่านี้แล้วมันเป็นความรักครั้งแรก จึงวางปากกาและขอหยุดหายใจรำลึกให้มันหนึ่งวินาที เท่านี้ก็อิ่มแล้ว
ก่อนจะเกร็งนิ้วเขียนนิยายต่อไป

 

บันทึกนิยาย
จากภาค2เชมัวร์
(41)

1:ส่วนเกิน

(หมายเหตุ บก. ชื่อนิยายว่าคฤหาสน์เชมัวร์ “Charmoir Estate” จบไปแล้วรอพิมพ์

แต่ภาค2คือเล่ม2นี้ขื่อว่า"กระท่องเชร์นัวร์=The Hut of Charnour")
 

ให้ชื่อว่าตอน “อพยพ” เพราะ เรื่องเดิมหน้าเต็มรอเล่ม

จึงขึ้นเรื่องใหม่ ต่อจากเล่มแรกชื่อนิยายว่า" กระท่อมเชร์นัวร์"

    
      ขออภัยหากใช้เสรีภาพทางวรรณกรรมเกินไป ขอต้อนรับการต่อสู้ในสงครามไวรัสโควิด-19ตัวสร้างเหตุตัวหนึ่งแห่งความสับสนของนิยายนี้ แต่มันแพ้มนุษย์นอกเสียจากมนุษย์จะยอมมอบความชนะให้โควิด-19เสียเอง

     ในช่วง ปี พ.ศ. 2564 ขณะที่ผู้เขียนกำลังตรวจงานให้คุณ “วิ” นางเอกที่ตายไปแล้วอยู่

               จากเสียงเพลงหลายเพลงตอนก่อนจนมาถึงเสียงเพลงร้องขับกล่อมของAndy Williams นักร้องโด่งดังสัญชาติสหรัฐฯ เป็นต้น ในเพลง"When Do I   Begin" ตอนก่อนๆ หน้านี้ ชาร์คิดว่าฟังเพลงเสียบ้าง จะได้ทวนภาษาและ
ได้ลบความเครียด เพลงคือทางเลือกใหม่ของคนเหงาและทุกคนเสพได้ดีแทนกัญชาและเหล้าเพื่อดับเลือดโกรธลงได้อย่างนิ่ม
และถ้าเสพเพลงจะไม่ติดคุกได้ทั้งทางกายและทางใจ 
ถ้าคุกมีไว้เพื่อคนเสพสิ่งดัดจริต2อย่างนั้นอันเป็นสิ่งที่กฎหมายเขาไม่ชอบตอนนี้

 เพลงจึงเป็นอาหารมื้อว่างที่มีประโยชน์ที่สุดในโลก  ในทุกอารมณ์ที่เงียบและเหง
าใจแห่งทิวาวันและความมืดแห่งรัติกาล
ใช้เพลงฟังเถอะเพื่อน "ชาร์พูดกับตนเองเพื่อรำลึกถึงเพื่อนคนหนึ่งที่สำลักน้ำตายขณะลงเล่นน้ำหลังรับจ้างเก็บองุ่นด้วยกัน
นานมาแล้ว ชาร์จำวันที่ไม่ได้

 

 

        ทะเล ภูเขา สถานีรถไฟ ชาร์ชอบที่สุดในชีวิต รถจักรยานนั้นไม่ชอบแต่ปั่ยเป็นเพราะจักรยานทำชาร์ตกควนสูงเฉียดตายครั้งหนึ่งและเพราะครั้งนั้นชาร์จึงเลิกเล่นจักรยาน จำได้ว่าเว้นแต่วิร้องขอ เมื่อเราเบื่อเดินเล้น แบบ(promenade)กัน แต่รถยนต์นี้ของโปรดแม้เคยมีอุบัติเหตุ
รถโรลส์ รอย ของอังกฤษ ชาร์ใฝ่ฝันอยากมี

"ใช่แล้ว "ชีวิตและชีวิตที่ที่ทุกวันที่ชาร์จะอดนึกมันไม่ได้คือไม่กล้ามองข้ามมันไป
คือ

  ในทุกรัตติกาลของวันขอให้ได้ที่จะพบเสียงเพลง เสียงนกร้อยคุยกันก็ยังดี ถ้าขาดเพลง การคอยอยู่ของทุกชีวิตในความมืดแม้เสียงเพลงผีขับขาร์ยังชอบเลย

เสียงเพลงคือเสียงแห่งสันติภาพและเสียงอันอมตะและเสสียงแห่งสันติสุข 
เมื่อฟังเสียงเพลงแล้วมันเหมือนผีเสื้อกำลังบินให้ดูแม้ผีเสื้อทุกตัวมันไม่เคยพูดให้มนุษย์ได้ยิน ก็ฟังโดยการดูมันบินว่อนอย่างสวยงามสงบ ชาร์ถือว่านั้นคือเสียงพูดและเสียงเพลงแห่งมัน ที่สุดจะประทับใจ สิ่งเห
ล่านี้ชาร์ไม่เคยเบื่อแต่กลับเมามันมากทีเดียวที่จะยอมล้าสายตาที่จะมองมันเมื่
อทันทีที่เห็นธรรมชาติจากจุดนี้พูด


อารมณ์สวยสันติเกิดขึ้นทันทีเมื่อเห็นนกกำลังกรีดปีกคุยกันและผีเสืีอพยายามแย่วกันดมดูดดอกไม้เอย่างเสรีในสวนป่า
ส่วนผึ้งนั้นชาร์ละที่จะชอบมันนักเพราะมันต่อยเจ็บปวด นอกจากน้ำผึ้งหวานที่ชอบจริงๆเพราะเป็นยาทางใจให้ชุ่ม เท่าที่พบมา

 

  ถ้าใครสามารถแอบดังฟังหูฟังของชาร์ได้ ชาร์ที่คฤหาสน์จะฟังแต่เพลงเท่านั้น ข่าวนั้นไม้ฟังเลย เพราะชาร์ถือว่าตนเองเป็นพระอรหันต์ขนิดหนึ่งที่หลงเชื่อความเกิดดับและความหมุนเวียนกลับไปกลับมาคือสัจธรรมของพระอรหันต์ แม้ที่จริงอาจจะไม่ใช่ แต่ชาร์ขอเชื่อของชาร์อย่างนั้นจนกว่า
จะพบความบริสุทธิ์แห่งสัจธรรมที่แท้จริง
และใหม่กว่า ชาร์กำลังรอวันนั้นมาพานพบ

 

       ในท่ามกลางแมกไม้ และพงหญ้ากลางแสงจันทร์ยามดึก และเสียงนกแซงแซวและนกกระบวดนกเขาใหญ่ร้องในกลางวัน น้ำพริกปลาย่างปิ้งและตำโขลกด้วย มะเขือยาวเผาใ้ช้ปลาร้า(สลิด) ตำด้วยครกและสากระเบือหินอายุ100 ปี ตำทำน้ำพริกกผักจิ้มด้วยผักแต้วยอดแดงก่ำและ ยอดมะตูมแขกอ่อน สีเลือดหมูย่าง ยอดผักชีลาวสลัดน้ำกลิ่นหอมละมุน ชวนดม

และมะเขือยาวเผาลวกกระทิ "อิ่ม "ที่ภัตตาคารใ

นฝันแห่ง"กระท่อมเชร์นัวร์"ที่พักใจยามว่างของชาร์แห่งนี้

 


       วันเสาร์ เวลา17.00น เมื่อ"เจน"กลับบ้านแล้ว
        "ชาร์"สามารถทำสมาธิเป็นนักพรตฟังเพลงหาความสงบและทำได้ดีอีกด้วย เมื่อไม่มีใครเลย นิกจากความว่างเปล่า

ที่กระท่อมเชร์มัวร์
พร้อมเพลงอีกตามเคยเมื่อเดินกลับถึงคฤหาสน์เชร์มัวร์ตอนดึกสงัด และสิ่งขาดไม่ได้คือกับ
และเพลงกำจัดสนิมใจที่มีติดอยู่ด้วยหูฟังเก็บเสียงและปลอดภัยจากการหนวกหูรำคาญคนอื่นและเพื่อเลี้ยงโสตประสาททำได้หน้าที่ประกันการเงี่ยฟังอย่างเพลินและสงบคนเดียวฟังเท่านั้น


  .....................................................

 

 ตอน9


                                ชุมทางสถานีเขาถ้ำขุนโจรดามุก
 
              โจร"ดามุก"ไปเกิดใหม่เป็นคนดีเหมือนผ้าที่พับไว้


              บันทึกนิยาย:
               เขียนบางตอนซ้ำขอเพราะต้องแก้ไขบางตอนที่มีจุดเน้นแฃะขาดตกบกพร่องจากภัยทางเอกสารที่ชำรุด
เมื่อพบเพื่อให้เชื่อมโยงกัน
จึงได้สริมต่อบางข้อความขึ้นมาเพิ่มแต่เน้นจากงานเขียนของวิ ตัวเดิมเป็นหลักที่ชาร์สอดแทรกนั้นเพียงให้สมบูรณ์ขึ้นเท่านั้น

               เพราะมันจะได้ต่อเนื่อง และปัญหาการใช้อักษรมากเกินขนาดที่ขึ้นหน้าแล้วมีปัญหา
มิได้เหลือหน้าไว้คนอื่นบ้างอันนี้ กฎมอรัลเลียของนิยายนี้ หากวรรณกรรมนี้มีอุบัติ
เหตุนิดนึงตรง
จุดนี้ ก็ขอโทษในนามของความเป็นจริ
งนี้ด้วย

                ชาร์ได้บอกกับเจนแล้วซึ่งบางครั้งเธอคือเลขาส่วนตัวของชาร์

เพราะชาร์มาในช็อตแห่งวัยสนธยากาล 
คือมีหลงมีลืมมีตกมีพร่องมีหล่นมีแก้ไข เธอจึงคอยช่วนเตือน "แต่ชาร์สงวนสิทธิ์ทำเนื้อความเดิมเสียไป"

และผู้เขียนแก้ไขปรับเปลี่ยนปรุงแต่งคือชาร์ได้ตรวจงานและเพิ่มเติมเนื้อหาวรรณกรรมจำเป็นเข้าไปอีก คือมีชาร์เท่านั้นที่ทำได้ ในฐานะชาร์เป็นผัวของผู้เขียน ชาร์ไม่นำคนอื่นมาเขียนแทน แม้บางครั้งทำไม่ไหว ก็ใช้สื่อแทนผ่านปากพูด หรือใช้ภาษาสะดวกกูเกิลก็ช่วยได้ คือพูดให้คนอื่นเขียนให้ เพราะมือของชาร์บาวครั้งชาและปวดบวม

        และอนึ่งเจนมีเวลาน้อยมากเธอต้องดูต้นไม้ ของคุณวิเวียนน์(วิ)
       ชาร์เองไม่อยากที่จะอยากรบกวนเธอมาก" นี่พอดีเธอเสนอตัวมาเอง เพราะเธอรู้จักกับเมีย(วิ)ของชาร์ดี คือเพราะเจจนเธอต้องตั้งสมาธิจิตเฝ้าระวังต้นพลูด่างมอนสเตอรา (Monstera)ที่คุณวิปลูกไว้ก่อนตายตอนนี้มันได้กลายเป็นต้นพลูด่างมอนสเตอร่าสายพันธุ์พลูด่างสีหมอกแฉก ไม้ดูดฟอกอากาศชั้นเยี่ยม ต้นละหลักล้านเมื่อเ
ข้าตลาดประมูลกัน
และขาี์แบ่งให้เจน10%เมื่อขายถ้าขาย
ใช่พลูด่างแพงขึ้นและ
ที่มีค่าขึ้นมาตอนนี้


         เจนเธอจึงต้องอยู่เฝ้าระวัง ถ้าผิดพลาดมันจะตายหมด ตอนนี้ราคาแพงมาก และกลัวโจรแอบเข้ามาขโมยหรือทำลายพัยธ์ุมันให้เสียไป เพราะที่เชร์มัวร์นี้มีพวกฉาอิฐ(อิจฉา)เยอะมากที่มีมอรัลเบียก็มีแต่ที่เชร์มัวร์คฤหาสน์นี้เท่านั้นและภัยธรรมชาติอีก จึงมีงานเข้าสำหรับเจนตอนนี้


"ชาร์เน้นตัวนี้(พลูด่าง)มากกว่างานเลขาส่วนเตัวขอวเธอในงานเขียน"
เพราะวิสั่งชาร์มาอย่างนั้นมาก่อนตายของ
วิ" "ห้ามใครมายุ่งนอกจากเธอคนเดียวทำมันให้เสร็จ"สั่งมาก่อนตายหนึ่งนาทีชาร์จำได้ นี้เป็นOrder (คำสั่งให้ปฏิบัติ)มิใช่ statement(สั่งให้เลือกปฏิบัติ)


วาระต่อมา...ต่อไป


         "  เจน"บอกว่าตนเองถ้ารับมรดกสมบูรณ์ที่มิใช่ของตนเองจะมีเงินใช้ถึง100ล้านในบัญชี เมื่อเธอชนะความในศาลลับและศาลเปิดและศาลวิถีประชาและศาลประชาชนตัดสินให้ได้แล้ว

+-100ล้านบาทราคาปัจจุบัน 
เพราะเธอประสบภัยจากดามุกเป็นเหตุให้เกิดนิติกรรมอำพรางจำนวนมากที่พ่อและแม่ของแม่(ยาย)เธอทำไว้ให้เธอ
เป็นเอกสารอำพราง ที่ปล่อยให้"เจน"มาแก้ไขได้  

ต่อมาเจนมองเห็นว่าการใช้กฎมอรัล
เลีย(morallia)แทนดีกว่า เพราะมีอะไรเมื่อตายลงพาติดตัวไปไม่ได้

เจนตัดสินใจอย่างนี้
จึงปล่อยให้เป็นกรรมในวัฏฏะ(กรรมเวียนไปมาต่อภพชาติหรือกรรมเกิดขึ้นในคนสัตว์ต่อกันในช่วงแห่งการเวียนว่ายตายเกิด)

เจนสารภาพมาอย่างนั้น "ชาร์ก็ยอมรับอย่างนั้น จึงกล่าวยืนยันว่ามัาต้องเป็นอย่าง
นั้่นคือเป็นตามความจริงที่จากความจริงที่เจนสารภาพจากความเจตนาอย่างบริสุทธิ์ใจของเจนเอง"

และหลักความเชื่อนี้เป็นไปได้เพราะว่า จุดหนึ่งมนุษย์จะมีจิตสำนึกผลุดมาเอง เหมือนเด็กดื้อตอนเด็กพอโตคิดได้ไม่ดื้ออีกแล้ว
งั้น"ว่านอนสอนง่าย เรียกว่าการมีจิตสำนึกขึ้นมาเอง
ชาร์ย้อนถามเจนว่า"ถ้าคุณได้100ล้านจริงขึ้นมาจะให้อะไรผมบ้าง"
เจนไม่ตอบชาร์แต่อมยิ้ม
ชาร์เหนื่อยขอพักแป้บนึงฟังเพลงของไมเคิล บูเบล เพลง"Can't  Help Falling
in Love - by Michael Buble"ก่อนเปิดดูได้ใน"Youtube"
ฟรีโดยสาธารณะชนผู้ชอบใช้หูฟังเพลง
ที่ชื่นชอบที่ไหนเมื่อไหร่อย่างไรเวลาไหนก็ได้

เพราะชาร์ไม่ต้องเสียเวลาขอ"creative common มากันเรื่องในปัญหาต่อสนธิสัญญาในการผิดละเมิดลิขสิทธิ์เพลงเนื้อร้อง....จึงนำมาให้เท่านี้ ใช่ว่าจะโฆษณาหรือบู้ตคนติดนิยายนี้ีัรัยหรอก คือ"มันเป็นเช่นนั้นเอง"

 

           อนึ่งชาร์สารภาพต่อสาธารณชนว่านิยายนี้เป็นวรรณกรรมไม่ไดสำเนานำความสมจริงหรืออาจมีจริงมาประจานแต่อย่างใด
แต่แค่ฝันไปแและมันออกมาเป็นวรรณกรรมหฃังการตานของคนรักที่ด่สนจากไป จึงทำให้เกิดนิยายนี้ขึ้นทา

 

แม้มีเจตนาแต่ไม่ประสงค์ต่อผล คือเจตนาให้นิยายมีอรรถรสที่ควรเสพแต่ไม่หวังประจานความผิดพลาดของสังคมวิกฤติแต่อย่างใด เพราะชาร์พบว่าเป็นธรรมชาติ ที่ต้องเยียวยาในวันปรากฏต่อไปได้ จึงเฝ้าระวังอย่าให้เกิดขึ้น มันเป็นหายนะ แต่วรรณกรรมนี้เน้นความสุข
จากการอ่านเสพและเพิ่มสติในการมีชีวิตที่มีดุลยภาพนิรันดร์ นั้นคือเป้าหมายที่ขอวิสรรชนีย์เอาไว้ในนิยายนี้ในที่นี้ด้วย

 

            เจนสารภาพจะฆ่าตัวตายหลายครั้ง แต่ไม่ทำ
เพราะการศึกษาและศาสนาและปรัขญาลัทธิ
ได้ห้ามตนเองไว้

คนเราเกิดครั้งเดียวตายครั้งเดียว
ตามสภาพก่อนพิสูจน์
ฉะนั้นการเกิดการตายคือธรรมชาติ
การฆ่าตัวตายคือโรคจิต ทำลายตนเอง
ไม่ดี " เจนสารภาพ"

           มีหลายชีวิตต้องการฆ่าตัวตาย เพราะรัก เพราะติดคุก เพราะเข้าใจว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม อันนี้ถือว่าเขาหันหลังให้กับความเป็นจริง เพราะการทำเช่นนั้น เท่ากับทำลาย
ตนเองแต่มิใช่การแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นให้ดีขึ้น
แม้นิดเดียวแต่กลับสร้างปัญหาให้คนรุ่นหลัง
เหคุผลอย่างง่ายเช่น

รักเขา เขาทรยศ

               เมื่อเกิดเราเปลี่ยนเป็นไม่คิดคือโลกนี้ห่คนใหม่ได้อย่ายึดติด
ทำผิดติดคุก
เมื่อผิดก็ต้องรับผิด คนเราทำอะไรมีผิดกันได้ เมื่อธาตุพิการทำผิดไป เราจะแพ้จะชนะชีวิตให้มองเหมือนกีฬา
ขัดคอกับบิดามารดา
เมื่อเกิดเราต้องยอมท่านเพราะไม่กี่วันท่านก็ตายแล้ว
งัดข้อกับเจ้านาย
เจ้านายไม่ทีคนเดียวในโลก
ผิดใจกับรัฐผู้ปกครอง
ตามท่านหมาไม่กัดผิดใจก็ชั่วคราวเท่านั้น ไม่กี่วันท่านก็หมดวาระ ไม่มีใครอมตะ


          ผิดใจกับมาเฟีย
ที่บนลกมีมากเพื่อหลบหลีกหนีไป
อีกร้อยแปดอย่าง
อีกร้อยแปดก็สติช่วยได้หมด ร้อนมีเย็นแก้ เย็นมัร้อนแก้เสมอ มีกลางวันมีกลางคืน
นี่คิอปรัชญาขอเจน 
ต่อมาชาร์เลยยกให้เจนเป็นอาจารย์และพี่เลี้ยงทางปรัชญาให้กับตนแต่ไม่รู้ตอบแทนอะไร
จึ่ง
โดยเพิ่มเงินเดือนให้เจนแทนด้วยการตัดงานบางอย่างที่เจนต้องทำตามสัญญาลดงานที่เธอรับผิดชอบลงมา

 


           เพราะชาร์ไม่มีเงินอีกชาร์ คือเป็นคนจนสายพันธุ์ใหม่หรือมาใน (emtiness version)คือหน้าเปล่าเงินว่างั้นแต่มีที่มิใช่เงินคือ(wealthy  แบบ tychoon=พ่อค้า) เงินที่จ้าง"เจน"เป็นคำสั่งทรัสต์ที่คุณ วิทำไว้ ชาร์เป็นเพียงผู้สนองคุณวิเท่านั้น
จากบทสนทนาลับทางมือถือเมื่อวานนี้กับเจน

 


             หลายคนพูดว่า"แล้วชาร์มันอยู่ได้งัย"เมื่อมันเป็นคนหน้าเปล่าเงินงี้"
            คำตอบคือ"ปรัชญางัย"

             พวกดักปลาไหลดำตามหนองมนเขคเชร์มัวร์ เพื่อเอาปลาไหลนาไปทำแกงเผ็ดและพวกล่ากบนากลางคืนยามฝนตกแฉะของ พวกดามุกสมัครเล่น จะชอบสงสัยแบบนี้


คำตอบว่า "ทำไมชาร์อยู่ชีวิตได้ในธรรมชา
ติที่ตนเป็นคน "แบบฉากหน้าเปล่า" งี้รึ
อ้าว!ฟังนะ!ชาร์จะเล่า
(แตต่ชาร์มีคฤหาสร์บุิลอนอันเป็นมรดกเลือดเช่นกันตอนนี้ทิ้งไว้ให้ต้นไทรใหญ่เฝ้าไว้และเลื้อยพันผูกมีนกกาเฝ้าให้จริงๆ แต่วิไม่สนใจชาร์เรื่องนี้ตอนแต่งงานกัน ชาร์ระบปากกับเจนว่าจะเล่าให้ฟังทีหลังถ้าชาร์มีเวลา)

     ก็คนเรานะยากดีมีจนเงินนะ!ใช้เงินเพียงกินได้อยู่ได้หลับได้เหมือนกันหมด คือท้องเท่ากันหมด ปากเดียว ตุด(ทวารหนัก)เดียว


เหมือนว่าคนจะยาจนหรือรวยสุด
ก็ กินให้แค่"อิ่ม" กินทางปาก ขึ้ทางตุดทั้งนั้นและ
เท่านั้น
ฉะนั้น คนเรา
ไม่ต้องรวยระดับ จึงเป็นใครก็ได้
ไม้ยากนัก คือมันเหมือนกันโดยสาระขอ
งะความเป็นมนุษย์ รวยจนเป็นส่วนเกินที่ประดับไว้เท่านั้น มิได้ใช้จริงบริโภคจริง
เหมือนการอิ่มมื้อข้าวมื้อหนึ่งๆ แต่อย่างไีงไม่

และที่รู้จริงมิใช่สอดรู้สอดเห็นมา
ค่ะ


        เจนบอกว่า คนบางคนได้ลูกสาวเศรษฐี
แต้ตัวเองเป็นคนชนิด"หน้าเปล่าเงิน "
แบบสังคมกันได้อยู่กันได้ชอบกันได้
เพราะพอดีตอนนั้นทัรพอดี"เง" (ความต้องการทางเพศ)อยู่ด้วยเพราะบสงครั้งหาที่ปล่อยยาากหรือแผนขังอารมณ์ของดามุก
อันนี้ทันแอปพลาย(apply)เข้าทั้งสองเพศนะ!
เพราะเขามีตัวช่วยคอยหนุน หรือให้ยืมเงินเขามาแต่งว่างั้น แล้ว พอมีลูกมั่นคงแล้วจึงแอบเอาเงินเมียมาคืนให้พร้อมดอกเบี้ยชด
ใช้แบบสัญญาลับ
หรีอแบบฉบับตามสูตร ที่ปดปิดที่
ไม่ยอมให้เมียรู้ บางรายมีสัญญาว่าเมื่อลูกสาวโตแล้วยกลูกสาวให้ แบบอย่างนี้
ก็มี
แต่ที่แบบดีๆก็มีคือมิใช่แบบแผนชั่ว
ๆ(แต่น้อยมาก)แบบแผนของดามุกแบบนี้ก็มี

มันทีหลายเวอร์ชั่น(version)ว่างั้น


เจนพูดย้ำชาร์และบอกว่าในสังคมเขตเชร์มัวร์ทุกอ
ย่างที่เล่ามานี้ "เท่าที่หนูไปเห็นมา"

เจนสารภาพในวันหนึ่งตอนพลบค่ำก่อนเรานั่งคุยกันทางมือถือ แล้วจากกันท่ามกลางความเงียบเหงา

 


         ชาร์จึงยก(เจน)เธอเป็นพระเจ้าในจิตใจของชาร์ แต่ไม่บอกให้เธอรู้ว่าเธอคือพระเจ้า
เพราะไม่ดีและก็ไม่บอกด้วยว่าชาร์ชอบเพลง
และชอบงานวรรณกรรม มีรสนิยมเหมือนเธอ
และงดการคุยเรื่องส่วนตัวขอวชาร์เองและคุณวิ
คือปล่อยให้เธอตีเทนนิสกระทบกำแพงอิฐข้างเดียว ชาร์ฟังรับทราบอย่างเดียว

 

          เพราะส่วนเกินของชาร์ปิดกั้นไว้
ด้วยเหตุนี้ชาร์จึงอ้อนวอนให้พวกโจร"ดามุ
ก"อันแสนเลวทรามพวกนั่น "ไปเกิดใหม่และไปชดใช้กรรมเปลี่ยนเป็นคนดีเป็นคนมี"มอรัลเลีย" และรับกรรมจากการกระทำของตนที่เกิดที่มีตามบัญชี ที่เคยเป็นมา เช่นใส่ร้ายชาร์ว่า " ชาร์มีชู้กับเจนเป็นต้น ทั้งๆที่ขาร์และเจนไม่มีอะไรกันเลย" แต่พฤติกรรมปัญญาชนของชาร์และเจนคล้ายจะเป็นในสายตาของพวกดามุก "แต่เปล่าเป็น"

 

คือมันเป็นอย่างนั้นเอง "อันนี้บาปหนักที่ดามุกเข้าใจอย่างนี้ในระดับอนุพันธุ์ของความผิด เหมือนคนชั้นสูงดุคนนั้นเพียงมองใครตาขวาง
เท่านั้นคือ นั่นคือ"การไม่ชอบ การ ปฎิเสธ  'No' "

คือตาดุอย่างนั้น คือมาอย่ามาหาทำ ไม่ชอบ มีโทษ ขณะที่คนชั้นต่ำ
ชี้นทาส ชั้นต่ำสุด ชั้นคนพาล ถ้าจะห้ามใครไม่ให้ทำอย่างกรณีก่อน  เพียงมองห
น้ากันเท่านั้นไม่พอต้อง "ฆ่า ด่าทอ  ต้องทุ
บตีต่อยเตะ ต้องประหารชีวิต ต้องลงโทษให้เห็นแบบตาต่อตา ฟันต่อฟัน มิใช่แค้เ
พียงมองตาขวาง เท่านั้น คำห้ามปรามจึงจะเกิดประโยชน์ตามที่มีคำสั่งได้ไม่
ดังนี้เป็นต้นเป็นอาทิ....

 


         สรุปพฤติการณ๋ของดามุกซึ่งชาร์ถือว่าไปไหนไม่รอด  คือเกิดมามีชีวิตที่มีบัญชีคือมีแผลเป็นติดตัวมาและติดตัวไปมาจนกลายเป็นตราบาปชั่วนิรันดร์ที่ชาร์เชิ่อว่าในกาลโบราณก่อนโพ้นมีคนคิดแก้ไขคนแบบดามุกจนเกิด"ศาสนาลัทธิ"ขึ้นมาฝึกใจที่มองไม่เห็นตัว โดยสอนคน"ห้ามเจตนามุ่งร้ายคนอื่นที่ผิดทำนอง จึงได้ตราเป็น"ลัทธิทำดีตามทำนองคลองธรรมขึ้นมาเป็นเหตุ

        จนนกลายเป็นปรัชญ
าชั้นเยี่ยมในศาสนา"ต่อๆมา และพบในปัจจุบันในศาลจะให้มีการสาบานตนก่อนไม่ว่าใครมาจากศาสนาใด ว่ามีแต่ความจริ
งเท่านั้นแม้มองไม่เห็นที่จะให้การต่อศาลด้วยคำพูดต่อไป จนคำตัดสินในวาระสุดท้ายมาถึง"

         ชาร์จึงขอภาวนาวิงวอนแด่ท่านทวยเทพเจ้าให้พวกดามุกทัั้งหมดจงตายแล้วจงกลับตัวไปเกิดใหม่และกลับตัวเป็นคนดีที่ึทีคนมีมอรัลเลียตามที่ข้าน้อยน้อมต้องการเถิด..พะยะค่ะ
ควรมิควรประการใด ขอได้โปรด...ชาร์แห่งเชนัวร์

 
 

 9


                                ชุมทางสถานีเขาถ้ำขุนโจรดามุก
 
              โจร"ดามุก"ไปเกิดใหม่เป็นคนดีเหมือนผ้าที่พับไว้


              บันทึกนิยาย:
               เขียนบางตอนซ้ำขอเพราะต้องแก้ไขบางตอนที่มีจุดเน้นแฃะขาดตกบกพร่องจากภัยทางเอกสารที่ชำรุด
เมื่อพบเพื่อให้เชื่อมโยงกัน
จึงได้สริมต่อบางข้อความขึ้นมาเพิ่มแต่เน้นจากงานเขียนของวิ ตัวเดิมเป็นหลักที่ชาร์สอดแทรกนั้นเพียงให้สมบูรณ์ขึ้นเท่านั้น

               เพราะมันจะได้ต่อเนื่อง และปัญหาการใช้อักษรมากเกินขนาดที่ขึ้นหน้าแล้วมีปัญหา
มิได้เหลือหน้าไว้คนอื่นบ้างอันนี้ กฎมอรัลเลียของนิยายนี้ หากวรรณกรรมนี้มีอุบัติ
เหตุนิดนึงตรง
จุดนี้ ก็ขอโทษในนามของความเป็นจริ
งนี้ด้วย

                ชาร์ได้บอกกับเจนแล้วซึ่งบางครั้งเธอคือเลขาส่วนตัวของชาร์

เพราะชาร์มาในช็อตแห่งวัยสนธยากาล 
คือมีหลงมีลืมมีตกมีพร่องมีหล่นมีแก้ไข เธอจึงคอยช่วนเตือน "แต่ชาร์สงวนสิทธิ์ทำเนื้อความเดิมเสียไป"

และผู้เขียนแก้ไขปรับเปลี่ยนปรุงแต่งคือชาร์ได้ตรวจงานและเพิ่มเติมเนื้อหาวรรณกรรมจำเป็นเข้าไปอีก คือมีชาร์เท่านั้นที่ทำได้ ในฐานะชาร์เป็นผัวของผู้เขียน ชาร์ไม่นำคนอื่นมาเขียนแทน แม้บางครั้งทำไม่ไหว ก็ใช้สื่อแทนผ่านปากพูด หรือใช้ภาษาสะดวกกูเกิลก็ช่วยได้ คือพูดให้คนอื่นเขียนให้ เพราะมือของชาร์บาวครั้งชาและปวดบวม

        และอนึ่งเจนมีเวลาน้อยมากเธอต้องดูต้นไม้ ของคุณวิเวียนน์(วิ)
       ชาร์เองไม่อยากที่จะอยากรบกวนเธอมาก" นี่พอดีเธอเสนอตัวมาเอง เพราะเธอรู้จักกับเมีย(วิ)ของชาร์ดี คือเพราะเจจนเธอต้องตั้งสมาธิจิตเฝ้าระวังต้นพลูด่างมอนสเตอรา (Monstera)ที่คุณวิปลูกไว้ก่อนตายตอนนี้มันได้กลายเป็นต้นพลูด่างมอนสเตอร่าสายพันธุ์พลูด่างสีหมอกแฉก ไม้ดูดฟอกอากาศชั้นเยี่ยม ต้นละหลักล้านเมื่อเ
ข้าตลาดประมูลกัน
และขาี์แบ่งให้เจน10%เมื่อขายถ้าขาย
ใช่พลูด่างแพงขึ้นและ
ที่มีค่าขึ้นมาตอนนี้


         เจนเธอจึงต้องอยู่เฝ้าระวัง ถ้าผิดพลาดมันจะตายหมด ตอนนี้ราคาแพงมาก และกลัวโจรแอบเข้ามาขโมยหรือทำลายพัยธ์ุมันให้เสียไป เพราะที่เชร์มัวร์นี้มีพวกฉาอิฐ(อิจฉา)เยอะมากที่มีมอรัลเบียก็มีแต่ที่เชร์มัวร์คฤหาสน์นี้เท่านั้นและภัยธรรมชาติอีก จึงมีงานเข้าสำหรับเจนตอนนี้


"ชาร์เน้นตัวนี้(พลูด่าง)มากกว่างานเลขาส่วนเตัวขอวเธอในงานเขียน"
เพราะวิสั่งชาร์มาอย่างนั้นมาก่อนตายของ
วิ" "ห้ามใครมายุ่งนอกจากเธอคนเดียวทำมันให้เสร็จ"สั่งมาก่อนตายหนึ่งนาทีชาร์จำได้ นี้เป็นOrder (คำสั่งให้ปฏิบัติ)มิใช่ statement(สั่งให้เลือกปฏิบัติ)


วาระต่อมา...ต่อไป


         "  เจน"บอกว่าตนเองถ้ารับมรดกสมบูรณ์ที่มิใช่ของตนเองจะมีเงินใช้ถึง100ล้านในบัญชี เมื่อเธอชนะความในศาลลับและศาลเปิดและศาลวิถีประชาและศาลประชาชนตัดสินให้ได้แล้ว

+-100ล้านบาทราคาปัจจุบัน 
เพราะเธอประสบภัยจากดามุกเป็นเหตุให้เกิดนิติกรรมอำพรางจำนวนมากที่พ่อและแม่ของแม่(ยาย)เธอทำไว้ให้เธอ
เป็นเอกสารอำพราง ที่ปล่อยให้"เจน"มาแก้ไขได้  

ต่อมาเจนมองเห็นว่าการใช้กฎมอรัล
เลีย(morallia)แทนดีกว่า เพราะมีอะไรเมื่อตายลงพาติดตัวไปไม่ได้

เจนตัดสินใจอย่างนี้
จึงปล่อยให้เป็นกรรมในวัฏฏะ(กรรมเวียนไปมาต่อภพชาติหรือกรรมเกิดขึ้นในคนสัตว์ต่อกันในช่วงแห่งการเวียนว่ายตายเกิด)

เจนสารภาพมาอย่างนั้น "ชาร์ก็ยอมรับอย่างนั้น จึงกล่าวยืนยันว่ามัาต้องเป็นอย่าง
นั้่นคือเป็นตามความจริงที่จากความจริงที่เจนสารภาพจากความเจตนาอย่างบริสุทธิ์ใจของเจนเอง"

และหลักความเชื่อนี้เป็นไปได้เพราะว่า จุดหนึ่งมนุษย์จะมีจิตสำนึกผลุดมาเอง เหมือนเด็กดื้อตอนเด็กพอโตคิดได้ไม่ดื้ออีกแล้ว
งั้น"ว่านอนสอนง่าย เรียกว่าการมีจิตสำนึกขึ้นมาเอง
ชาร์ย้อนถามเจนว่า"ถ้าคุณได้100ล้านจริงขึ้นมาจะให้อะไรผมบ้าง"
เจนไม่ตอบชาร์แต่อมยิ้ม
ชาร์เหนื่อยขอพักแป้บนึงฟังเพลงของไมเคิล บูเบล เพลง"Can't  Help Falling
in Love - by Michael Buble"ก่อนเปิดดูได้ใน"Youtube"
ฟรีโดยสาธารณะชนผู้ชอบใช้หูฟังเพลง
ที่ชื่นชอบที่ไหนเมื่อไหร่อย่างไรเวลาไหนก็ได้

เพราะชาร์ไม่ต้องเสียเวลาขอ"creative common มากันเรื่องในปัญหาต่อสนธิสัญญาในการผิดละเมิดลิขสิทธิ์เพลงเนื้อร้อง....จึงนำมาให้เท่านี้ ใช่ว่าจะโฆษณาหรือบู้ตคนติดนิยายนี้ีัรัยหรอก คือ"มันเป็นเช่นนั้นเอง"

 

           อนึ่งชาร์สารภาพต่อสาธารณชนว่านิยายนี้เป็นวรรณกรรมไม่ไดสำเนานำความสมจริงหรืออาจมีจริงมาประจานแต่อย่างใด
แต่แค่ฝันไปแและมันออกมาเป็นวรรณกรรมหฃังการตานของคนรักที่ด่สนจากไป จึงทำให้เกิดนิยายนี้ขึ้นทา

 

แม้มีเจตนาแต่ไม่ประสงค์ต่อผล คือเจตนาให้นิยายมีอรรถรสที่ควรเสพแต่ไม่หวังประจานความผิดพลาดของสังคมวิกฤติแต่อย่างใด เพราะชาร์พบว่าเป็นธรรมชาติ ที่ต้องเยียวยาในวันปรากฏต่อไปได้ จึงเฝ้าระวังอย่าให้เกิดขึ้น มันเป็นหายนะ แต่วรรณกรรมนี้เน้นความสุข
จากการอ่านเสพและเพิ่มสติในการมีชีวิตที่มีดุลยภาพนิรันดร์ นั้นคือเป้าหมายที่ขอวิสรรชนีย์เอาไว้ในนิยายนี้ในที่นี้ด้วย

 

            เจนสารภาพจะฆ่าตัวตายหลายครั้ง แต่ไม่ทำ
เพราะการศึกษาและศาสนาและปรัขญาลัทธิ
ได้ห้ามตนเองไว้

คนเราเกิดครั้งเดียวตายครั้งเดียว
ตามสภาพก่อนพิสูจน์
ฉะนั้นการเกิดการตายคือธรรมชาติ
การฆ่าตัวตายคือโรคจิต ทำลายตนเอง
ไม่ดี " เจนสารภาพ"

           มีหลายชีวิตต้องการฆ่าตัวตาย เพราะรัก เพราะติดคุก เพราะเข้าใจว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม อันนี้ถือว่าเขาหันหลังให้กับความเป็นจริง เพราะการทำเช่นนั้น เท่ากับทำลาย
ตนเองแต่มิใช่การแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นให้ดีขึ้น
แม้นิดเดียวแต่กลับสร้างปัญหาให้คนรุ่นหลัง
เหคุผลอย่างง่ายเช่น

รักเขา เขาทรยศ

               เมื่อเกิดเราเปลี่ยนเป็นไม่คิดคือโลกนี้ห่คนใหม่ได้อย่ายึดติด
ทำผิดติดคุก
เมื่อผิดก็ต้องรับผิด คนเราทำอะไรมีผิดกันได้ เมื่อธาตุพิการทำผิดไป เราจะแพ้จะชนะชีวิตให้มองเหมือนกีฬา
ขัดคอกับบิดามารดา
เมื่อเกิดเราต้องยอมท่านเพราะไม่กี่วันท่านก็ตายแล้ว
งัดข้อกับเจ้านาย
เจ้านายไม่ทีคนเดียวในโลก
ผิดใจกับรัฐผู้ปกครอง
ตามท่านหมาไม่กัดผิดใจก็ชั่วคราวเท่านั้น ไม่กี่วันท่านก็หมดวาระ ไม่มีใครอมตะ


          ผิดใจกับมาเฟีย
ที่บนลกมีมากเพื่อหลบหลีกหนีไป
อีกร้อยแปดอย่าง
อีกร้อยแปดก็สติช่วยได้หมด ร้อนมีเย็นแก้ เย็นมัร้อนแก้เสมอ มีกลางวันมีกลางคืน
นี่คิอปรัชญาขอเจน 
ต่อมาชาร์เลยยกให้เจนเป็นอาจารย์และพี่เลี้ยงทางปรัชญาให้กับตนแต่ไม่รู้ตอบแทนอะไร
จึ่ง
โดยเพิ่มเงินเดือนให้เจนแทนด้วยการตัดงานบางอย่างที่เจนต้องทำตามสัญญาลดงานที่เธอรับผิดชอบลงมา

 


           เพราะชาร์ไม่มีเงินอีกชาร์ คือเป็นคนจนสายพันธุ์ใหม่หรือมาใน (emtiness version)คือหน้าเปล่าเงินว่างั้นแต่มีที่มิใช่เงินคือ(wealthy  แบบ tychoon=พ่อค้า) เงินที่จ้าง"เจน"เป็นคำสั่งทรัสต์ที่คุณ วิทำไว้ ชาร์เป็นเพียงผู้สนองคุณวิเท่านั้น
จากบทสนทนาลับทางมือถือเมื่อวานนี้กับเจน

 


             หลายคนพูดว่า"แล้วชาร์มันอยู่ได้งัย"เมื่อมันเป็นคนหน้าเปล่าเงินงี้"
            คำตอบคือ"ปรัชญางัย"

             พวกดักปลาไหลดำตามหนองมนเขคเชร์มัวร์ เพื่อเอาปลาไหลนาไปทำแกงเผ็ดและพวกล่ากบนากลางคืนยามฝนตกแฉะของ พวกดามุกสมัครเล่น จะชอบสงสัยแบบนี้


คำตอบว่า "ทำไมชาร์อยู่ชีวิตได้ในธรรมชา
ติที่ตนเป็นคน "แบบฉากหน้าเปล่า" งี้รึ
อ้าว!ฟังนะ!ชาร์จะเล่า
(แตต่ชาร์มีคฤหาสร์บุิลอนอันเป็นมรดกเลือดเช่นกันตอนนี้ทิ้งไว้ให้ต้นไทรใหญ่เฝ้าไว้และเลื้อยพันผูกมีนกกาเฝ้าให้จริงๆ แต่วิไม่สนใจชาร์เรื่องนี้ตอนแต่งงานกัน ชาร์ระบปากกับเจนว่าจะเล่าให้ฟังทีหลังถ้าชาร์มีเวลา)

     ก็คนเรานะยากดีมีจนเงินนะ!ใช้เงินเพียงกินได้อยู่ได้หลับได้เหมือนกันหมด คือท้องเท่ากันหมด ปากเดียว ตุด(ทวารหนัก)เดียว


เหมือนว่าคนจะยาจนหรือรวยสุด
ก็ กินให้แค่"อิ่ม" กินทางปาก ขึ้ทางตุดทั้งนั้นและ
เท่านั้น
ฉะนั้น คนเรา
ไม่ต้องรวยระดับ จึงเป็นใครก็ได้
ไม้ยากนัก คือมันเหมือนกันโดยสาระขอ
งะความเป็นมนุษย์ รวยจนเป็นส่วนเกินที่ประดับไว้เท่านั้น มิได้ใช้จริงบริโภคจริง
เหมือนการอิ่มมื้อข้าวมื้อหนึ่งๆ แต่อย่างไีงไม่

และที่รู้จริงมิใช่สอดรู้สอดเห็นมา
ค่ะ


        เจนบอกว่า คนบางคนได้ลูกสาวเศรษฐี
แต้ตัวเองเป็นคนชนิด"หน้าเปล่าเงิน "
แบบสังคมกันได้อยู่กันได้ชอบกันได้
เพราะพอดีตอนนั้นทัรพอดี"เง" (ความต้องการทางเพศ)อยู่ด้วยเพราะบสงครั้งหาที่ปล่อยยาากหรือแผนขังอารมณ์ของดามุก
อันนี้ทันแอปพลาย(apply)เข้าทั้งสองเพศนะ!
เพราะเขามีตัวช่วยคอยหนุน หรือให้ยืมเงินเขามาแต่งว่างั้น แล้ว พอมีลูกมั่นคงแล้วจึงแอบเอาเงินเมียมาคืนให้พร้อมดอกเบี้ยชด
ใช้แบบสัญญาลับ
หรีอแบบฉบับตามสูตร ที่ปดปิดที่
ไม่ยอมให้เมียรู้ บางรายมีสัญญาว่าเมื่อลูกสาวโตแล้วยกลูกสาวให้ แบบอย่างนี้
ก็มี
แต่ที่แบบดีๆก็มีคือมิใช่แบบแผนชั่ว
ๆ(แต่น้อยมาก)แบบแผนของดามุกแบบนี้ก็มี

มันทีหลายเวอร์ชั่น(version)ว่างั้น


เจนพูดย้ำชาร์และบอกว่าในสังคมเขตเชร์มัวร์ทุกอ
ย่างที่เล่ามานี้ "เท่าที่หนูไปเห็นมา"

เจนสารภาพในวันหนึ่งตอนพลบค่ำก่อนเรานั่งคุยกันทางมือถือ แล้วจากกันท่ามกลางความเงียบเหงา

 


         ชาร์จึงยก(เจน)เธอเป็นพระเจ้าในจิตใจของชาร์ แต่ไม่บอกให้เธอรู้ว่าเธอคือพระเจ้า
เพราะไม่ดีและก็ไม่บอกด้วยว่าชาร์ชอบเพลง
และชอบงานวรรณกรรม มีรสนิยมเหมือนเธอ
และงดการคุยเรื่องส่วนตัวขอวชาร์เองและคุณวิ
คือปล่อยให้เธอตีเทนนิสกระทบกำแพงอิฐข้างเดียว ชาร์ฟังรับทราบอย่างเดียว

 

          เพราะส่วนเกินของชาร์ปิดกั้นไว้
ด้วยเหตุนี้ชาร์จึงอ้อนวอนให้พวกโจร"ดามุ
ก"อันแสนเลวทรามพวกนั่น "ไปเกิดใหม่และไปชดใช้กรรมเปลี่ยนเป็นคนดีเป็นคนมี"มอรัลเลีย" และรับกรรมจากการกระทำของตนที่เกิดที่มีตามบัญชี ที่เคยเป็นมา เช่นใส่ร้ายชาร์ว่า " ชาร์มีชู้กับเจนเป็นต้น ทั้งๆที่ขาร์และเจนไม่มีอะไรกันเลย" แต่พฤติกรรมปัญญาชนของชาร์และเจนคล้ายจะเป็นในสายตาของพวกดามุก "แต่เปล่าเป็น"

 

คือมันเป็นอย่างนั้นเอง "อันนี้บาปหนักที่ดามุกเข้าใจอย่างนี้ในระดับอนุพันธุ์ของความผิด เหมือนคนชั้นสูงดุคนนั้นเพียงมองใครตาขวาง
เท่านั้นคือ นั่นคือ"การไม่ชอบ การ ปฎิเสธ  'No' "

คือตาดุอย่างนั้น คือมาอย่ามาหาทำ ไม่ชอบ มีโทษ ขณะที่คนชั้นต่ำ
ชี้นทาส ชั้นต่ำสุด ชั้นคนพาล ถ้าจะห้ามใครไม่ให้ทำอย่างกรณีก่อน  เพียงมองห
น้ากันเท่านั้นไม่พอต้อง "ฆ่า ด่าทอ  ต้องทุ
บตีต่อยเตะ ต้องประหารชีวิต ต้องลงโทษให้เห็นแบบตาต่อตา ฟันต่อฟัน มิใช่แค้เ
พียงมองตาขวาง เท่านั้น คำห้ามปรามจึงจะเกิดประโยชน์ตามที่มีคำสั่งได้ไม่
ดังนี้เป็นต้นเป็นอาทิ....

 


         สรุปพฤติการณ๋ของดามุกซึ่งชาร์ถือว่าไปไหนไม่รอด  คือเกิดมามีชีวิตที่มีบัญชีคือมีแผลเป็นติดตัวมาและติดตัวไปมาจนกลายเป็นตราบาปชั่วนิรันดร์ที่ชาร์เชิ่อว่าในกาลโบราณก่อนโพ้นมีคนคิดแก้ไขคนแบบดามุกจนเกิด"ศาสนาลัทธิ"ขึ้นมาฝึกใจที่มองไม่เห็นตัว โดยสอนคน"ห้ามเจตนามุ่งร้ายคนอื่นที่ผิดทำนอง จึงได้ตราเป็น"ลัทธิทำดีตามทำนองคลองธรรมขึ้นมาเป็นเหตุ

        จนนกลายเป็นปรัชญ
าชั้นเยี่ยมในศาสนา"ต่อๆมา และพบในปัจจุบันในศาลจะให้มีการสาบานตนก่อนไม่ว่าใครมาจากศาสนาใด ว่ามีแต่ความจริ
งเท่านั้นแม้มองไม่เห็นที่จะให้การต่อศาลด้วยคำพูดต่อไป จนคำตัดสินในวาระสุดท้ายมาถึง"

         ชาร์จึงขอภาวนาวิงวอนแด่ท่านทวยเทพเจ้าให้พวกดามุกทัั้งหมดจงตายแล้วจงกลับตัวไปเกิดใหม่และกลับตัวเป็นคนดีที่ึทีคนมีมอรัลเลียตามที่ข้าน้อยน้อมต้องการเถิด..พะยะค่ะ
ควรมิควรประการใด ขอได้โปรด...ชาร์แห่งเชนัวร์

 
 

 

 

 

ตอน10
 

 


                                                  วิเวียนน์

             วิเวียนน์คืนชีพจากหลุมศพ

กับโลกใบใหม่ของความบังเอิญ

คืนชีพคืนชีพ

“เจน”
เธอเล่าต่อไป....

"ผมอยากฟังถ้าเธอมีเวลาพอ"

ผมถือว่าทุกชีวิตคือนิยาย

นี่!เพราะผมเกิดมามีส่วนเกินที่เขเาใจ"เจน"ไม่ออกบอกเจนไม่ถูก ที่เกิดเป็นเด็กในพานทอง

ที่แม้ตอนนี้ ตอนกลางคืนนอนที่คฤหาสน์เชร์มัวร์ตามสัญญากับคุณวิ แต่ตอนกางลาวันไปพักนอนที่กระท่อมเชร์นัวร์ ที่หล่นคนคิดว่า"ชีวิตหมอนี่มันวิลิส สมาหราเสียจริง..

อันนี้นี่นือส่วนเกิน 
ชาร์กล่าวต่อ
เจนที่คุณพิสูจน์ได้ในสถานปัจจุบัน
บันของผม
และเป็นพ่อหม้ายเนื้อหอมไม่มีลูกติดวงเล็บ"ไม่แต่งงานอีกกับใคร"

และเป็นฮิปปี้แค่สะอาดมีจิตสำนึกชอบเสียงเพลงนอกเช่นของ"แมตต์ มอนโร" และเป่าขลุ่ย เป็นทัศนคติในการทีชีวิคอย๊่ในสังคมและมีทนายความประจำตัวโดยทรัสต์ตั้งให้

และที่สำคัญแต่เป็นต้วเจ้านายคุณซึ่งสวยแบะเซ็กซี่ ขับรถมาทำงาน บางทีนั่่งวินมอร์เ
ตอร์ไซด์และทาปากแดงแบบคนทำงานห้องแอร์ แต่งตัวดีมาทำงานโดยมี สัญญาว่าต้างกับทรัสต์ของคุณวิเมียหลวงผม และมีเงินเดือนปี..หลายคนที่ไม่เข้าใจผม และไม่รู้จักผมเขาอดอิจฉาผมไม่ได้นะ...เท่าที่สังเกต

พอชารฺ์พูดจบ

เจนหัวเราะ

สำหรับเจนเองเขินเหมือนกัน
แต่รับได้ "เพราะนี่มันคฤหาสน์เชมัวร์" และมีเกียรติอันโอ่อ่ามีกำแพง และมีรั้วรอบขอบชิด แม้ขาดยาม และที่สำคัญมีความหลัง

หนูคาดว่าจะเลิกทำค่ะ เจนกล่าวต่อไป
"รอวันชดใข้ค่าเสียหายให้แบบค่าปฏิมากรร มสงคราม แบบที่ญี่ปุ้นและเยรมันฝ่ายอักษะที้แพ้สวครามของสงครามโลกที่2ที่ทำและศาลตัดสินให้ชดใช้ค่าเสียหายต่อฝ่ายสัมพั
นธมิตรในสงครามโลกครั่งที่2 
เจนพักนิดถามชาร์ว่า"คุณว่างฟังรึป่าวค่ะ"
ชาร์พยักหน้าพร้อมกล่าวว่า"เต็มที่ครับ"
เจนกล่าวต่อ
และถ้าวันนั้นมีจริง เธออจะออกจากที่นี่และบอกเลิกสัญญาว่าจ้างการต้องเป็นทาสกับเขมัวร์นั้ไปบ้านนอนพักเฉยๆค่ะ
"เพราะเหนื่อยมามากกับชีวิตค่ะ" ไม่ใข่กลัวงูเห่าแม่เบี้ยที่นี่(ชุมมากที่คฤหาสน์นี้)หรือจะขี้เกียจนะค่ะ "ชาร์อมยิ้มนิดๆเมื่อเจนพูดถึงตอนนี้"
แต่ตะไปบวขชีพราหมณ์อุทิศให้คุณวิและพ่อแม่หนู
หนึ่งเดือน
เพื่อขออโหสิกรรม

กับส่วนพลั้งเผลอที่อาจมีในส่วนเกิน
กับคนทั้งหมดที่ประสบมาในโลกนี้ ด้วยตามวัฒนธรรมพุทธที่จะ"หาทำ"กันได้

"เอาละฉันจะยินดีฟังนะ" 
ชาร์แทรกขึ้น เมื่อคุณเจนเมื่อมีอะไรจะพูด
ผมเปิดคู่สายมือถือให้ครับ24ชั่วโมงคุย และขอบใจที่เราทำงานกันมา 3 ปีกว่านิดๆ
แล้วคุณเจนไม่เคยขาดงานแม้สักวันเดียว"

ต่อมาเมื่อเจนพูดจบฉากนี้(นิยายสงวนย่อความที่เธอเล่าเพราะเกลัวจะเปลืองหน้ากระดาษเขียน)

ชาร์เองก์มีส่วนเกินแบะส่วนขาดเช่นกัน
แต่เบตมือถือเหลือใช้นิดนึวตอนนี้
และเงินเฟ้อจ่ายมั่วนอกประเด็น ไม่มีเลยนิดเดียว
รอเงิรนจ่ายราย5ปีจากทรัสต์
ขอววิ  "ที่ผมติดเบิกเงินเกินบัญชีเสมอตอนนี้กับธนาคาร"

และเปิดบัญชีใช้แบบกีะแสสันไว้ บางครั้งลานเซ็นผมถูกทางธนาคารไม่อนุมัติจ่ายเพราะเขากลัวเช็คผมถูกปลอม

ครับผมใข้ชีวิตบนเสือกระดาษและทำงานแบบหอคอยงาช้างตลอดเวลา

ครับ!ตลอดเวลา เพราะ
ชาร์ใข้เงินเกินเก่ง

"เจนอมยิ้ม"และ

เจนก็เล่าต่อ

มีต่อครบ6000คำ…ครับทุกตอน บันทึกของนิยาย

ชาร์แทรกนิดนึง
เพื่อให้เจนรู้สึกว่าเป็นมิตรรับฟังคสามมนใจของเธอทั้งหมดและไม่ถืออคติต่อขีวิตคนเพราะชาร์ถือว่า " ชีวิตทุกคนคือโรงละครโรงใหญ่"และพูดต่อไปว่า

ชีวิตผมตอนนี้มีปรัชญาว่า"ชีวิตนี้สรรพสิ่งจะสำเร็จลงได้ ก็เพียงแค่ปลายนิ้วสัมผัส ส่วนศัตรูและความผิดหวังคือบทเรียนและความพ่ายแพ้คือยากำลังใจ"ครับ

และชาร์ว่า
อย่าเอาอย่างและตามผมนะ! เพราะแต่ละคนมีช็อต(Shot)ของตนและของตนเองเป็นอัตลักษณ์ของแค่ละคน
คือไม่เหมือนกัน
่ส่วนใครจะตามผมนั้น ผมไม่สงวนลิขสิทธิ์และงดติดตามทวงบุญคุณเพราะเป็นกฎมอรัลเลียขอวคฤหาสน์เชร์มัวร์แห่งนี้ครับ ครับ
ชาร์กล่าวสรุปย่อๆ ห้เจนฟัง แม้จะออกตัวเปิดเผยว่า"ตนเองมิใช่นักปรัชญา"

พบว่า โลกมีสองค่ายๆที่มิใช่การเมืองโดย
ตัวมันเองในมุมมองหนึ่ง คือค่ายหนึ่งนั้นเลวทรามต่ำช้าระยำ ชั่ว ดามุกที่นิยายนี้จัดนิยามอยู่ในค่ายนี้ไม่มีองค์กรแค่มีระบยในตัวมันเอง อีกค่ายหนึ่งดีงาม ยอมรับความจริง ดีเลิศ ตรงกันข้ามกับค่ายหนึ่งอย่างสิ้นเชิงมีองค์กรมีระบบ ยอมรับว่าความดีและความชั่วมนโลกนี้มีอยู่จริง

เราไม่พูดว่า ทุกอย่างมันเกิดดับ อย่าไปพูดมันเลย ใช่อันนี้เป็นวจนะอีนศถกดิ์สิทธิ์ของภิกษุในศาสนาจะพึงกล่าวเพื่อป้อนคำสอน
ตอบแทนข้าวทัพพีหนึ่งที่ตนไม่ได้หามาแต่เกิดจากศรัทธาเพราะรู้จักคำว่าเกิดดับ

แต่ชาร์คิดว่าเรามิใช่ เราไม่สามารถกล่าวจนะเหล่านี้เพราะเรามีใช่สมณะ เราจึงนิยามทางออกอื่นที่เข้าใจได้ดีกว่าที่เราเป็นและฟังเข้าใจได้ในภาษามนุษย์
สิ่งนั้นชาร์กำลังคิดอยู่ ในเบื้องต้นคือนิยายนี้งัยที่เปรียบเหมือนเรือที่ทอดามองบงกลาวทะเลลึกโดยมีปลาและน้ำทะเลเค็มเป็นเพื่อนและประกาศรัยสมัครคนคิดได้คิดเป็นเพื่อมาทำให้คนบบดามุกหมดไปจากโลกนี้เหลือแค่คนที่"มิใช่ดามุก"เผ่าที่นิยามว่าเป็นดีงามเลอเลิศอยู่เท่านั้น

รายละเอียดของความจริงมีอยู่ว่า
ดามุกนั้น ถือปรัชญาว่า
เมื่อมืดมิดจากตาคน"กูคือผู้ยิ่งใหญ่สุด
กูจะทำอะไรก็ได้เป็นเรื่องของกูเช่น ฆ่า ขโมด ปดมดเท็จหลอกลวง"นี่คิอดามุกที่เจนประสบพบมาแต่"เจน"หารู้ไม่ว่า
นั่นคือ"ความอลังการของดามุก "
ที่เจนเองยังอ่อนโลกที่จะรู้ซึ้งและรู้หม
ดในดามุก อย่างที่ชาร์รู้เพราะชาร์เรียนและเสพมาจากคุณวิ มานั่นเอง
แม้จะมีอายุแล้ว และเขืาอว่าเยนยังไี้เดียงสาต่อเรื่องนี้ แม้เจนจะเข้าใจว่ามันเป็นคนชั่วที่คิดชั่วต่อตนมันต้องถูกจับมาโบยและทำโทษ
          ส่วนกลุ่มที่มิใช่ดามุก มีปรัชญาว่า" กูจะจับมันพวกมึงมาฆ่าและประหารชัวิตเสียให้ตาย เมื่อกูพิสูจน์ว่าพวกมึงทำความเลวที่คิดว่ากูไม่รู้ไม่เห็นไม่ติดตาม ให้ตายหมดไป
นี่คือสิ่งที่ ชาร์คิดว่าถูกแน่นอน และคิดว่าสิางนี้มีอยู่ ฉะนั้นเองขาร์จึงไม่ไว้ใจความมืด และแม้ความโง่ของเจน
ตลอดถึงความรักจาก"วิ"แต่ชาร์ก็เคารพคุณวิสุดๆ เพราะวิมีแต่ความดีงามเท่านั้น

ทั้งในเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพ ก็วิตั้งทรัสต์สทิ้งไว้ให้ก่อนเธอตายลง
เพื่ออถทิษพิทักษ์รักษาคฤหาสน์ชาร์มัวร์และตนเองรอดอยู่ต่อไปที่เห็นนี้คือคุณภา
พในความดีงามของวิ ส่วนความดีของวิที่กำลังแสดงอยู่
คือ
ส่วนความดีเขิงปริมาณอื่นนั้นไม่ขอกล่าวถึงมันมากมายนัก ชาร์เว้นที่จะกล่าสเพราะเหนื่อยและหิวและง่วงนอน
เพลีย จดเอาเพียงแค่นี้ก่อน จนกว่า คิดไ
ด้และหายเหนื่อยแล้ว ในเวลาสมบูรณ์จะพูดต่อไปอีกในช็อตอื่นๆ
แต่ชาร์นิยามคุณวิว่า"เธอคือเทพธิดามิเนอน์วาในเวอร์ชั่นของโลกทัศน์ใหม่นี้" เอาไว้ก่อนในกรณีนี้ เพื่อเจนจะได้มีหลักยึด
เมื่อเหงาและเมื่อความฉลาดยังไม่ผลุดกีบเธอ
ถ้าเธอเข้าใจ "เจน" สตรีผู้โชคร้าย และโชคร้ายที่เมื่อเจนเกิดมาได้มารู้ว่ามีดามุกมีอยู่
จริงในโลก ส่วนชาร์ก็โชคดีที่เกิดมาำไม่รู้ว่าดามุกมันมีอยู่จริงและไม่เคยเห็น 
ชาร์คิดว่ามันเป็นนิยายแฟนตาซี

หรือนิยายลูกกวาด แบบลูกกวาดหลอกเด็กอมเล่นเท่านั้น 
แต่อย่างไรเสีย ชาร์ก็จะรับฟังเรื่องนี้จากเจน คือตอนนี้ไม่ว่าถ้าเธอจะเล่าความจริงนี้ที่เกิดขึ้นกับเธอ
และชาร์ก็จะฟัง ความจริงนี้จากเธอ แม้จะเสียงานไปบ้างในทุกกรณีที่ที่เจนมาทำงานที่นี่

เพราะเรื่องนี้วิเคยเม้นต์เรื่อง"ดามุก"ในนิยายที่เขียนทิ้งไว้อย่างเมามันส์และตั้งใ
ห้ดามุกมันเป็นฝ่ายตัวโกงในนิยายที่เธอเขียน

เหมือนกัน ฉะนั้นประเด็น"ดามุก" ซึ่งชาร์เองแบ่งรับแบ่งสู้ที่จะเชื่อว่ามันคือนิยายหรือเ
รื่องจริงอยู่เช่นกัน เมื่อพบเห็นเรื่องดามุกในนิยายที่วิเขียนไว้ก่อนตายซึ่งมิทันจบคือไม่จบและไม่เสร็จอีกด้วย จนชาร์จึงทำตนเป็นของตนเองต้องมาแต่
งเติมให้อีกด้วยเพื่อให้นิยายนี้จะจบเสร็จลง
ดั่งที่ตาคนติดตามเท่าที่เห็น
เพราะนับจากขาึ์เกิดมาเป็นเด็กในพานทองและมีส่วนเกินในสังคม
มาตลอด
เจน
เธอเล่าต่อไป....

"ผมอยากฟังถ้าเธอมีเวลาพอ"

ผมถือว่าทุกชีวิตคือนิยาย

นี่!เพราะผมเกิดมามีส่วนเกินที่เขเาใจ"เจน"ไม่ออกบอกเจนไม่ถูก ที่เกิดเป็นเด็กในพานทอง

ที่แม้ตอนนี้ ตอนกลางคืนนอนที่คฤหาสน์เชร์มัวร์ตามสัญญากับคุณวิ แต่ตอนกางลาวันไปพักนอนที่กระท่อมเชร์นัวร์ ที่หล่นคนคิดว่า"ชีวิตหมอนี่มันวิลิส สมาหราเสียจริง..

อันนี้นี่นือส่วนเกิน 
ชาร์กล่าวต่อ
เจนที่คุณพิสูจน์ได้ในสถานปัจจุบัน
บันของผม
และเป็นพ่อหม้ายเนื้อหอมไม่มีลูกติดวงเล็บ"ไม่แต่งงานอีกกับใคร"

และเป็นฮิปปี้แค่สะอาดมีจิตสำนึกชอบเสียงเพลงนอกเช่นของ"แมตต์ มอนโร" และเป่าขลุ่ย เป็นทัศนคติในการทีชีวิคอย๊่ในสังคมและมีทนายความประจำตัวโดยทรัสต์ตั้งให้

และที่สำคัญแต่เป็นต้วเจ้านายคุณซึ่งสวยแบะเซ็กซี่ ขับรถมาทำงาน บางทีนั่่งวินมอร์เ
ตอร์ไซด์และทาปากแดงแบบคนทำงานห้องแอร์ แต่งตัวดีมาทำงานโดยมี สัญญาว่าต้างกับทรัสต์ของคุณวิเมียหลวงผม และมีเงินเดือนปี..หลายคนที่ไม่เข้าใจผม และไม่รู้จักผมเขาอดอิจฉาผมไม่ได้นะ...เท่าที่สังเกต

พอชารฺ์พูดจบ

เจนหัวเราะ

สำหรับเจนเองเขินเหมือนกัน
แต่รับได้ "เพราะนี่มันคฤหาสน์เชมัวร์" และมีเกียรติอันโอ่อ่ามีกำแพง และมีรั้วรอบขอบชิด แม้ขาดยาม และที่สำคัญมีความหลัง

หนูคาดว่าจะเลิกทำค่ะ เจนกล่าวต่อไป
"รอวันชดใข้ค่าเสียหายให้แบบค่าปฏิมากรร มสงคราม แบบที่ญี่ปุ้นและเยรมันฝ่ายอักษะที้แพ้สวครามของสงครามโลกที่2ที่ทำและศาลตัดสินให้ชดใช้ค่าเสียหายต่อฝ่ายสัมพั
นธมิตรในสงครามโลกครั่งที่2 
เจนพักนิดถามชาร์ว่า"คุณว่างฟังรึป่าวค่ะ"
ชาร์พยักหน้าพร้อมกล่าวว่า"เต็มที่ครับ"
เจนกล่าวต่อ
และถ้าวันนั้นมีจริง เธออจะออกจากที่นี่และบอกเลิกสัญญาว่าจ้างการต้องเป็นทาสกับเขมัวร์นั้ไปบ้านนอนพักเฉยๆค่ะ
"เพราะเหนื่อยมามากกับชีวิตค่ะ" ไม่ใข่กลัวงูเห่าแม่เบี้ยที่นี่(ชุมมากที่คฤหาสน์นี้)หรือจะขี้เกียจนะค่ะ "ชาร์อมยิ้มนิดๆเมื่อเจนพูดถึงตอนนี้"


แต่ตะไปบวขชีพราหมณ์อุทิศให้คุณวิและพ่อแม่หนู
หนึ่งเดือน
เพื่อขออโหสิกรรม

กับส่วนพลั้งเผลอที่อาจมีในส่วนเกิน
กับคนทั้งหมดที่ประสบมาในโลกนี้ ด้วยตามวัฒนธรรมพุทธที่จะ"หาทำ"กันได้

"เอาละฉันจะยินดีฟังนะ" 
ชาร์แทรกขึ้น เมื่อคุณเจนเมื่อมีอะไรจะพูด
ผมเปิดคู่สายมือถือให้ครับ24ชั่วโมงคุย และขอบใจที่เราทำงานกันมา 3 ปีกว่านิดๆ
แล้วคุณเจนไม่เคยขาดงานแม้สักวันเดียว"

ต่อมาเมื่อเจนพูดจบฉากนี้(นิยายสงวนย่อความที่เธอเล่าเพราะเกลัวจะเปลืองหน้ากระดาษเขียน)

ชาร์เองก์มีส่วนเกินและส่วนขาดเช่นกัน
แต่เบตมือถือเหลือใช้นิดนึงตอนนี้
และเงินเฟ้อจ่ายมั่วนอกประเด็น ไม่มีเลยนิดเดียวสำหรัวชาร์
รอเงินจ่ายราย5ปีจากทรัสต์
ขอววิ  "ที่ผมติดเบิกเงินเกินบัญชีเสมอตอนนี้กับธนาคาร" ชาร์สารภาพกับเจน

และเปิดบัญชีใช้แบบกระแสรายวันไว้ 
บางครั้งลานเซ็นผมถูกทางธนาคารไม่อนุมัติจ่ายเพราะเขากลัวเช็คผมถูกปลอม 
ขึ้น เจนคงทราบดีเหมือน ตอนผมทำเช็คใบหนึ่งให้เธอเมื่อปีกลายและ"เด้ง"กลับมาเพราะลายเซ็นของผมธนาคารบอกว่ามีพิรุธนั้นงัย "ชาร์กล่าวใน
ที่สุดเพื่อยืนยัน

ครับผมใข้ชีวิตบนเสือกระดาษและทำงานแบบหอคอยงาช้างตลอดเวลา เจน

ครับ!ตลอดเวลา เพราะ
ชาร์ใข้เงินเกินเก่ง

"เจนอมยิ้ม"และต่อมา

 
11

11.โลกใบใหม่ของผีเสื้อสมิง

(ผีเสื้อสมิงในนิยายนี้หมายถึงผีเสื้อตัวใหญ่เกาะในผนังถ้ำ

นานมากมีตาใหญ่ บนปีกมัน ดูหน้ากลัวสีน้ำตาลปนดำ

ขาร์เคยเห็นมันบนถ้ำบนภูเขา โดยบังเอิญ หลายคนบบอกว่ามันคื

อผี ชาร์กลัวและพองขนเมื่อพบมัน เกิดในขณะชาร์ไปผจญภัยรอบโลก

จึงนำมาแปะเป็นหัวข้อตอนนี้ ให้เป็นส่วนหนึ่ง

ของนิยาย ที่นิยามไว้เพราะป้องกันครหาว่า

งานเขียนไม่ตรงหัวข้อที่เป็นข้อเืีสบเคียงของเรื่อวราวนิยาย

นี้


ตอนที่11

11.โลกใบใหม่ของผีเสื้อสมิง

 

11227

           บทบรรณาธิการ(บก) พบว่านกเเสกและนกแซงแซวไม่เหมือนกันหรือตามท้องถิ่นเรียกขาน
           แต่ชาร์พบในหลักฐานเชิงประจักษ์แล้วว่านกแซงแซวร้องมีเสียงเหมือนชื่อมันมีกลายพันธ์บ้างเพราะอสหารและสิ่งแวดล้อมและอื่นๆอีก 
          ส่วนนกแสกหน้าเหมือนผีชนิดตัวขาว ชาร์ตอนเป็นเด็กนอนหลับอยู่คนเดียวตอนดึกฝนตก มันบินเข้ามาทางหน้าต่างที่เปิดไว้รับลม ชาร์เห็นเหมือนผี นึกกลัวแต่เห็นว่ามันสีขาวจึงจับมันไส่มุ้งไว้เผื่อเเลี้ยง
แต่มันแข็งแรงมาก เล็บคม ดิ้นไวและปากคม นกนี้ถือว่ามาแจ้งลางร้ายว่าจะมีคนตาย ปีต่อมาพ่อและแม่ของขาร์ตายลงจริง
ตายก่อนอายุขัย


จึงหลุดมือหนีไป ทางหน้าต่างอีก
ตอนนั้นฝนตกลมแรง

ในชีวิตชาร์ ขณะใช้ชีวิตเป็นเจ้าชายโรบินฮู้พบเหตุการณ์นี้สองครั้ง

แต่มีในนิยายตอนหนึ่งกล่าวไว้สับส
นและกำกวมว่า ผีจากนกแซงแซวที่จริงคือนกแสก และนกกาผี (นกกาผี(มีชื่ออื่นอีก)นกนี้มีปีกสีดำสีน้ำตาลเป็นปีกชอบป่าช้า  
เพื่อเข้าใจตรงกัน จึงขอแก้ไขเพราะรวบรัดเชิงลึกเกินไปในงานวรรณกรรม เพื่อป้องกันการเข้าใจผิดจึงแจ้งให้ทราบ ถ้าพบในนิยายนี้(ตอนนี้ให้เข้าใจาสภาพมันไปก่อน ถ้าสะดวกจะถ่ายรูปมาให้ดู) พอดีเครื่องคอมพิวเตอร์ชนิดตรวจทันทีขัดข้องจึงประกาศมาเะื่อทราบ

 

แก้มาแบบทางนี้และความสับสนที่เกิดนี้เป็นส่วนหนึ่งให้ถือเป็นส่วนหนึ่งของนิยายนี้ด้วย


เพราะหนังสือยนี้มี10000หน้าขึ้นไปและใช้เป็นนิยายขนาดยาว ดังที่กล่าวไว้ไม่ยาวเกินกว่าเรื่อง"เพขรพระอุมา"ของพนมเทียนก็แล้วกัน
และนิยายนี้
มีบทแก้ บทสรุป บทเพิ่มเติมเข้าด้วย
เพราะบางตอนยังก%E

12.ดอกไม้สีดำถูกนำมาจัดไว้ที่แจกันใหม่


 


ตอนที่12


12.ดอกไม้สีดำถูกนำมาจัดไว้ที่แจกันใหม่

 

 

 

Beyond(ข้างๆคูๆ)

งานเขียนที่ชาร์เรียนจบมาจากลอนดอน
แม้มันจะเป็น โรงเรียนโรบินฮู้ดแต่คนนิยมเรียน เพราะธรรมขาติของนักเขียน นัก นสพ. โดยเดิมแล้วมาจากรากหญ้ามันอย่างงั้น ไม่มีถาบันหรือมหาลัยสอนมาก่อน มันจึงเป็นดอกไม้ประดิษฐ์สีดำ ที่ถูกปักในแจกันใหม่นั้นเอง

 

 

 


เพราะเป็นหนทางเลือกของคนมีหัวคิดดี แต่ไม่มีโอกาส
แต่มีความสามารถแบบสุดมี แต่ไม่มีเวลา
เข้าเรียนเหมือนเพื่อนที่มหาวิทยาลัยหรือถาบัน หรือเกิดมาจน

โ่รงเรียนครถนัดวิขาหนังสือพิมพ์นี้จึงยืนหยัดผลิตคนในแนวนี้ ขึ้นมานับแต่ยุคLord Northที่เป็น ขุนนาง นักนสพ.ของชาว

อังกฤษเฉกเช่น

 

ชาร์แห่งชาร์มัวร์นี่งัย" เอาเสียหน่อย เดี๋ยวจะหาว่าไม่เท่ห์" นี่เช่นกันเพราะไม่มีเวลาเข้าอ็อกร์ฟอรด์
แต่มีเวลาสำหรับงานหาเงินเพื่อแลกกับฟินเพื่อปรุงเข้าต้มรสเก้าเหลี่ยมเทสต์(รสสุดยอดตามตำรับตนเอง)

เพราะ ทรัพยากรเวลาและสถานะมันกีดกัน
ท้ส
ายสุด ก็มาจอดทอดสมอยึดเอาการกอลโกยเอาใบมะข้ามป้อมใส่ถุงส่งขายเพื่อตีตลาดโลกให้ได้

และยึด
เป็นทางเลือกใหม่นี้ไปตลอด ชีวิตของการเรียนของฌโรงเรียนนักเขียนแบบนี้ที่ลอนดอนมาได้ใบรับรองเป็นดิโปลมาด้วย
เผื่อสงครามโลกที่3มาจะได้เทียบวุฒิเป็นจ่านายสิบกับเขาก็ยังดี ดีกว่า
ใบสุทธิ ป.4โล้นๆ ที่ใบสีทธิตัวนี้ด้ามปืนที่แบกยังไม่กลัวคำสั่งเลย
โอเค!ผ่านไป


แต่กระนั้นพระเจ้าท่านไม่ทิ้งคนึิดมากคิดไวอังกฤษเขาเปิดมหาวิทยาลัยเปิดเรียนทาง
โทรทัศน์ได้ แม้ที่อังกฤษจะดูโทรทัศน์ก็ต้องมีใบอนุญาตคือlicenceอีกด้วย มหาวิทยาลัยอย่างว่าก็เหมือนมหาวิทยาลัยรามคำแหงไทยนี่ละ

 

 


ต่อมา
จากปรัชญาว่า"จับปลาหลายมือไม่ดี
แต่ถ้ามีมือจับก็จับไว้บ้างก็ไม่เห็นเสียหาย
ยรงไหนนี่เป็นปรัชญาของชาร์

เพราะชาร์ถือว่า ""เราเป็นเด็เกิดใน
พาตทอง พอโตขึ้นหัดมานอนที่พานสังกะสีก็ได้ จึงเอาทุกอย่างที่เห็นว่าดีและชอบ


ต่อไป

งานวาด
ชาร์วาดความหลังแห่งรัก ดอกไม้แห้งและน้ำใส นอกนั้นเป็นนามธรรมแห่งความขุ่นทัวที่คิดแล้วจะดีและจะพบความบริสุทธ์อันบริสุทธิ์
เหมือนดุจน้ำฝนเปียกตกกรดทบหน้าปัดรถยนต์ที่กำลังแล่นไปตามถนนเล็กแคบๆขณะมีสายลมแรงและฝนหนัก

 


จริงๆอยู่มันก็ยังมีทางออกอีก
แต่ว่า

มันก็หนีไม่พ้นปรัชญา"ซังข้าวแห้ง"(ตามสภาพคำ ตีความไปเลย)แห่งความจริงไปได้แน่นอน "the history of the real and the exact truth ก็บรรเจิดขึ้นอีก

ก็


ชาร์ตอบว่า"ชีวิตในความสมจริง
อะไรจะเกิดก็ให้มันเกิด"

 

 ตอน12

 คลื่น


12.ดอกไม้สีดำถูกนำมาจัดไว้ที่แจกันใหม่


 


ตอนที่12


12.ดอกไม้สีดำถูกนำมาจัดไว้ที่แจกันใหม่

 

 

 

Beyond(ข้างๆคูๆ)

งานเขียนที่ชาร์เรียนจบมาจากลอนดอน
แม้มันจะเป็น โรงเรียนโรบินฮู้ดแต่คนนิยมเรียน เพราะธรรมขาติของนักเขียน นัก นสพ. โดยเดิมแล้วมาจากรากหญ้ามันอย่างงั้น ไม่มีถาบันหรือมหาลัยสอนมาก่อน มันจึงเป็นดอกไม้ประดิษฐ์สีดำ ที่ถูกปักในแจกันใหม่นั้นเอง

 

 

 


เพราะเป็นหนทางเลือกของคนมีหัวคิดดี แต่ไม่มีโอกาส
แต่มีความสามารถแบบสุดมี แต่ไม่มีเวลา
เข้าเรียนเหมือนเพื่อนที่มหาวิทยาลัยหรือถาบัน หรือเกิดมาจน

โ่รงเรียนครถนัดวิขาหนังสือพิมพ์นี้จึงยืนหยัดผลิตคนในแนวนี้ ขึ้นมานับแต่ยุคLord Northที่เป็น ขุนนาง นักนสพ.ของชาว

อังกฤษเฉกเช่น

 

ชาร์แห่งชาร์มัวร์นี่งัย" เอาเสียหน่อย เดี๋ยวจะหาว่าไม่เท่ห์" นี่เช่นกันเพราะไม่มีเวลาเข้าอ็อกร์ฟอรด์
แต่มีเวลาสำหรับงานหาเงินเพื่อแลกกับฟินเพื่อปรุงเข้าต้มรสเก้าเหลี่ยมเทสต์(รสสุดยอดตามตำรับตนเอง)

เพราะ ทรัพยากรเวลาและสถานะมันกีดกัน
ท้ส
ายสุด ก็มาจอดทอดสมอยึดเอาการกอลโกยเอาใบมะข้ามป้อมใส่ถุงส่งขายเพื่อตีตลาดโลกให้ได้

และยึด
เป็นทางเลือกใหม่นี้ไปตลอด ชีวิตของการเรียนของฌโรงเรียนนักเขียนแบบนี้ที่ลอนดอนมาได้ใบรับรองเป็นดิโปลมาด้วย
เผื่อสงครามโลกที่3มาจะได้เทียบวุฒิเป็นจ่านายสิบกับเขาก็ยังดี ดีกว่า
ใบสุทธิ ป.4โล้นๆ ที่ใบสีทธิตัวนี้ด้ามปืนที่แบกยังไม่กลัวคำสั่งเลย
โอเค!ผ่านไป


แต่กระนั้นพระเจ้าท่านไม่ทิ้งคนึิดมากคิดไวอังกฤษเขาเปิดมหาวิทยาลัยเปิดเรียนทาง
โทรทัศน์ได้ แม้ที่อังกฤษจะดูโทรทัศน์ก็ต้องมีใบอนุญาตคือlicenceอีกด้วย มหาวิทยาลัยอย่างว่าก็เหมือนมหาวิทยาลัยรามคำแหงไทยนี่ละ

 

 


ต่อมา
จากปรัชญาว่า"จับปลาหลายมือไม่ดี
แต่ถ้ามีมือจับก็จับไว้บ้างก็ไม่เห็นเสียหาย
ยรงไหนนี่เป็นปรัชญาของชาร์

เพราะชาร์ถือว่า ""เราเป็นเด็เกิดใน
พาตทอง พอโตขึ้นหัดมานอนที่พานสังกะสีก็ได้ จึงเอาทุกอย่างที่เห็นว่าดีและชอบ


ต่อไป

งานวาด
ชาร์วาดความหลังแห่งรัก ดอกไม้แห้งและน้ำใส นอกนั้นเป็นนามธรรมแห่งความขุ่นทัวที่คิดแล้วจะดีและจะพบความบริสุทธ์อันบริสุทธิ์
เหมือนดุจน้ำฝนเปียกตกกรดทบหน้าปัดรถยนต์ที่กำลังแล่นไปตามถนนเล็กแคบๆขณะมีสายลมแรงและฝนหนัก

 


จริงๆอยู่มันก็ยังมีทางออกอีก
แต่ว่า

มันก็หนีไม่พ้นปรัชญา"ซังข้าวแห้ง"(ตามสภาพคำ ตีความไปเลย)แห่งความจริงไปได้แน่นอน "the history of the real and the exact truth ก็บรรเจิดขึ้นอีก

ก็


ชาร์ตอบว่า"ชีวิตในความสมจริง
อะไรจะเกิดก็ให้มันเกิด"

 

 

 ตอนที่14


14.เทพอสูรกลับขีวิตมานับหนึ่งใหม่บนแผ่นดินสีทอง

 

        มีเบาะแสที่"ชาร์"ทราบจาก"เจน"ว่า: "ดามุก"เขาใช้มด เห็บ สัตว์ตัวเล็กมีพิ
ษ หรือไม่ก็ยุง  และงูหลากชนิด งูเขียวหางไม้ งูเห่าดอกจันที่คนอินเดียชอบพามาเล่นมายากล พวกนี้นิยมพิเศษในการแกล้งค
นให้เจ็บปวดและเจ็บใจ ตัดวงจรคนคิดเป็นคนมีมอรัลเลีย แน่นอนพิษนี้ร้ายกว่าไวรัส แคนเซ่อร์มะเร็ง และพิษทาวการเมืองเสียอีก
       อันนี้มันคืออาชีพองเขา "เจนเล่า" สิ่งเล็กๆน้อยเหล่านี้
มันมีพลังมหาศาลที่จะ"ทำลายชีวิตคนให้ตายอย่างเลือดเย็นและไม่
มีหลักฐาน "นี่คือประเด็น"ที่ชาร์เริ่มสนใจสิ่งที่ดามุกและอิทธิพลที่เจนเล่า

ยกตัวอย่างง่ายๆชาร์ปรารภกับเจนในเย็นวันหนึ่งว่า:

ถ้าเธอขับมอร์เตอร์ไซด์ไป จอดทิ้งไว้ที่พลาดสายตาคน ถ้ามีคนเจตนามุ่งร้ายเธอ เอาตาปูหรือสะเก็ดอะไรสักอย่างแอบไปทำให้รถของเธอยางรั่ว เธอมารู้เมื่อขับไปท่อน
ทางแล้ว"รถเกิดยางรั่วระเบิด"กลางป่าเปลี่ยวบนเส้นทางจุดหมาย ในสถานการณ์เช่น
นี้"เธอจะทำอย่างไร เจนเงียบ ไม่ตอบพร้อมอมยิ้มนิดๆ
 

ชาร์จึงคิดในใจว่า " ยังมีอีกหลายกระบวนการที่ดามุกจะแกล้งให้เราเจ็บและ
ตายและลำบากและประสบหายนะในชีวิตประจำวันอีกมากมายนักมันเป็นวิธีการแบบเพอมิว
น์(permutation)คณิตเลยทีเดียว

ชาร์หยุดคิดทุกเรื่องทั้งหมด และทิ้งเจนไว้
กับงานที่ถูกมอบหมาย

แล้วเดินไปเก็บดอกไม้(ดอกพิกุล)ร่วงหล่นที่ใต้ต้นหนึ่งประมาณกำมือพยายามเอื้อมมือเก็บอย่างช้าๆทีละดอกเอาเฉพาะดอกสด พิกุลต้นนี้ดอกงาม

แล้วชาร์เดินขึ้นคฤหาสน์ ก่อนจะกลับไปที่กระท่อมหลังจากวางดอกพิดกีลไว้บนหิ้งหน้าภาพของคุณวิ ต่อมา

ชาร์คิดย้อนแย้งว่า
ความจริเปลี่ยนไปเมื่อโลกเปลี่ยนไปและแปรเปลี่ยนไป แต่เนื้อแท้มันยังคงอยู่ และแต่ชาร์คิดต่อไปว่า
    "ชีวิตนั้นแท้ที่จริงตอนนี้ไม่ต้องสู้ให้เมื่อยมือ ไม่ต้องดิ้นจนกางเกงในและผ้าที่นุ่งจน
แทบหลุด และใช้แรงมีดเพื่อถากถาง 
เพียงนั่งๆ นอนๆ และแหงนดูเดือนกับดาวบนท้องฟ้าไปวัยๆหนึ่ง และนั่งหาวนอนหาวต่อไป เราก็ได้งานแล้วยุคสมัยนี้

เอาอย่างไรก็ได้ ทุกชนิดบอกว่าเรื่องการสู้เพื่อชีวิต  ขอไม่เบื่อก็พอแล้ว
 

ศัตรูรึก็ไม่มีเพราะเดี๋ยวนี้ศัตรูไม่มีเวลาแม้จะหายใจ แล้ว

ความสำเร็จในขีวิตรึเดี๋ยวนี้
เพียงปลายนิ้วสัมผัสแอนโดรอิดเทคโน
(Android techno)เป็นเท่านั้น  ฝึกเรียนรู้ง่ายเพราะมันสนุกและเพลิน

ทุกอย่างพลันได้มันเพียงคิดนึก "พูดได้สิคนอย่างชาร์เกิดมาพร้อมส่วนเกินนิ "ชาร์ป้อนความคิดและถามตนเองด้วยแบบวิเคราะหให้ตัวเอง " กล่าวต่อไป

"คนทุกๆคนตอนนี้ เกิดมาล้วนมีส้วนเกินกันทุกคน เว้นแต่ว่า
มีมากหรือน้อยกว่ากันเท่านั้น "แต่โดยมาก
ทรยศ
ต่อส่วนเกินของตนเองหรือเปล่าเท่านั้นเอง
หรือว่าเขาได้ใช้มันหรือไม่

เช่นทันทีที่เกดมามีสองมือ มีพ่อแม่นี่งัยส่วนเกินของทุกคน

ใช่สิ!  "แต่ชาร์มีคฤหาสน์ มีกระท่อม มีทางเลือกมากมายเป็นส่วนเกินก็พูดได้นะ"

ทุกคนก็มีแต่ไม่เลือกเอาเอง นะ!
 ไม่มีใครผลุดรวยขึ้นมาทันทีเองได้หรอก!
"ชาร์กล่าวในที่สุด"
 

เพราะมิใช่มือสองมือทำดอกหรือ มี หัวใช้คิด
ที่พ่อแม่ให้มา ไม่มี นิ ทุกคนมีสิ่งนี้

ชาร์มีส่วนเกินจริงเหมือนๆกันกับทุกคน
แต่ชาร์กำพร้าพ่อแม่แต่เด็กๆ

ต่อไป

แม้แต่คนมีโชคยังต้องใช้แรง แรงอะไร คือแรงในการรับโชคงัย
"งง" วาทกรรมทางความคิดของชาร์แบบนี้
 

ก็ในเมื่อคนเรามีส่วนเกินแล้วมีปัญหา การไม่มีส่วนเกินนั้นจะดีกว่านะ "ชาร์สรุป"
เหมือนมีรถแต่แบกหนี้และหนักใจ ก็ไม่่มีมั
นคือรถนี่จะดีกว่า "คิดแบบง่ายๆแบบนี้ได้ดีที่สุด"

เพราะคำถามทุกคำถามมีคำตอบก็ได้ไม่มี
ก็ได้แล้วแต่มุมมองของคนนะ
สรุปโลกมีภาวะ

"เป็นปกติ"
 

ถ้าขืนพูดต่อไป มันก็เป็นการเสวนาแบบงูย้อนหางกินตัวเอง คือไม่จบสิ้น
" เอาถ้ามีใครไม่เชื่อลองเสวนาต่อไป"
ถ้าไม่เจอมวยต่อยปากกันเสียก่อนแน่นอน"

เพราะอะไรรี!
 

คำตอบมีว่า "เพราะวงกลมของสรรพสิ่งงัย
มันเวียนแลัววกวนไปมา ผลสุดท้ายกลับที่เดิม
เหมือนว่า คนเรามาจากดินแลัก็กลับไปเปฺ็นดินงัย
เอ้ !งัยไม่เข้าใจ

ก็คนมีธาตุ4ธาตุดินคือตัวหนึ่งที่มองเห็นจั
บต้องได้ คงกระพันกว่าธาตุอื่น แลัวคนเราเมื่อมีเกิดแล้วก็มีตาย พอตายเขาก็พาไป
ฝังดิน

พอนานปีเข้าศพคนที่ตายมันจะสลายเป็นเม็ดดินตามเดิมให้มนุษยชาติรุ่นหลังนำดินนั่นแหละปลูกผักกินได้ตามเดิมงัย
"จบ"

จึงมีคำถามต่อไปว่า แล้วทำไมคนเราเกิดมารวยกับจนไม่เหมือนกัน ไม่เท่ากัน
อันนี้ขาร์ตอบว่า"ไม่รู้สิ"ไปถามนักบุญผู้สอนเรื่องกฎแห่งกรรมดูซิ"


 

แล้วชาร์ย้อนถามตนเองว่า แล้วตอนนี้ชาร์มีขีวิตอยู่ภาคภูมิใจด้วยกฎอะไร
ตอบว่า ด้วยกฎแห่งการมีหน้าที่แห่งการเป็นมนุษย์
มีความรับผิดชอบ และการมีหน้าที่ และสุดท้าย มีมอรัลเลีย(morallia)เป็นจุดสุดท้ายสุดชนิด"อันติเมตัม (อันติมะ)งัย(ultimatum)
ถามว่า

ชาร์มีศาสนารึเปล่า?
ตอบว่า
"มีซิ"
ก็ค่านิยมในสังคมงัย !แต่มีค่านิยมที่แปลกไปอีกด้วย  ชาร์ตอบว่า "ก็มันเรื่องของเขา"
ที่ขาร์คัดสินใจมีศาสนา ก็
"สังคมงัย !ประเพณีวิถีประชางัย" มีจิตใจมั่นยึดอะไรสักอยางเป็นหลักงัย!

แล้วงัยต่อไป
ไม่มีอะไรต่อ
ก็
"นอนงัย"
ตื่นมาหิวก็กินงัย
แล้วนอนต่อ
"นอนจนเหนื่อย"
แล้วงัย! แล้วมันก็ไม่อยากนอนเอง
"คนเรานะ"

เมื่อเหนื่อยจากการนอนและนอนมากมากๆเข้า"มัน"ร่างกายมันก็คิดได้เองว่าต้องทำงานอะไรสักอย่าง"งัย"
สมมุติว่า:
คนแต่งงานแล้ว
ต้องการมีลูก
ก็ต้องทำงานคือทำให้มีลูก
"อันนี้ก็เป็นงานชนิดหนึ่งงัย"
" ทำลูก"
"แล้วงัยต่อ" ก้อ ต้องถามผู้หญิง
ผู้หญิงจะให้คำตอบดีที่สุดเรื่อง
นี้ เพราะเป็นเรื่องที่เธอต้องใช้เลือดและไส้ของเธอมาพูดใหโลกฟังได้ถนัดกว่า

แต่ผู้ชายไม่มีเลือดและไส้ตัวทำทำให้ทารกเกิดเหมือนสตรีได้ แต่ท้ายสุดสรุแ"เธอก็ทำงานแล้วละ" งานของผู้หญิง

เช่นงานมีการ
อุ้มท้อง งานคลอดเด็กงัย "นี่ก็งานนะ"

ใช่!สรรพสิ่งเกิดขึ้นและดับจบลงด้วยสรรพสิ่ง

ดูมันฟังยากขึ้น "แต่ก็มีเท่านี้นะตัวเอง"
แล้วมันเกิดงานขึ้นมาแล้วกันโดยสรุป

และท้ายสุดก็ไม่พ้นเรื่องกินกับเรื่องนอน
นี้เท่านั้นละสำหรับคนวันๆหนึ่ง! เพื่อนเอ๋ย! เมื่อเรามีชีวิตรอดอยู่ เหมือนเมื่อเกิดแล้วจบลงด้วยการตาย
ก็เท่านั้นเอง
"เรื่องของคน"

 

พระจันทร์ส่องแสงสะท้อนความสุขและความเย็นยะเยือกจนตนเอง(ชาร์)ยังสัมผัสได้
อาหารมื้อนี้ปรุงเมื่อตอนดึกสงัดขนิดไม่หนวกหูใคร
เป็น
แกงส้มสำหรับคนลี้ภัยในมนุษยโลก (ชาร์คิด)เกิดขึ้น
        ปลาอะไรไม่รู้ ขาร์ถามแม่ค้าเธอบอกชื่อแต'ชาร์จำไม่ได้แต่ตัวมัาสวย ขาร์อยากกิน ราคาแพงมาก ถ้าเป็นร้านอาหารขั้นเยี่ยมหลังปรุงเสร็จจานนี้อย่างต่ำห้าร้อย
ถึงพันบาท
        ราคาปลาซื้อมาตัวละ 80 บาทเหตุผลที่ซื้อไม่ใช่ว่าขาร์คงรวย แค่ตัวมันสวยและอยากเอากินจึงพา

มาเก็บไว้ตู้แช่แข็งสามวัน 
นำมาแกงส้มกับผักกูด (ผักมีหนามแหล
มคมใบหยักๆ หาซื้อยาก ชื่อนี้เป็นชื่อเฉพาะแต่ละถิ่นเรียกไม่เหมือนกัน)
      ส่วนผสมแกงส้มที่ชาร์ทำชาร์ใช้เครื่องแกงที่มีขมิ้นมาก กะปิ น้ำปลา น้ำตาล ผง
ชูรส ครึ่งชั่งโมงสุกกินได้
ด้วยฝือมือเชฟ(พ่อครัว)จำเป็นคือชาร์มี มะขามเปียกซื้อมาแล้วไม่รู้วางไว้ทั้ไหน
แต่มื้อนี้เเสร็จลง (กินได้)เจ้าของก้างปล
าติดเนื้อมากมายคน(ตัวชอย)ชอบมากแม้ไม่หิวคือหิมะและมิเมย์ ชอบม้ากๆแม้ก้าง
มัน(ทุกปลาแมวชอบหมด)

นึกสงสาร อยากให้มันกินทั้งตัวเลย แต่ชาร์คิดว่าอาหารเม็ดดีกว่า
สะดวกปลอดภัย ง่าย และสบายอารมณ์
ไทฝม่ใืนความรู้สึก แบะหิมะกับมิเมย์ก็สุดชอบอาหารชนิดเม็ด

เมื่ออิ่มเสร็จน้ำชาจีน 3 จอก ต่อมานอนเอนหลังจนหลับสนิทชนิดใครปลุกจะขี้เกียจ
ขาน

      อสูรแปลว่มาเป็นมนุษย์พิเศษในที่นี้
ทำไร่ทำนาเหมือนคนสายที่ คิดตั้งตัวให้ตัวเองดูเพื่อพิสูจน์ให้ได้ว่า "มนุษย์ทำอะไรก็ได้"

      และทำให้ได้ความคิดว่า รสชาติแห่งความเป็นมนุษย์มันเหมือนอะไร
เมื่อเป็นอสูรที่มีแต่ใครทำใหกิน ทาสบริวารล้นเหลือ" อสูรอสุนีบาตพลั้งพูดออกมา"

ครัวนี้ของอสูรมีหมา5ตัวคอยรับใช้ มีเมี
ยเป็นนางอสูร แต่เมียขาหักเดินไม่รอด
พิการตลอดชีวิต เพราะเกวียนควายะลา
กวิ่งเหนือการบังคับ ควายวิ่งพสเกวียนที่มันเทียมจนล้อหลุดและควายวิ่งแรงเร็ว มันพาสัมภาระไปได้เป็นตัน ขณะเทียมเกวียน
ผ่าข้างทางรถไฟ และ เพราะควายตกกระใจจากเสียงรถไฟหวูดแรงเกิน ตอนผ่านทางที่ราวสะพานดินเกวียน
ที่เทียมความของนางอสูรผ่าน
ทางรถไฟสายนั้นตอนนีเขาปรับทางใหม่เป็นทางคู่ขนานต่อไปทางรถไฟสายนี้รองรับรถไฟวิ่งเร็วกว่าเสียงได้ เปลี่ยนไปหมดแล้ว "นี่มัน50ปีย้อนหลัง"ที่กล่าวมา
 

อสูรตนนี้รักเมียและมีรักเดียวใจเดียว ไม่
มีลูก เลยรับลิงเป็นลูกแทน 
ลิงมันเหมือนมนุษย์อสูรอสุนีบาตกล่าว

      ชาร์เองเมื่อมาอยู่ที่กระท่อมก็เปรียบตนเองเหมือนอสูรที่แปลงร่างมาเป็นมนุษย์ตนนั้นเหมือนกัน

ชาร์คิดว่า  การมาใข้ชีวิตที่กระท่อมในกลางวันนั่นเป็นการเสียสบะอันสูงสุดแล้ว หลายคนอาจมองชาร์ว่า เป็นการหาควาสุขใส่ต้วชนิดคนที่มีทางเลือกที่มีมากเกินสำหรับคนที่มีส่วนเกิน อย่างขาร์ ในมุมมองของดามุก "อันนี้ชาร์คิดเอง"
 

      จากอนุสนธิของนิยายเรื่องนี้ทวนนิดเพราะเรื่องยาว คุณวิเมียชาร์เขียนไว้เป็นวิทยานืพนธ์เชิงนิยายก่อนเธอตายลง ชาร์มาสานต่อตรวจแก้เพื่อพิมพ์เผยแพร่และเกิดใ่ช่วงที่โควิด-19กำลังระบาด หนัก(2564)เรื่องโึควิดชาร์ขอตัดเป็นสงครามมระหว่างมนุษยชาติกับโรคไวรัส มันเป็นสวครามโลกแบบธรรมชาติ คู่ครามคือมนุษย์กับเชื้อโรคร้ายไวรัสโควิด !
น่ากลัวมาก  ชาร์มีทัศนะอย่างนี้ คือชาร์
มีฐานะที่สวมวิญญาณเป็นพระเอกของเรื่อง
นิยายในเรื่องนี้มาถึงอันดับนี้ที่ยาวมาก  ชาร์ไม่เน้นเรีนกผู้อ่าน และเน้นความสำเร็จในการเขียน แต่ชาร์เน้นทางเลือกใหม่ของคนอ่านที่สนใจแบบการนำเสนอคือคนในรูปแบบนา มธรรมศิลปะ์ เพราะยึดเอาลีลา
อาขีพนักวาดมามีการเขียนของชาร์ คือชาร์เดิมเป็นศิลปินเชิงนามธรรม(Abstract artist)ชาร์นิยามศิลปินชนิดนี้คือ"สภาวะเหนือจริงกำลังสอง"ด้วย รอยสะบัดและสาดซัดสีจากสีหลากหลายที่ศิลปินเลือกทำทำด้วยภู่กัน
ไป    อย่างมีเป้าหมาย  สื่อความคืดและจินตนาการให้ผู้รักศิลปะด้านนี้ตีความเอาเองจึงกลายเป็นภาพศิลปะนามธรรม นี่คื
อศิลป์ทัศนะของชาร์

6408


 

 





 

 

คนจะพลอดรักกัน กอดกัน

ชาร์ไม่ชอบให้ใครมาแอบมอง 

คนมาขอเหล้ากินฟรีไม่มีแรงงานตอบแทน

 ชาร์ถือว่าเป็นคนขาด"มอรัลเลีย"


 

16. นวนิยายเชร์นัวร์(8506)


ตอนที่16

ชาร์ให้ชื่อตอนนี้ว่า"แอบมอง"

    เชนัวร์เป็นทั้ง บทกวี บทนิพนธ์ นวนิยาย
บทเพลงและอะไรทั้งหมดที่ทำหมดที่ทำ"ให้สบายใจ"


          นโยบายแอบมองของชาร์มีดังนี้ เจนก็คงรู้
เพราะเจนเป็นปัญญาชน และตัดสินใจมาทำงานตามสัญญาว่าจ้างที่คฤหาสน์ก็เพราะว่าเห็นว่าเจ้านายเป็นคนมีมรรยาทและแ
น่นอนการริดรอนและการละเมิดทางเพศจะไม่มีขึ้นที่เจนคนประสบภัยดามุกมามากแต่เก็บความไว้ในมจ "ไม่เคยพูดเปิดเผยให้ใครรู้แต่บอกกับชาร์"" ถ้าหากมีอะไรเกิดขึ้น ก็ต้องมีการรับผิดชอบตามมาเป็นมั่นเหมาะ "มิใช่คว้าน้ำเหลว" นี่คือสิ่งทั่เจนคิดอยู่ในใจเสมอ และไว้ใจชาร์ แม้บางครั้งเจนจะปล่อยตัวเกินไป เ
ช่น บางครั้ง "นุ่งผ้าหลุดลุ่ย วอบๆแวมๆขณ
ะทำงานที่คฤหาสน์ตลอดเวลาทำงาน4ปีผ่านไป แต่ชาร์ไม่ตำหนิ และชาร์กฌไม่ติดใจวะตถุทสงเพศเมื่อมีเหตุส่ออาการบัดสีบัดเถลิงเกิดขึ้น และเจนเองก็ไม่เจตนา เพราะเธอมีภารกิจมาก จนทำงานลืมไว้เนื้อไว้ตัว และที่คฤหาสน์ก็เป็นเขตลับปกปิดและหวงห้ามสำหรับบุคคลภายนอก"
และ
เพราะเห็นว่ามีชาร์เป็นเจ้านายดีมีคุณธรรมและมีมอรัลเลีย

    "คนจะรักกัน ชาร์ไม่ชอบให้ใครมาแอบมอง คนมาขอเหล้ากินฟรีไม่มีแรงงานตอบแทนชาร์ถือว่าเป็นคนขาดมอรัลเลีย"


      มาที่ทัศนคติของชาร์ต่อ ข่าวเด่นของโลกที่มีดาวเด่นของโลกเกิดขึ้นในโลกอีกหนึ่งดวง เธอเป็นมนุษย์
รู้จักกันในนามว่า"ลิซ่า" นี้คือความเห็นของชาร์

        

 

ใน

Instagrame lalalalisa_m" LISA " มีคนชมถึง 65,000.000 ล้านคนขึ้นไป

เธอเป็นชาวเอเซียไทยแต่มีชื่อติดตามเป็นฝรั่ง

 ใช่!เธอแต่งตัวเป็น แต่งตัวเก่ง

 

อะไรอะรัยของเธอดีไปหมด ชาร์พระเอกของเรื่อง “เชร์นัวร์”ขออนุญาตขม และว้าวให้

สุดๆเลย

 

 

views. 65.1M ณ วันที่  02.11.64 เวลา 10.00น.

 Lalalisa_m in Instagram

         Lalalisa_m in Instagram

         Lalalisa_m in Instagram

         Lalalisa_m in Instagram

ในอินสตากราม เธอดังก้องโลกชั่ววินาทีจากขีดวัดด้วยสื่อมีเดียยักษ์ใหญ่ตัวนี้ตัวหนึ่ง

       ชาร์รู้มาจากเจน และเปิดดูพบว่าลิซ่าปรากฎการณ์นี้ มันอลังการ "มันอัจฉริยะ"จริงๆ  มันตีประวัติศาสตร์บันเทิงได้แตกเมื่อมองที่รายได้นับเป็นนาที ดิจิตอล มันสนุกมาก แต่ชาร์ไม่ได้สนใจตัวนี้. 
      ชาร์สนใจจาการความสุขใจที่เกิดจากการมองเฟ็นและเสพสิ่อตัวนี้ท่านั้น

 


        แท้จริงลิซ่าคือแรงกระตุ้นให้คนขยันมุมานะ ตื่นตัวไปกับแรงเต้นแรงเหวี่ยงที่ผ่านการฝึกปรนมาอย่างดีและที่ลิซ่ามีแววอัจฉริยภาพกอร์ปกับเสียเพลงแปลกๆใหม่
ๆ ๙นิดแบบวัฒนธรรม hip-hop-และ rapper และเป็นK-pop(Koria-popular) สะท้อนให้สังคมยุคสมัยรอสงครามโลกที่3เกิดที่สงครามโลกกำลังจะเข้ามามีบทบาทในมิติต่างๆที่ทุกคนเฝ้าแวดระวัง  
ก็หากมีสมรภูมิสงครามแบบสมัยสงครามเวียตนามที่มีดาราดังของโลกมาให้กำลังใจทหารมจทหารจีไอGI(Goverment issue)

สนุกสนานช่วงพักผ่อนจากการรบ
ถ้าตอนนี้มีสมรภูมีสงครามยืดเยื้อเกิดขึ้นเกิดมีรายการ" ลิซ่า" เข้าไปปลอบใจทหาร "ชาร์คิดว่าสงครามคงสงบลง"ได้ อันนี้เป็นความคิดของชาร์นะ มิใช่บทวิพากษ์วิจารณ์วิเคราะห์ข่าวของหนังสือพิมพ์ เพราะ "เชร์นัวร์"เป็นนวนิยายและชาร์เป็นพระเอกขอ
งนวนิยายเรื่องนี้

 

ความดังของลาลิซ่าLisaเกิดมาในยุคคาบเ
กี่ยวกับไวรัสโควิดCovid-19ที่กำลังคุกคามโลก
เมื่อข่าวนี้มาถึงหูขาร์

มันทำให้ชาร์ลืมเรื่องโควิด19ที่กำลังระบาด
มันทำให้ชาร์ทึ่งในความสามารถของสุภาพสตรีเหมือนไอดอลเด็กหญิงผู้ไร้เดียงสาผลุดมา เขย่าโลก จากผลงาน ที่จุดประกายให้คนทั้งโลกติดตามตนเองด้วยเสียงเพลง
เพลงและลีลาการเต้นการรายรำขับร้องอันสะดุดยิ่ง


"มันมาไวมาก มันมันส์และสนุกและจุใจคนทั้งโลก "มันกระตุ้นให้คนตื่นจากหลับไหลและซมซานกับพิษโควิดไวรัสที่กำลังระบาดเพราะ พิษตัวนี้เทียบเท่า สงครามโลกครั้งที่3ทีเดียวแต่มันเป็นสงครามระหว่างไวรัสกับมนุษย์เท่านั้น


กระแสรายได้ไม่ต้องถามมันเบ่งบานเหมือนดอกเบี้ยและหุ้นซื้อขายดิจิตอลทีเดียวละ
สิ่งนี้ รวมทั้งการโป่โมการซื้อจายส่งออกสั่งเข้าตามมาแบบ(Brand ambassador) เป็
นสากลเลย ที่มันนับวันทะยานขึ้นแบบจรวดไปโลกอวกา
ศทีเดียว

 

 

เสียงเพลงและการเต้นที่แหวกแนวและเพลงใหม่ๆและความสวยและเท่ห์งามสุดอลังการ เ
กิดขึ้นเป็นมิติใหม่ที่ทำให้ชาร์ต้องติดตาม
ไปกับเสียงวิจารณ์ที่ฝ่าเข้าไปทั้งแวดวงในเชิงบวกเชิงลบอันสันติวิธีจริงๆ

          ชาร์วางปากกาจากการตรวจแก้นิยายให้"คุณวิ"ทันทีสักพัก เมื่อไลฟ์สดเกิดขึ้นส่งผ่า
นมือถือมาถึง ชาร์พักมือทันทีเมื่อเสียงเพลงของเธอผ่านมา

 

เพื่ออุทิศให้กับการพักผ่อนและเสียงดนตรี
ในชุดลิซ่านี้

มิใช่โฆษณาแต่มันเป็นมนต์ขลังระทุขึ้นมา
เหมือนคนมาจถดประทัดขอหวยที่ศาลเจ้าพ่อตาเดียวในเชร์มัวร์เลยทีเดียว

สรุป"ต้องหยุดฟัง"
เหมือน
ดุจดังเด็กนักเรียนทุกคนต้อวหยุดภารกิจทั้งหหทด เมื่อเสัยงเพลงขาติที่หน้าเสาธง
ดังขึ้นในตอนเช้าก่อนเข้าห้องเรียนกระนั้น

 

        ชาร์เคยพบว่า คนขาด้วนที่ โรง
พยาบาลใหญ่แห่งหนึ่ง(ปกปิดชื่อ)ในแดนไ
กลเป็นวอร์ดwardคนขาพิการ คือเมื่ออุบัติเหตุไฟไหม้โ่รงพยาบาลเกิดขึ้น ทำให้คนพิการสามารถเดินวิ่งหนีไฟลงมาจากอาคารได้อย่าง
ปลอดภัย ในขณะที่พวกเขาตามปกติ
เดินไม่ได้นอกจากพึ่งพยาบาลพยุงเท่านั้น


     "ความกระตือรือร้น" มันปาร์ค(Spark)ให้ทุกขีวิตตื่นจากความหลับ

"มันทำให้เกิด"

ผลจากการติดตามและติดใจในนักร้อง

 

เเนวการเต้รและเริงรำ
ทำเพลงอย่าง"ลิซา"นี้ทำให้คนทั้งโลกตื่นตัวลืมโึควิด-19ไปหมดสิ้น
ชาร์คิด


หวนกลับ มาติดใจเสียงเพลงและการกระโดดโลดเต้าที่เร่งร้าว และได้อารมณ์ แม้ไม่ทุกคนที่ชอบ
แต่ก็มีสิ่งที่ทำให้ " ประกายแห่งความจริง
เกิดขึ้น"


       มีการขับเคลื่อรเกิดขึ้น"ทันที ตามมา หลังข่าวสะพัดนี้ลือกระฉ่อนออกไปในทุกทุมโลก

นับว่าทุกหย่อมหญ้าในที่ๆคลื่นโทรศัพท์เข้าถึง ยิ่งมา"ยุคควอนตัม และยุคโฟตอน(Quantum &photon)ที่ ตัวนี้
สื่อและเสียงภาพมีพลังระบาดไวผ่านมือถือที่ทุกคนมีโดยไม่มีเครื่องนำพาให้เห็นไ
ด้ "แต่ภาพกายภาพเกิด" มันเป็นอุปกร
ณ์ เทียบให้ดูคือ ถ้าเช่นรถไฟต้องกินฟืนหรือน้ำทันทีที่วิ่งบนรางแต่เห็นคนทำ แต่เจ้าควอนตัมและโฟตอนนี้มันเดินทางมาถึงมือผู้เสพได้ไวแทบจะกว่าเสียง"ทำ" ไม่ปรากฎคนทำแต่มีที่มาที่มาไป"นะไม่แปลกนะ ก็โลกมมันเจริญแล้วไง! คือมันใกล้จะพบพระอาทิตบ์และพระจันทร์ดวงใหม่ๆเกิดขึ้นหรือหลบซ่อนที่ไหน เราจะพบอีกกระนั้น" กล่าวคือทฤษฎีในสิ่งที่ไม่น่าเป็นไปได้กลับเป็นไปได้"
"น่ะ ๆ !เพื่อนมนุษย์"

 

 

ตามปกติเรื่องดังๆที่เป็นกระแสมักจะมาจาก
ทางตะวัตกแต่คราวนี้เรื่องกังๆที่เป็นกระแสมันมาจากทางตะวันออก" ชาร์ขอชม "
มันเป็นความพิศดารของธรรมขาติที่มนุษยชาติต้องยอมรับไว้โดยดุษฎี"

%3




 

วลีพจน์บทเพลง

ทำนองขับร้องตามใจชอบ(3680)

 


 

“เอาเสียเถิดจะดีเอง”

 

 

นี่ไม่ใข่พาไปร่วมสังวาสกันแล้วดีเอง 

แต่ตรงนี้สื่ิอว่า

เมื่อเห็นอะไรดีี

ทำเเสียอย่ารอช้า

คิดถูกตัดสินใจถูก

ชีวิตก็สบาย

 

ตอนที่ 17 : เอากันเสียเถิดจะดีเอง

ตอนที่ 17 : เอากันเสียเถิดจะดีเอง
“เอาเสียเถิดจะดีเอง”

 

 

นี่ไม่ใข่พาไปร่วมสังวาสกันแล้วดีเอง 

แต่ตรงนี้สื่อว่า

เมื่อเห็นอะไรดีี

ทำเเสียอย่ารอช้า

คิดถูกตัดสินใจถูก

ชีวิตก็สบาย

 

ตอนที่ 17 : เอากันเสียเถิดจะดีเอง


นิตอนที่ 17 : เอากันเสียเถิดจะดีเอง
“เอาเสียเถิดจะดีเอง”

 

 

นี่ไม่ใข่พาไปร่วมสังวาสกันแล้วดีเอง 

แต่ตรงนี้สื่ิอว่า

เมื่อเห็นอะไรดีี

ทำเเสียอย่ารอช้า

คิดถูกตัดสินใจถูก

ชีวิตก็สบาย

 

ตอนที่ 17 : เอากันเสียเถิดจะดีเอง

 

เจนเล่าว่า
พ่อตนเองคุณเจฟรีดปลูกต้นไม้ไว้กินยามยากเพาะชำสรรพสิ่งไว้กิน
เมื่อภัยมา เธอ พบว่าพวก"ดามุกแอบมาขโมยไปกินและขโมยไปขายเกลี้ยง อันนี้ขาดมอรัลเลีย "ใช่"
ชาร์เน้น
และมีการไล่ล่ากัน จองเวรกันต่อมา ระหว่างคนซื้อคนขาย คนขโมย คนถูกขโมยอาฆาดมาดร้ายไว้ ใส่กระโจลงของไว้ก็มี "เพราะส่วนที่จ้างยามและทำกำแพงนั้น
มันเปลืองเงินมาก " และ มือสอง มือสาม มือสี่เกิดขึ้น จนเป็นปริวรรตเลยทีเดียว

ชาร์บอกว่า"เรื่องเล็กน้อยอันนี้คือสาเหตุสงครามได้น่ะ เพราะคนขาดมอรัลเลีย"


เจนยอมรับแต่ก็ปล่อยความไม่เข้าใจและความสงสัยคา ใจไว้ เพราะเจนไม่กล้าถามคุณชาร์ เพราะเกรงใจและกลัวเจ้านายดูถูด" จุดนี้เจนผิด ถ้าเจนคิดอย่างนี้"

เพราะเมื่อมีเนื้อร้ายต้องรีบตัดและแก้มิใช่อายไม่กล้าบอกหมอ

เช่นรู้หรือสงสัยว่าท้อง ....ว่าท้องก็ต้องรีบหาหมอเช็คมิใช่ปล่อยให้ท้องป่องออกมาแล้ว
ไปผ่าตัดเอาลูกอออกหรือทำแท้งท้ายสุด
"ผิดและตาย"
"ทั้งแม่ทั้งลูก"
"ติดคุก"
" บาป" 
เสียเงินเสียชื่อ

"นี่งัยคือความจริง"

หลายคนไม่แก้ผ้าให้หมอตรวจ
เมื่อเป็นโรคในที่ร่มผ้า
ท้ายสุดต่อมาโรคแรงขึ้นแก้ยาก
ทรมานตายในที่สุด
"บทเรียนน่ะ"
แก้ผ้าให้หมอดูที่ลับร่มผ้าอะไรไม่ต้องอายและกลัวหมอปล้ำเพราะหมอเรียนจรรยาบรรณมา "กฎหมายมี" และเขาก็ปกปิด

เช่นคนที่เป็นโรคหนองในแก้ผ้าให้หมอหญิงเอาเข็มเหล็กแยงเข้าทางช่องรูองคชาติ ที่ทางหลั่งสเปิมร์สร้างมนุษย์นั้น
นี้เป็นเรื่องปกติ ในสถาบันรักษาโรคบุรุษ
"ชาร์ย้ำในที่สุด"

"เอาก็เอาเถอะ"นี้ความจริง และเป็นควา มจริงที่ทุกคนต้องเอาไว้ มันเป็น"ปัญญา"
มิใช่"ลามกอนาจารหรือ ออปซีน (obsence of whart)อะไร !
"นี่คือสิ่งน่ารักชนิดหนึ่ง"
และมันก็เป็นโสดหนึ่งของเพลงชีวิตนะ"ชาร์กล่าวย้ำ"

    ใช่!บางอารมณ์คนเขากลัวจะ"มีขีวิตที่เปื้อนเกียรติ "
จึงไม่กล้าตัดสินใจไม่ทำอะไรลงไป
"อันนี้น่าเห็นใจ"
ชาร์กล่าว
ด้วนเหตุนี้วัฒนธรรมทวนกระแสจึงผลถดขึ้นมาโต้ตอบให้
เหมือนเพลงฮิตเต้นฮิตของลิซ่า โผล่มากระตุ้นให้คนลุกขึ้นมาสู้ชีวิต ต้านโควิด
ปลุกคนให้ตื่น
" เปล่าเสียงเพลง..ลิซ่าไม่ได้พูด"
"ไม่ได้ตั้งใจ "

แต่มันเป็นไปโดยสภาพเมื่อคิดวิเคราะห์ให้ดีเรตติ้ง(ratting)ให้ดีในทุกวาร์ป(warp:การเคลื่อนฉับพลัน)ของเธอลองต๊าช(touch)ดูสิ

มิใข่แต่เธอเท่านั่น อีกหลายรายการ
แต่พอดีอันนี้กำลังมาดังสุดขีด...

ไม่ใช่"ขีด"ใกล้จะตายๆแบบไปสุขคตินะ่


เรทต้องเฝ้าระวังเพื่อได้เสพสิ่งที่ดีต่อไปอีก
ในมุมมองของชาร์
วัฒนธรรมทวน-หวนกระแส!มีมามากโผบ่มาเข่นศัพท์แสลงก็ทำไม่ึ
ก็เพราะศัพท์พวกนี้มันทำให้คำพูดมันไป
สิ้นกระแสความได้โดยไม้ต้อวควทมเข้าใจมากเรื่องมากงัยจึงเกิดการทับศัพท์แสลงออกมาร่วมสมัยมากจนตามไม่ทัน

ชาร์จำได้ว่าคุยกัน "การเมืองพูดไม่จบ พอแก้ข้อสงสันว่ามันคืออะไรเป็นหัวข้อ(topic)
คนเฉลยเขางดตอบเพราะไม่รู้รายละเอี
ยดและคู่สนทนาคิดย่นเวลาประหยัดน้ำมันและไฟ
จึงบอกว่ามันเป็น"politics"จบการสนทนา
บทนั้น ว่านืั มันเข้าใจกันเป็นแบบบทสรุปไม่ได้
เลยขอจบทสนทนาที่ยังหาที่ลงไม่ได้ "งั้น"
พูดแสลงก็เช่นกัน

คำแสลงศัพท์ผวน เพี้ยน แผลง วิปริต จึงผลุตขึ้นมามากมายเพื่อแก้ปัญหาเรื่องภาวะการทำให้สิ้นกระแสความ"นั้่นเอง

 

ถ้าเป็นภาพวาดก็ภาพแนวนามธรรมabstract art เช่นภา
พนามธรรมของ(Picasso)งัยมิใช่ว่าศิงปินวาดภาพเหมือนจริงไม่ได้เลยทำเป็นนามธรรมเสียงั้น และ"ท้ายสุดสังคมก็ยอมรับ"ว่า "มันมีอยู่จริง"
"อันนี้ก็เช่นกัน"
ชาร์"เชื่อ"

มาที่ที่ กิน นอน เสพ
ไม่มีใครไม่ทำสิ่งนี้ทุกวัน
"ถามว่ากินอะะไรดี"
มีตังค์ไปซื้อกินหาทำเอาตามใจชอบ
จบคืออิ่มและพอใจ

นอน เมื่อเหนื่อยค้อวนอน ถ้าไม่นอนคือตายแน่นอน
เครื่องทำงานต้องมีพัก ทำมากเครื่อวร้อนไฟไหม้ตามมา จบกัน
ทุกคนต้อง
นอน เมื่อนอนแล้วต้องงหลับเพราะเหนื่อย
ถ้าไม่หลับซัดยานอนหลับเข้าไป มากเข้าตายไปเลย คือนอนไม่ตื่นถ้าไม่ตื่นคือตาย


แน่นอน
บอกแล้วว่า"ยานอนหลับเป็นเรื่องทางลัดบำบัด"ที่หมอจะใช้ให้"หาทำ"เท่านั้น
"ถ้ากินเองมีหวัง"
เพราะอะไร 
เพราะว่า
หมอเขารู้เรื่อวของการชั่ง-ตวง-วัดของชีวิตดี

เสพ การเสพในที่นี้คือ"เสพเมถุนธรรม"เสพกามกันว่างั้น
อันนี้คิดจะเสพใครตามใจชอบไม่ได่
คนเสพกันได้ในระบบจรืงทั่วไป
ไม่สามารถซื้อด้วยเงินแบบเรื่องกินเรื่องนอน
ต้องยินยอมพร้อมสมัครใจเท่านั้น
คนเมื้อพร้อม3อย่างนี้คนนั่นก็เป็นเทวดาได้แล้ว "ชาร์คิดอย่างนั้น"

 

 

 

 

 

 

 

แล้วนี้ ไม่มีนโยบายขายหรือเผยแพร่ แต่มาหลังคุณวิตาย เพื่อให้เป็นตามระบบเปิด ชาร์จึงตรวจแก้และนำเสนอ แต่ปล่อยตามห้วยหนองลำธาร สุดแต่ใครจะไขว่คว้า
พบเจอเข้า โดยบังเอิญ

เพราะโลกมันซับซ้อนทุกอย่างต้องใช้ทุน ึคุณวิมิได้ให้ทุนชาร์
ไว้เพื่อการนี้
ก่อนตายและตามพินัยกรรมก็มีแต่ทรัสต์และคฤหาสน์ชาร์มัวร์เท่านั้นที่วิได้ทำไว้

 

          นิยายเชนัวร์ของคุณ วิเมียผมที่ตายไปแล้วนี้ ไม่มีนโยบายขายหรือเผยแพร่ แต่มาหลังคุณวิตาย เพื่อให้เป็นตามระบบเปิด ชาร์จึงตรวจแก้และนำเสนอ แต่ปล่อยตามห้วยกนิงลำธาร สุดแต่ใครจะไขว่คว้า
พบเจอเข้า โดยบังเอิญ

เพราะโลกมันซับซ้อนทุกอย่างต้องใช้ทุน ึคุณวิมิได้ให้ทุนชาร์
ไว้เพื่อการนี้
ก่อนตายและตามพินัยกรรมก็มีแต่ทรัสต์และคฤหาสน์ชาร์มัวร์เท่านั้นที่วิได้ทำไว้


ฉะนั้นจึงแพร่ช้า แต่ก็ถึงมือผู้บริโภคที่ตั้งใจจะถึงมันท่านั้น เพราะการแข่งกันไม่ทีนโยบายของเชร์นัวร์ คือชาร์ยึดหลักเหฌน"ช้างขึ้ไม่ขึ้ตามช้าง" ถึงก็ช่างฟม่ถึงก็ช่าง มิฉะนั้นเป็นทาสของพวกดามุกอย่างที่เจนเป็น
ชาร์เชื่อย่างนั้น

"แล้วไม่ขัดแผนสู่การก้าวกระโดดสู่ความเป็นเลิศรึ"
ไม่ขัด
"ถ้ามันขัด"
อันนี้ถือว่าเป็นค่าสถิติตัวอื่นๆ  
"ที่ชาร์เข้าใจและเรียนมา"

ไม่มีใครอสากล้มละลาย และการเป็นหนี้เจ็บปวดแน่นอน
แต่เผลอเมื่อไหร่
คงไม่พ้น
"มันเหมือนความตายน่ะ"

ก็อย่างที่จนเป็นงั่ย แล้วบ่นว่าดามุกทำพิษ
"แต่ขาร์ก็รับฟัง เพราะดามุกอาจจะเลวจริ
งก็ได้ ในความที่ตเองชาร์เกิดมาในึวามเป็นเด็กพานทองจึงไม้ค่อยรู้อะไรในโลกกว้างนอกจากขีวิตที่มหาลัยบอกมา"


เจนเล่าว่า
พ่อตนเองคุณเจฟรีดปลูกต้นไม้ไว้กินยามยากเพาะชำสรรพสิ่งไว้กิน
เมื่อภัยมา เธอ พบว่าพวก"ดามุกแอบมาขโมยไปกินและขโมยไปขายเกลี้ยง อันนี้ขาดมอรัลเลีย "ใช่"
ชาร์เน้น
และมีการไล่ล่ากัน จองเวรกันต่อมา ระหว่างคนซื้อคนขาย คนขโมย คนถูกขโมยอาฆาดมาดร้ายไว้ ใส่กระโจลงของไว้ก็มี "เพราะส่วนที่จ้างยามและทำกำแพงนั้น
มันเปลืองเงินมาก " และ มือสอง มือสาม มือสี่เกิดขึ้น จนเป็นปริวรรตเลยทีเดียว

ชาร์บอกว่า"เรื่องเล็กน้อยอันนี้คือสาเหตุสงครามได้น่ะ เพราะคนขาดมอรัลเลีย"


เจนยอมรับแต่ก็ปล่อยความไม่เข้าใจและความสงสัยคา ใจไว้ เพราะเจนไม่กล้าถามคุณชาร์ เพราะเกรงใจและกลัวเจ้านายดูถูด" จุดนี้เจนผิด ถ้าเจนคิดอย่างนี้"

เพราะเมื่อมีเนื้อร้ายต้องรีบตัดและแก้มิใช่อายไม่กล้าบอกหมอ

เช่นรู้หรือสงสัยว่าท้อง ....ว่าท้องก็ต้องรีบหาหมอเช็คมิใช่ปล่อยให้ท้องป่องออกมาแล้ว


"บทเพลง"

 

ไปผ่าตัดเอาลูกอออกหรือทำแท้งท้ายสุด
"ผิดและตาย"
"ทั้งแม่ทั้งลูก"
"ติดคุก"
" บาป" 
เสียเงินเสียชื่อ

"นี่งัยคือความจริง"

หลายคนไม่แก้ผ้าให้หมอตรวจ
เมื่อเป็นโรคในที่ร่มผ้า
ท้ายสุดต่อมาโรคแรงขึ้นแก้ยาก
ทรมานตายในที่สุด
"บทเรียนน่ะ"
แก้ผ้าให้หมอดูที่ลับร่มผ้าอะไรไม่ต้องอายและกลัวหมอปล้ำเพราะหมอเรียนจรรยาบรรณมา "กฎหมายมี" และเขาก็ปกปิด

 


เช่นคนที่เป็นโรคหนองในแก้ผ้าให้หมอหญิงเอาเข็มเหล็กแยงเข้าทางช่องรูองคชาติ ที่ทางหลั่งสเปิมร์สร้างมนุษย์นั้น
นี้เป็นเรื่องปกติ ในสถาบันรักษาโรคบุรุษ
"ชาร์ย้ำในที่สุด"

"เอาก็เอาเถอะ"นี้ความจริง และเป็นควา มจริงที่ทุกคนต้องเอาไว้ มันเป็น"ปัญญา"
มิใช่"ลามกอนาจารหรือ ออปซีน (obsence of whart)อะไร !
"นี่คือสิ่งน่ารักชนิดหนึ่ง"
และมันก็เป็นโสดหนึ่งของเพลงชีวิตนะ"ชาร์กล่าวย้ำ"

    ใช่!บางอารมณ์คนเขากลัวจะ"มีขีวิตที่เปื้อนเกียรติ "
จึงไม่กล้าตัดสินใจไม่ทำอะไรลงไป
"อันนี้น่าเห็นใจ"
ชาร์กล่าว
ด้วนเหตุนี้วัฒนธรรมทวนกระแสจึงผลถดขึ้นมาโต้ตอบให้
เหมือนเพลงฮิตเต้นฮิตของลิซ่า โผล่มากระตุ้นให้คนลุกขึ้นมาสู้ชีวิต ต้านโควิด
ปลุกคนให้ตื่น
" เปล่าเสียงเพลง..ลิซ่าไม่ได้พูด"
"ไม่ได้ตั้งใจ "

แต่มันเป็นไปโดยสภาพเมื่อคิดวิเคราะห์ให้ดีเรตติ้ง(ratting)ให้ดีในทุกวาร์ป(warp:การเคลื่อนฉับพลัน)ของเธอลองต๊าช(touch)ดูสิ

มิใข่แต่เธอเท่านั่น อีกหลายรายการ
แต่พอดีอันนี้กำลังมาดังสุดขีด...

ไม่ใช่"ขีด"ใกล้จะตายๆแบบไปสุขคตินะ่


เรทต้องเฝ้าระวังเพื่อได้เสพสิ่งที่ดีต่อไปอีก
ในมุมมองของชาร์
วัฒนธรรมทวน-หวนกระแส!มีมามากโผบ่มาเข่นศัพท์แสลงก็ทำไม่ึ
ก็เพราะศัพท์พวกนี้มันทำให้คำพูดมันไป
สิ้นกระแสความได้โดยไม้ต้อวควทมเข้าใจมากเรื่องมากงัยจึงเกิดการทับศัพท์แสลงออกมาร่วมสมัยมากจนตามไม่ทัน

ชาร์จำได้ว่าคุยกัน "การเมืองพูดไม่จบ พอแก้ข้อสงสันว่ามันคืออะไรเป็นหัวข้อ(topic)
คนเฉลยเขางดตอบเพราะไม่รู้รายละเอี
ยดและคู่สนทนาคิดย่นเวลาประหยัดน้ำมันและไฟ
จึงบอกว่ามันเป็น"politics"จบการสนทนา
บทนั้น ว่านืั มันเข้าใจกันเป็นแบบบทสรุปไม่ได้
เลยขอจบทสนทนาที่ยังหาที่ลงไม่ได้ "งั้น"
พูดแสลงก็เช่นกัน

คำแสลงศัพท์ผวน เพี้ยน แผลง วิปริต จึงผลุตขึ้นมามากมายเพื่อแก้ปัญหาเรื่องภาวะการทำให้สิ้นกระแสความ"นั้่นเอง

 

ถ้าเป็นภาพวาดก็ภาพแนวนามธรรมabstract art เช่นภา
พนามธรรมของ(Picasso)งัยมิใช่ว่าศิงปินวาดภาพเหมือนจริงไม่ได้เลยทำเป็นนามธรรมเสียงั้น และ"ท้ายสุดสังคมก็ยอมรับ"ว่า "มันมีอยู่จริง"
"อันนี้ก็เช่นกัน"
ชาร์"เชื่อ"

"บทเพลง"

มาที่ที่ กิน นอน เสพ
ไม่มีใครไม่ทำสิ่งนี้ทุกวัน
"ถามว่ากินอะะไรดี"
มีตังค์ไปซื้อกินหาทำเอาตามใจชอบ
จบคืออิ่มและพอใจ

นอน เมื่อเหนื่อยเค้าต้องนอน 
ถ้าไม่นอนคือตายแน่นอน


เครื่องทำงานต้องมีพัก
ทำมากเครื่องร้อนไฟไหม้ตามมา
จบกัน

ทุกคนต้อง
นอน


เมื่อนอนแล้วต้องหลับ
เพราะเหนื่อย


ถ้าไม่หลับซัดยานอนหลับเข้าไป
มากเข้าตายไปเลย


คือนอนไม่ตื่น

ถ้าไม่ตื่นคือตายแน่นอน

 

บอกแล้วว่า"ยานอนหลับเป็นเรื่องทางลัดบำบัด"ที่หมอจะใช้ให้"หาทำ"เท่านั้น
"ถ้ากินเองมีหวัง"
เพราะอะไร 
เพราะว่า
หมอเขารู้เรื่อวของการชั่ง-ตวง-วัดของชีวิตดี

เสพ การเสพในที่นี้คือ"เสพเมถุนธรรม"เสพกามกันว่างั้น
อันนี้คิดจะเสพใครตามใจชอบไม่ได้
คนเสพกันได้ในระบบจริงทั่วไป
ไม่สามารถซื้อด้วยเงินแบบเรื่องกินเรื่องนอน

เรื่องนี้
มันต้องยินยอมพร้อมสมัครใจเท่านั้น
คนเมื้อพร้อม3อย่างนี้คนนั่นก็เป็นเทวดาได้แล้ว "ชาร์คิดอย่างนั้น"

 

 

 

 

 

 

 

 

18มื้อสุดท้าย


 

 

18มื้อสุดท้าย(6433)

หลักการและเหตุผลของนวนิยายเชร์นัวร์ตอนนี้
กล่าวคือ
"ชื่อตอน มื้อสุดท้ายนี้มิใช่ภาพวาดคลาสสิคอันโด่งดัง แต่มันเป็นนวนิยายขาร์นัวร์ที่นำชื่อนี้มาประยุกต์ใช้ในวนิยายชื่อนล้องกันโดยบังเอิญ ตอนนี้เหตุผลทำไมจะแจ้งทีหลัง

ตอนนี้ก็ยังหนุนความคิดให้ลิซ่า
เพราะพบว่าเธอแต่งตัวสวยมนแอป อินสตาแกรม
เปิดดู
จากไม่เคยเปิดดูอินสตาแกรมทุกวันก
ลายมาเปิดทุกวันเลยตอนนี้เพื่อดูลิซ่า
ทำใหนิยาย"เชร์นัวร์ "ของคุณวิขับเคลื่อน
เพื่อให้จบก่อนส่งบททำเล่มหนังสือและทำภาพยนต์ต่อไป

มันเป็นปรากฏการณ์ใหม่


จึงเขียนบทเพลงไว้ในตอนนี้

ให้ชื่อว่า

"When the flower cry."

 

The big rain comes

The big rain comes

The big rain comes

The big rain comes


Every one laugh and joy

Every one laugh and joy

Every one laugh and joy

Every one laugh and joy


Oh Lisa bring money to us more

The money

The money

The money

The money


When she gives it away to me
I then will spend it all

 

For a happiness of the day
So so we can enjoy life together
Even more
Evenmore
And over more

And surely we will back to travai(work)
And sleep eat dream
More and more


Then money money money
Lisa will bring again

Oh oh it is a wonderfull world indeed
I Have never seen

Oh yah

Oh tah

Oh yah.....

La la la
la la la
la la la

End


ก็ชาร์พูดถึงลิซ่า เพราะชอบและรัก(FC)
ให้คะแนนมากเลยตอนนี้ มิใช่อ้างมาเพื่อ
การแพร่"เชนัวร์" หนังสือคุณวิ(นางเอกเรื่องนี้ที่จะตั้งเจนเป็นแทนแต่ไม่มีอะไรกับพระเอกพ่อหม้ายอย่างชาร์)แต่รออยู่ซึ่งตายไปแล้วที่ชาร์แก้นิยายเพื่อผลิต(productive materail)อยู่นี้
ก็ชาร์มีมอรัลเลียหนักพอที่จะไม่หวังคนติดตามจากการกดlike กดshareตามกระแสนิยมของลิซ่าแต่อย่างไรไม่ ส่วนจะมีส่วนเกินเพราะเหตุอื่นอันนี้ก็ชาร์ขอยกไว้

ลิซ่า เค้ามีอัตลักษณ์นะ่ แต้มปากสีแดง
แน่นตัดด้วยสีผ้าสีหนัก อันนี้"สวย"
จริวๆนะ่ ไม่รู้ว่าใครสอนแนะอย่างไร
พบว่าชาร์เ องตอนไปปารีส


เคยไปแล้วคลั่ง่สนิยมฝรั่งเศสเช่นจนาดไม่มีเงินเลยที่ซุกหัวนอนแทวจไม่มีสถานะ
ยังกล้าซื้อนาฬิกากาเตียร์(Catier)มาสวมเล่นเลย ถามว่าขาร์เอารสนิยมนี้มาได้อย่างไร ตอบว่านงเพราะ"เลือดศิลปินรักศิลปะมั่ง"
กลายคนเย้ยเมื่อชาี์ทำตัวอย่างนี้
แต่ก็เงียบไปเมื่อพบคสามจริงบางอย่าง
ซึ่ง(ชาร์เองก็ไม่รู้ว่าอะไร และทำไม แต่มันเป็นเข่นนั่นเอง)
สรุปเป็นอัตลักษณ์


เปิดทีไรหน้าสื่อตอนนี้เจอแแต่ลิซ่า(01/11-21) ก็เลยอุทิศหน้าเขียน
ให้ลิซ่าไปเลย พักสายตา เพื่อนติดตามทั่งใต้ดินบนดิน นิรนาม ตำรวจลับ และคนคน
ตาถั่ว ที่ติดตามเขร์นัวร์


ชาร์เอในอมีับส่าวานเจีสนืั่งหมด

เป็นอัตลักษณ์และไม่ค่อยทันสื่อ
แบบดิจิตอล

งาน
เลยออกมาบางครั้งทื้อๆ แต่อาศัยความที่ตน
อยู่ในโลกใบนี้มานาน และคุ้นและมีประวั
ติ

มีสถาบัน มีอัตลักษณ์และมีกำลังใจจาก
กวี(ลีเดียน้องของบอริส ผู้เขียน ดร. ชิวาโก รางวัลโนเบิล (Poet าศัย sister of Boris Pasternek of the novel : Dr.Zchivako Noble prize winner AD.1958 )ให้กำลังใจและปลูกฝัง
เมื่อเราเคยอยู่ด้วยกันและนับถือกันมากที่ เมืองมหาวิทยาลัยออกร์ฟอร์ด อังกฤษ

จึงก่อนตาย" เขียนๆวาดๆทำๆ"ไปอะไรก็ได้
ที่มันดีและไม่เดือดร้อนคนอื่น "จงทำ"


และเพราะอาชีพ นี้แจ้งเกิดมา "ชาร์จึงเป็นอย่างนี้"
ก็เอาเท่านั้นความจริง ถ้าชาร์เซ้ดมากไปจะกลายเป็นหญิงเจ้าปัญหาอย่าง"เจน"ที่มีสงครามกับดามุกเพราะเธอคิดมากแต่คิดเป็นในนิยายนี้นั่นเอง.

เจนบอกว่า พวกดามุกรีดไถ หลังยาวขึ้เกียจ แม้โลกพัฒนาไปมากแล้ว จนาดจะใช้โทรจิตแทนโทรมือถือได้ แต่เห็นเหมือนเดิม นิสัยคนไม่เปลี่ยน แต่ตายไปมาก
คนล้มตายทุกวัน ดามุกตายทุกวัน เห็นมี
ยาฉีดกันมดและยุงตราใบกอน(Bygon)
ของเยอรมันเท่านั้นที่ใช้ได้
"เจนยืนยัน"

ทันทีที่เจนพูดจบ ชาร์เงียบ เพราะชาร์เองเรียนเสียสูงแต่ยังไม่เข้าใจว่า การพัฒนาคืออะไร ดามุกคืออะไร ดามุกตัวมันเป็นอย่างไร แต่ชาร์ก็สงวนท่าทีกับเจนไว้ด้วยวิธี"เงียบและรับฟัง"

ขาร์ถือว่าปรัชญากรีกคือสิ่งที่ทัาสมัยและยังใช้ได้ นอกนั้น ชาร์ไม่มีความคิดเห็น

"ชาร์กกล่าวต่อ"

ก็คนสมัยนี้พยายาม โตกันมา ก็ไม้พ้นนสามสุข เกียรติและเงินที่ทุกคนหวัง ส่วนนอกนั้น
เช่นมอรัลเลียยังคงมีน้อย เชื่อว่า
ถ้าคนมีมอรัลเลียมากขึ้น วัตถุคงสร้างกันแบบอยู่คงที่ เพราะโลกมีพื้นที่จำกัด ตึกสร้างสูงมากแล้วก็มีปัญหา แต่ว่าสร้างไม่สูง ความต้องการของคนก็ปฏิเสธเสีย  ชาร์สรุป"ความต้องการของมนุษย์ไม่มีที่สิ้นสุด"

ยังมีความเร็วกว่า"ควอนตัมและโฟตอน"โทรมือถืออีก "ชาร์เชื่อ"
เพราะคำว่าพอไม่มีของนุษย์ชาติงัย
ชาร์จำได้ตฝตอนเรียนมหาลัยสอบตกวิทยาศาสตร์จนถูกรีไทร์และเมื่อคิดได้ไปเรียนมหาลัยต่อก็จบ "วิทยาศาสตร์จึงเสมือนสิ่งที่ชาร์ไม่กลัวมันแล้ว ขาร์เข้ามั
นมันแล้ว ชาร์พบว่าที่สอบวิทย์ตก เพราะาร์ตอบโจทย์ไม่ตรงคำถาม และใช้เลขคณิตคำนวณวิชาฟิสิกส์ช้าเกินไปที่โจทย์ครูถามครูถาม เพ่าะว่าชาร์ไม่สนใจเรียนเลข
เพราะอ่านประวัติไอนส์ไตน์ๆเขาก็อ่อนเลข
เช่นกัน จึงไม่สนใจเลขตามไอนส์ไตน์

สรุปตอบปัญหาตรรกะก็สอบผ่าน
ชาร์สอบวิทย์ปีหนึ่งขนิดรวมหมดวิทย์ทั้
งหมด มีชีวะ ฟิสิกส์(เรื่องมวล แรง  เวกเตอร์ คำนวณวัตถุ และระยะทาง เวลา การเทียบสัดส่วน พีชคณิต ในระดัยบวัยมหาวิทยาลัย) ร่วมกันคนสอนระดับศาสตราจารย์มีสายสะพายทุกคน แต่ข้อสอบมากมายแต่หน่วยกิตการสอบนิดเดียว สุดท้ายขาร์สอบผ่านจากปรัชญาที่ว่า
"ความพยายามอยู่ที่ไหนความสำเร็จอยู่ที่นั่น"

ยังนึกเสียดายเวลาเลย คือที่ตกเพราะตกชอบตอบปัญหาแบบดื้อตอบไม่ตรงคำถามของครู
คือตอบตามอัตลักษณ์ของตนเอง แต่ไม่ตอบตามอัตลัก๋ษณ์ ของครูและแบบโชคดีที่ตนเองคิดได้ทันไม่สายที่แก้ตัว

เจนบอกว่าดามุกชอบทำผีเข้าทำลายสมาธิกลุ่มเป้าหมายที่เขาจะทำลาย ดามุกเค้าก็มีปรัชญาเช่นคนนักรบเข่นกัน "คือที่ว่าไม่ชนะด้วยเล่ห์ก็ต้องชนะด้วบกล ไมชนะด้วยมนต์กก็ต้องชนะด้วยคาถา"ในสนามอละแนวรบในภารกิจสงคราม เพื่อให้ชนะในการรบ
นักรบต้องใช้มรรคทุกวิถีทางเพื่อให้ศัตรู
แพ้ ดามุกเขานำมาใช้ เจนยืนยัน


มีกัญชา ยาอี ยาม้า ดามุกไม่เข้าไปแทรกแซง แต่ก็มีการสมรู้รู้ร่วมคิดกันเหมือนกัน "เจนบอกมา"

และดามุกเขาจะพยายามตรอมใจหยื่อเป้าหมายให้ตายไวๆ ดูๆแล้วดามุกนี้เป็นพยาธิสังคมเอาเสียจริงเจียว
เจนกล่าว


ขออภัยคุณวินะ ที่อาเรื่องราวของลิซ่าเข้ามาในนิยาย "ชาร์พูด"
ก็เชื่อว่านิยายเชร์นัวร์ควจบลงหลังการแต่งตั้งให้เบนเป็นนางเอกคนต่อไปขอเรื่อง
ถ้าไม่พบงานที่วิซ่อนไว้ที่ใดอีกที่คฤหาสน์

"Lodging materail of Vivien"

อนึ่งขอประกาศเกี่ยวกเวสถานะดามุก
ในนิยายนี้ ผู้เขียนไม่ได้อ้างเชื่อมโยง
ไปยังครเลวถ้ามี หรือคนแกล้งเลวถ้ามีแบบดามุก
อันนี้เป็นคำให้การของเจนต่อขาร์ผู้เป็นนาย
เพราะว่าถ้าดามุกมีจริง มันคงขำกลิ้งแน่แน่ในโลกใบนี้
เพราะพฤติการณ์เลวทรามนี้เป็นป้จเจกบุคคล ปัจเจกลุ่ม มิได้มีตัวตนเป็นอื่น
ถ้ามีเป็นอื่นคือกลายเป็นอิทธิพลเป็นรัฐ คือปล้นเขามาเป็นรัฐ ถ้ามีก็เป็นคำถามทางรัฐศาสตร์ที่ตอบได้ว่ามันคืออะไรนิยายนี้ไม่เข้าถึงเรื่องนี้ แต่เรื่องนี้เน้นที่เหตุเกิดเฉพาะมิใช่สากล ฉะนั้นจึงไม่ไปเกี่ยวกับเรื่องอาชญากรรมและการเมืองแผนสกปรกdirty trick operationของใครแต่อย่างใด เช่นสถานะสงคราม หย่วย KGB CIA สายลับรัสเซีย อเมริกา หรือสันติบาลทุกชนิด ที่เราเคยดูหนังอ่านเจอในข่าว
เพราะว่าเขาเหล่านี้ทำงานในระบบรัฐะ
แต่ดามุกนี้มิใช่
ไวกิ้งเป็นโตรสลัดแล้วมาสร้างเมือง
อันนก็เป็นมีคำตอบในรัฐะแต่ดามุกมนนิยายเชร์นัวร์นี้ไม่เกี่ยวกัน


จึงประกาศให้ทราบใยที่นี่ อละคุณวิก็ยืนยันมาอย่างนี้ในการเขียนนิยาย

มาที่ คนกดชอบกดติดตาม ผ่านทางมือถือ

ชาร์พบว่าลิซ่าเจอตัวนี้กดเป็นล้านๆครั้งต่อวินาทีทั่วโลก คงจะทำให้มือถือเหนื่อยไม่ใข่น้อย
เพราะชาร์พบว่าตอนเหงาที่แก้นิยายให้คุณวิ ชาร์ก็ติดตามแอปวีซิง"Wesing" ของT encent.คอม
พบว่าเพลงแก้เหนื่อยและช่วยผ่อนปรน
ความเครียด ชาร์จึงเล่นตัวนี้ช่วงทำงาน
พบว่ามีการกดชอบกดติดตาม ชาร์พบว่า
มือถือเกือยจะกระเด็นจากโต้ะไม้สักที่รอปลวกมือขีพมากัดกิน


มือถือลั่นสั่นเตือนจากคนกดชอบกดติดตามกดชวนกันมากมาย 
แต่ชาี์ไม่มากเท่าลิซ่า


ถ้ารายของลิซ่าคงมีคนกดกันเป็นล้านคน
วพร้อมๆกันนี่เนี่ยะน่ะ


มือถือของลิซ่าคงจะแทบระเบิด
แย่
เพราะชาร์พบว่าจากวีซิงก็น่าดู

กรณีเแม้มือถือเกรดดีจะไม่ร้อนก็ตามหรือ
ถ้าปิดไว้


แต่ถ้าเเปิดไว้ 
มือถือของลิซ่าคงเต้นได้
กระโดดได้
แนน่นอน

เพราะพบว่าคนนิยม"ลิซ่า"มากมายนักเป็นประวัติศาสตร์ทีเดียวนะ่(2021)in Instagram..

ก็ดีแล้วละะที่มนุษย์ชาติเริ่มเห็นสัจธรรม

ขอวเพลงและมนุษย์ แทนการจมปลักในโลกมนุษย์ป่าเถื่อนที่ไม่รู้จักเสียงเพลงเอาเสียเลย และมิหนำซ้ำคนที่ไม่ให้โอกาสคนรุ่น
ใหม่ได้ไขว่คว้า ชาร์คิดว่าน่าจะคิดทบทวนดูอีกครั้ง
ว่าการคิดลบอย่างนั้นถูกหรือผิด


จบตอนนี้ด้วยเพลง

มื้อสุดท้ายแห่งเพลงชีวิต

When I am alone
When I am lonely
When I am only one

Only music song s can let me go
For any any
And any thing

Water eart nature want let me go
Better song and music
Oh I love song
I love Lisa
I love Chernoir
I love cafe
I love midnight dance
I like to go for a drive and ride
I like to go for promnade
With my girl friend
And have bit love 
And silence love verse with her
And  could her let me say
I love you so Oh yah
La lala La la la...

 


 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

18มื้อสุดท้าย


 

 

18มื้อสุดท้าย(6433)

หลักการและเหตุผลของนวนิยายเชร์นัวร์ตอนนี้
กล่าวคือ
"ชื่อตอน มื้อสุดท้ายนี้มิใช่ภาพวาดคลาสสิคอันโด่งดัง แต่มันเป็นนวนิยายขาร์นัวร์ที่นำชื่อนี้มาประยุกต์ใช้ในวนิยายชื่อนล้องกันโดยบังเอิญ ตอนนี้เหตุผลทำไมจะแจ้งทีหลัง

ตอนนี้ก็ยังหนุนความคิดให้ลิซ่า
เพราะพบว่าเธอแต่งตัวสวยมนแอป อินสตาแกรม
เปิดดู
จากไม่เคยเปิดดูอินสตาแกรมทุกวันก
ลายมาเปิดทุกวันเลยตอนนี้เพื่อดูลิซ่า
ทำใหนิยาย"เชร์นัวร์ "ของคุณวิขับเคลื่อน
เพื่อให้จบก่อนส่งบททำเล่มหนังสือและทำภาพยนต์ต่อไป

มันเป็นปรากฏการณ์ใหม่


จึงเขียนบทเพลงไว้ในตอนนี้

ให้ชื่อว่า

"When the flower cry."

 

The big rain comes

The big rain comes

The big rain comes

The big rain comes


Every one laugh and joy

Every one laugh and joy

Every one laugh and joy

Every one laugh and joy


Oh Lisa bring money to us more

The money

The money

The money

The money


When she gives it away to me
I then will spend it all

 

For a happiness of the day
So so we can enjoy life together
Even more
Evenmore
And over more

And surely we will back to travai(work)
And sleep eat dream
More and more


Then money money money
Lisa will bring again

Oh oh it is a wonderfull world indeed
I Have never seen

Oh yah

Oh tah

Oh yah.....

La la la
la la la
la la la

End


ก็ชาร์พูดถึงลิซ่า เพราะชอบและรัก(FC)
ให้คะแนนมากเลยตอนนี้ มิใช่อ้างมาเพื่อ
การแพร่"เชนัวร์" หนังสือคุณวิ(นางเอกเรื่องนี้ที่จะตั้งเจนเป็นแทนแต่ไม่มีอะไรกับพระเอกพ่อหม้ายอย่างชาร์)แต่รออยู่ซึ่งตายไปแล้วที่ชาร์แก้นิยายเพื่อผลิต(productive materail)อยู่นี้
ก็ชาร์มีมอรัลเลียหนักพอที่จะไม่หวังคนติดตามจากการกดlike กดshareตามกระแสนิยมของลิซ่าแต่อย่างไรไม่ ส่วนจะมีส่วนเกินเพราะเหตุอื่นอันนี้ก็ชาร์ขอยกไว้

ลิซ่า เค้ามีอัตลักษณ์นะ่ แต้มปากสีแดง
แน่นตัดด้วยสีผ้าสีหนัก อันนี้"สวย"
จริวๆนะ่ ไม่รู้ว่าใครสอนแนะอย่างไร
พบว่าชาร์เ องตอนไปปารีส


เคยไปแล้วคลั่ง่สนิยมฝรั่งเศสเช่นจนาดไม่มีเงินเลยที่ซุกหัวนอนแทวจไม่มีสถานะ
ยังกล้าซื้อนาฬิกากาเตียร์(Catier)มาสวมเล่นเลย ถามว่าขาร์เอารสนิยมนี้มาได้อย่างไร ตอบว่านงเพราะ"เลือดศิลปินรักศิลปะมั่ง"
กลายคนเย้ยเมื่อชาี์ทำตัวอย่างนี้
แต่ก็เงียบไปเมื่อพบคสามจริงบางอย่าง
ซึ่ง(ชาร์เองก็ไม่รู้ว่าอะไร และทำไม แต่มันเป็นเข่นนั่นเอง)
สรุปเป็นอัตลักษณ์


เปิดทีไรหน้าสื่อตอนนี้เจอแแต่ลิซ่า(01/11-21) ก็เลยอุทิศหน้าเขียน
ให้ลิซ่าไปเลย พักสายตา เพื่อนติดตามทั่งใต้ดินบนดิน นิรนาม ตำรวจลับ และคนคน
ตาถั่ว ที่ติดตามเขร์นัวร์


ชาร์เอในอมีับส่าวานเจีสนืั่งหมด

เป็นอัตลักษณ์และไม่ค่อยทันสื่อ
แบบดิจิตอล

งาน
เลยออกมาบางครั้งทื้อๆ แต่อาศัยความที่ตน
อยู่ในโลกใบนี้มานาน และคุ้นและมีประวั
ติ

มีสถาบัน มีอัตลักษณ์และมีกำลังใจจาก
กวี(ลีเดียน้องของบอริส ผู้เขียน ดร. ชิวาโก รางวัลโนเบิล (Poet าศัย sister of Boris Pasternek of the novel : Dr.Zchivako Noble prize winner AD.1958 )ให้กำลังใจและปลูกฝัง
เมื่อเราเคยอยู่ด้วยกันและนับถือกันมากที่ เมืองมหาวิทยาลัยออกร์ฟอร์ด อังกฤษ

จึงก่อนตาย" เขียนๆวาดๆทำๆ"ไปอะไรก็ได้
ที่มันดีและไม่เดือดร้อนคนอื่น "จงทำ"


และเพราะอาชีพ นี้แจ้งเกิดมา "ชาร์จึงเป็นอย่างนี้"
ก็เอาเท่านั้นความจริง ถ้าชาร์เซ้ดมากไปจะกลายเป็นหญิงเจ้าปัญหาอย่าง"เจน"ที่มีสงครามกับดามุกเพราะเธอคิดมากแต่คิดเป็นในนิยายนี้นั่นเอง.

เจนบอกว่า พวกดามุกรีดไถ หลังยาวขึ้เกียจ แม้โลกพัฒนาไปมากแล้ว จนาดจะใช้โทรจิตแทนโทรมือถือได้ แต่เห็นเหมือนเดิม นิสัยคนไม่เปลี่ยน แต่ตายไปมาก
คนล้มตายทุกวัน ดามุกตายทุกวัน เห็นมี
ยาฉีดกันมดและยุงตราใบกอน(Bygon)
ของเยอรมันเท่านั้นที่ใช้ได้
"เจนยืนยัน"

ทันทีที่เจนพูดจบ ชาร์เงียบ เพราะชาร์เองเรียนเสียสูงแต่ยังไม่เข้าใจว่า การพัฒนาคืออะไร ดามุกคืออะไร ดามุกตัวมันเป็นอย่างไร แต่ชาร์ก็สงวนท่าทีกับเจนไว้ด้วยวิธี"เงียบและรับฟัง"

ขาร์ถือว่าปรัชญากรีกคือสิ่งที่ทัาสมัยและยังใช้ได้ นอกนั้น ชาร์ไม่มีความคิดเห็น

"ชาร์กกล่าวต่อ"

ก็คนสมัยนี้พยายาม โตกันมา ก็ไม้พ้นนสามสุข เกียรติและเงินที่ทุกคนหวัง ส่วนนอกนั้น
เช่นมอรัลเลียยังคงมีน้อย เชื่อว่า
ถ้าคนมีมอรัลเลียมากขึ้น วัตถุคงสร้างกันแบบอยู่คงที่ เพราะโลกมีพื้นที่จำกัด ตึกสร้างสูงมากแล้วก็มีปัญหา แต่ว่าสร้างไม่สูง ความต้องการของคนก็ปฏิเสธเสีย  ชาร์สรุป"ความต้องการของมนุษย์ไม่มีที่สิ้นสุด"

ยังมีความเร็วกว่า"ควอนตัมและโฟตอน"โทรมือถืออีก "ชาร์เชื่อ"
เพราะคำว่าพอไม่มีของนุษย์ชาติงัย
ชาร์จำได้ตฝตอนเรียนมหาลัยสอบตกวิทยาศาสตร์จนถูกรีไทร์และเมื่อคิดได้ไปเรียนมหาลัยต่อก็จบ "วิทยาศาสตร์จึงเสมือนสิ่งที่ชาร์ไม่กลัวมันแล้ว ขาร์เข้ามั
นมันแล้ว ชาร์พบว่าที่สอบวิทย์ตก เพราะาร์ตอบโจทย์ไม่ตรงคำถาม และใช้เลขคณิตคำนวณวิชาฟิสิกส์ช้าเกินไปที่โจทย์ครูถามครูถาม เพ่าะว่าชาร์ไม่สนใจเรียนเลข
เพราะอ่านประวัติไอนส์ไตน์ๆเขาก็อ่อนเลข
เช่นกัน จึงไม่สนใจเลขตามไอนส์ไตน์

สรุปตอบปัญหาตรรกะก็สอบผ่าน
ชาร์สอบวิทย์ปีหนึ่งขนิดรวมหมดวิทย์ทั้
งหมด มีชีวะ ฟิสิกส์(เรื่องมวล แรง  เวกเตอร์ คำนวณวัตถุ และระยะทาง เวลา การเทียบสัดส่วน พีชคณิต ในระดัยบวัยมหาวิทยาลัย) ร่วมกันคนสอนระดับศาสตราจารย์มีสายสะพายทุกคน แต่ข้อสอบมากมายแต่หน่วยกิตการสอบนิดเดียว สุดท้ายขาร์สอบผ่านจากปรัชญาที่ว่า
"ความพยายามอยู่ที่ไหนความสำเร็จอยู่ที่นั่น"

ยังนึกเสียดายเวลาเลย คือที่ตกเพราะตกชอบตอบปัญหาแบบดื้อตอบไม่ตรงคำถามของครู
คือตอบตามอัตลักษณ์ของตนเอง แต่ไม่ตอบตามอัตลัก๋ษณ์ ของครูและแบบโชคดีที่ตนเองคิดได้ทันไม่สายที่แก้ตัว

เจนบอกว่าดามุกชอบทำผีเข้าทำลายสมาธิกลุ่มเป้าหมายที่เขาจะทำลาย ดามุกเค้าก็มีปรัชญาเช่นคนนักรบเข่นกัน "คือที่ว่าไม่ชนะด้วยเล่ห์ก็ต้องชนะด้วบกล ไมชนะด้วยมนต์กก็ต้องชนะด้วยคาถา"ในสนามอละแนวรบในภารกิจสงคราม เพื่อให้ชนะในการรบ
นักรบต้องใช้มรรคทุกวิถีทางเพื่อให้ศัตรู
แพ้ ดามุกเขานำมาใช้ เจนยืนยัน


มีกัญชา ยาอี ยาม้า ดามุกไม่เข้าไปแทรกแซง แต่ก็มีการสมรู้รู้ร่วมคิดกันเหมือนกัน "เจนบอกมา"

และดามุกเขาจะพยายามตรอมใจหยื่อเป้าหมายให้ตายไวๆ ดูๆแล้วดามุกนี้เป็นพยาธิสังคมเอาเสียจริงเจียว
เจนกล่าว


ขออภัยคุณวินะ ที่อาเรื่องราวของลิซ่าเข้ามาในนิยาย "ชาร์พูด"
ก็เชื่อว่านิยายเชร์นัวร์ควจบลงหลังการแต่งตั้งให้เบนเป็นนางเอกคนต่อไปขอเรื่อง
ถ้าไม่พบงานที่วิซ่อนไว้ที่ใดอีกที่คฤหาสน์

"Lodging materail of Vivien"

อนึ่งขอประกาศเกี่ยวกเวสถานะดามุก
ในนิยายนี้ ผู้เขียนไม่ได้อ้างเชื่อมโยง
ไปยังครเลวถ้ามี หรือคนแกล้งเลวถ้ามีแบบดามุก
อันนี้เป็นคำให้การของเจนต่อขาร์ผู้เป็นนาย
เพราะว่าถ้าดามุกมีจริง มันคงขำกลิ้งแน่แน่ในโลกใบนี้
เพราะพฤติการณ์เลวทรามนี้เป็นป้จเจกบุคคล ปัจเจกลุ่ม มิได้มีตัวตนเป็นอื่น
ถ้ามีเป็นอื่นคือกลายเป็นอิทธิพลเป็นรัฐ คือปล้นเขามาเป็นรัฐ ถ้ามีก็เป็นคำถามทางรัฐศาสตร์ที่ตอบได้ว่ามันคืออะไรนิยายนี้ไม่เข้าถึงเรื่องนี้ แต่เรื่องนี้เน้นที่เหตุเกิดเฉพาะมิใช่สากล ฉะนั้นจึงไม่ไปเกี่ยวกับเรื่องอาชญากรรมและการเมืองแผนสกปรกdirty trick operationของใครแต่อย่างใด เช่นสถานะสงคราม หย่วย KGB CIA สายลับรัสเซีย อเมริกา หรือสันติบาลทุกชนิด ที่เราเคยดูหนังอ่านเจอในข่าว
เพราะว่าเขาเหล่านี้ทำงานในระบบรัฐะ
แต่ดามุกนี้มิใช่
ไวกิ้งเป็นโตรสลัดแล้วมาสร้างเมือง
อันนก็เป็นมีคำตอบในรัฐะแต่ดามุกมนนิยายเชร์นัวร์นี้ไม่เกี่ยวกัน


จึงประกาศให้ทราบใยที่นี่ อละคุณวิก็ยืนยันมาอย่างนี้ในการเขียนนิยาย

มาที่ คนกดชอบกดติดตาม ผ่านทางมือถือ

ชาร์พบว่าลิซ่าเจอตัวนี้กดเป็นล้านๆครั้งต่อวินาทีทั่วโลก คงจะทำให้มือถือเหนื่อยไม่ใข่น้อย
เพราะชาร์พบว่าตอนเหงาที่แก้นิยายให้คุณวิ ชาร์ก็ติดตามแอปวีซิง"Wesing" ของT encent.คอม
พบว่าเพลงแก้เหนื่อยและช่วยผ่อนปรน
ความเครียด ชาร์จึงเล่นตัวนี้ช่วงทำงาน
พบว่ามีการกดชอบกดติดตาม ชาร์พบว่า
มือถือเกือยจะกระเด็นจากโต้ะไม้สักที่รอปลวกมือขีพมากัดกิน


มือถือลั่นสั่นเตือนจากคนกดชอบกดติดตามกดชวนกันมากมาย 
แต่ชาี์ไม่มากเท่าลิซ่า


ถ้ารายของลิซ่าคงมีคนกดกันเป็นล้านคน
วพร้อมๆกันนี่เนี่ยะน่ะ


มือถือของลิซ่าคงจะแทบระเบิด
แย่
เพราะชาร์พบว่าจากวีซิงก็น่าดู

กรณีเแม้มือถือเกรดดีจะไม่ร้อนก็ตามหรือ
ถ้าปิดไว้


แต่ถ้าเเปิดไว้ 
มือถือของลิซ่าคงเต้นได้
กระโดดได้
แนน่นอน

เพราะพบว่าคนนิยม"ลิซ่า"มากมายนักเป็นประวัติศาสตร์ทีเดียวนะ่(2021)in Instagram..

ก็ดีแล้วละะที่มนุษย์ชาติเริ่มเห็นสัจธรรม

ขอวเพลงและมนุษย์ แทนการจมปลักในโลกมนุษย์ป่าเถื่อนที่ไม่รู้จักเสียงเพลงเอาเสียเลย และมิหนำซ้ำคนที่ไม่ให้โอกาสคนรุ่น
ใหม่ได้ไขว่คว้า ชาร์คิดว่าน่าจะคิดทบทวนดูอีกครั้ง
ว่าการคิดลบอย่างนั้นถูกหรือผิด


จบตอนนี้ด้วยเพลง

มื้อสุดท้ายแห่งเพลงชีวิต

When I am alone
When I am lonely
When I am only one

Only music song s can let me go
For any any
And any thing

Water eart nature want let me go
Better song and music
Oh I love song
I love Lisa
I love Chernoir
I love cafe
I love midnight dance
I like to go for a drive and ride
I like to go for promnade
With my girl friend
And have bit love 
And silence love verse with her
And  could her let me say
I love you so Oh yah
La lala La la la...

 


 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 


18มื้อสุดท้าย


 

 

18มื้อสุดท้าย(6433)

หลักการและเหตุผลของนวนิยายเชร์นัวร์ตอนนี้
กล่าวคือ
"ชื่อตอน มื้อสุดท้ายนี้มิใช่ภาพวาดคลาสสิคอันโด่งดัง แต่มันเป็นนวนิยายขาร์นัวร์ที่นำชื่อนี้มาประยุกต์ใช้ในวนิยายชื่อนล้องกันโดยบังเอิญ ตอนนี้เหตุผลทำไมจะแจ้งทีหลัง

ตอนนี้ก็ยังหนุนความคิดให้ลิซ่า
เพราะพบว่าเธอแต่งตัวสวยมนแอป อินสตาแกรม
เปิดดู
จากไม่เคยเปิดดูอินสตาแกรมทุกวันก
ลายมาเปิดทุกวันเลยตอนนี้เพื่อดูลิซ่า
ทำใหนิยาย"เชร์นัวร์ "ของคุณวิขับเคลื่อน
เพื่อให้จบก่อนส่งบททำเล่มหนังสือและทำภาพยนต์ต่อไป

มันเป็นปรากฏการณ์ใหม่


จึงเขียนบทเพลงไว้ในตอนนี้

ให้ชื่อว่า

"When the flower cry."

 

The big rain comes

The big rain comes

The big rain comes

The big rain comes


Every one laugh and joy

Every one laugh and joy

Every one laugh and joy

Every one laugh and joy


Oh Lisa bring money to us more

The money

The money

The money

The money


When she gives it away to me
I then will spend it all

 

For a happiness of the day
So so we can enjoy life together
Even more
Evenmore
And over more

And surely we will back to travai(work)
And sleep eat dream
More and more


Then money money money
Lisa will bring again

Oh oh it is a wonderfull world indeed
I Have never seen

Oh yah

Oh tah

Oh yah.....

La la la
la la la
la la la

End


ก็ชาร์พูดถึงลิซ่า เพราะชอบและรัก(FC)
ให้คะแนนมากเลยตอนนี้ มิใช่อ้างมาเพื่อ
การแพร่"เชนัวร์" หนังสือคุณวิ(นางเอกเรื่องนี้ที่จะตั้งเจนเป็นแทนแต่ไม่มีอะไรกับพระเอกพ่อหม้ายอย่างชาร์)แต่รออยู่ซึ่งตายไปแล้วที่ชาร์แก้นิยายเพื่อผลิต(productive materail)อยู่นี้
ก็ชาร์มีมอรัลเลียหนักพอที่จะไม่หวังคนติดตามจากการกดlike กดshareตามกระแสนิยมของลิซ่าแต่อย่างไรไม่ ส่วนจะมีส่วนเกินเพราะเหตุอื่นอันนี้ก็ชาร์ขอยกไว้

ลิซ่า เค้ามีอัตลักษณ์นะ่ แต้มปากสีแดง
แน่นตัดด้วยสีผ้าสีหนัก อันนี้"สวย"
จริวๆนะ่ ไม่รู้ว่าใครสอนแนะอย่างไร
พบว่าชาร์เ องตอนไปปารีส


เคยไปแล้วคลั่ง่สนิยมฝรั่งเศสเช่นจนาดไม่มีเงินเลยที่ซุกหัวนอนแทวจไม่มีสถานะ
ยังกล้าซื้อนาฬิกากาเตียร์(Catier)มาสวมเล่นเลย ถามว่าขาร์เอารสนิยมนี้มาได้อย่างไร ตอบว่านงเพราะ"เลือดศิลปินรักศิลปะมั่ง"
กลายคนเย้ยเมื่อชาี์ทำตัวอย่างนี้
แต่ก็เงียบไปเมื่อพบคสามจริงบางอย่าง
ซึ่ง(ชาร์เองก็ไม่รู้ว่าอะไร และทำไม แต่มันเป็นเข่นนั่นเอง)
สรุปเป็นอัตลักษณ์


เปิดทีไรหน้าสื่อตอนนี้เจอแแต่ลิซ่า(01/11-21) ก็เลยอุทิศหน้าเขียน
ให้ลิซ่าไปเลย พักสายตา เพื่อนติดตามทั่งใต้ดินบนดิน นิรนาม ตำรวจลับ และคนคน
ตาถั่ว ที่ติดตามเขร์นัวร์


ชาร์เอในอมีับส่าวานเจีสนืั่งหมด

เป็นอัตลักษณ์และไม่ค่อยทันสื่อ
แบบดิจิตอล

งาน
เลยออกมาบางครั้งทื้อๆ แต่อาศัยความที่ตน
อยู่ในโลกใบนี้มานาน และคุ้นและมีประวั
ติ

มีสถาบัน มีอัตลักษณ์และมีกำลังใจจาก
กวี(ลีเดียน้องของบอริส ผู้เขียน ดร. ชิวาโก รางวัลโนเบิล (Poet าศัย sister of Boris Pasternek of the novel : Dr.Zchivako Noble prize winner AD.1958 )ให้กำลังใจและปลูกฝัง
เมื่อเราเคยอยู่ด้วยกันและนับถือกันมากที่ เมืองมหาวิทยาลัยออกร์ฟอร์ด อังกฤษ

จึงก่อนตาย" เขียนๆวาดๆทำๆ"ไปอะไรก็ได้
ที่มันดีและไม่เดือดร้อนคนอื่น "จงทำ"


และเพราะอาชีพ นี้แจ้งเกิดมา "ชาร์จึงเป็นอย่างนี้"
ก็เอาเท่านั้นความจริง ถ้าชาร์เซ้ดมากไปจะกลายเป็นหญิงเจ้าปัญหาอย่าง"เจน"ที่มีสงครามกับดามุกเพราะเธอคิดมากแต่คิดเป็นในนิยายนี้นั่นเอง.

เจนบอกว่า พวกดามุกรีดไถ หลังยาวขึ้เกียจ แม้โลกพัฒนาไปมากแล้ว จนาดจะใช้โทรจิตแทนโทรมือถือได้ แต่เห็นเหมือนเดิม นิสัยคนไม่เปลี่ยน แต่ตายไปมาก
คนล้มตายทุกวัน ดามุกตายทุกวัน เห็นมี
ยาฉีดกันมดและยุงตราใบกอน(Bygon)
ของเยอรมันเท่านั้นที่ใช้ได้
"เจนยืนยัน"

ทันทีที่เจนพูดจบ ชาร์เงียบ เพราะชาร์เองเรียนเสียสูงแต่ยังไม่เข้าใจว่า การพัฒนาคืออะไร ดามุกคืออะไร ดามุกตัวมันเป็นอย่างไร แต่ชาร์ก็สงวนท่าทีกับเจนไว้ด้วยวิธี"เงียบและรับฟัง"

ขาร์ถือว่าปรัชญากรีกคือสิ่งที่ทัาสมัยและยังใช้ได้ นอกนั้น ชาร์ไม่มีความคิดเห็น

"ชาร์กกล่าวต่อ"

ก็คนสมัยนี้พยายาม โตกันมา ก็ไม้พ้นนสามสุข เกียรติและเงินที่ทุกคนหวัง ส่วนนอกนั้น
เช่นมอรัลเลียยังคงมีน้อย เชื่อว่า
ถ้าคนมีมอรัลเลียมากขึ้น วัตถุคงสร้างกันแบบอยู่คงที่ เพราะโลกมีพื้นที่จำกัด ตึกสร้างสูงมากแล้วก็มีปัญหา แต่ว่าสร้างไม่สูง ความต้องการของคนก็ปฏิเสธเสีย  ชาร์สรุป"ความต้องการของมนุษย์ไม่มีที่สิ้นสุด"

ยังมีความเร็วกว่า"ควอนตัมและโฟตอน"โทรมือถืออีก "ชาร์เชื่อ"
เพราะคำว่าพอไม่มีของนุษย์ชาติงัย
ชาร์จำได้ตฝตอนเรียนมหาลัยสอบตกวิทยาศาสตร์จนถูกรีไทร์และเมื่อคิดได้ไปเรียนมหาลัยต่อก็จบ "วิทยาศาสตร์จึงเสมือนสิ่งที่ชาร์ไม่กลัวมันแล้ว ขาร์เข้ามั
นมันแล้ว ชาร์พบว่าที่สอบวิทย์ตก เพราะาร์ตอบโจทย์ไม่ตรงคำถาม และใช้เลขคณิตคำนวณวิชาฟิสิกส์ช้าเกินไปที่โจทย์ครูถามครูถาม เพ่าะว่าชาร์ไม่สนใจเรียนเลข
เพราะอ่านประวัติไอนส์ไตน์ๆเขาก็อ่อนเลข
เช่นกัน จึงไม่สนใจเลขตามไอนส์ไตน์

สรุปตอบปัญหาตรรกะก็สอบผ่าน
ชาร์สอบวิทย์ปีหนึ่งขนิดรวมหมดวิทย์ทั้
งหมด มีชีวะ ฟิสิกส์(เรื่องมวล แรง  เวกเตอร์ คำนวณวัตถุ และระยะทาง เวลา การเทียบสัดส่วน พีชคณิต ในระดัยบวัยมหาวิทยาลัย) ร่วมกันคนสอนระดับศาสตราจารย์มีสายสะพายทุกคน แต่ข้อสอบมากมายแต่หน่วยกิตการสอบนิดเดียว สุดท้ายขาร์สอบผ่านจากปรัชญาที่ว่า
"ความพยายามอยู่ที่ไหนความสำเร็จอยู่ที่นั่น"

ยังนึกเสียดายเวลาเลย คือที่ตกเพราะตกชอบตอบปัญหาแบบดื้อตอบไม่ตรงคำถามของครู
คือตอบตามอัตลักษณ์ของตนเอง แต่ไม่ตอบตามอัตลัก๋ษณ์ ของครูและแบบโชคดีที่ตนเองคิดได้ทันไม่สายที่แก้ตัว

เจนบอกว่าดามุกชอบทำผีเข้าทำลายสมาธิกลุ่มเป้าหมายที่เขาจะทำลาย ดามุกเค้าก็มีปรัชญาเช่นคนนักรบเข่นกัน "คือที่ว่าไม่ชนะด้วยเล่ห์ก็ต้องชนะด้วบกล ไมชนะด้วยมนต์กก็ต้องชนะด้วยคาถา"ในสนามอละแนวรบในภารกิจสงคราม เพื่อให้ชนะในการรบ
นักรบต้องใช้มรรคทุกวิถีทางเพื่อให้ศัตรู
แพ้ ดามุกเขานำมาใช้ เจนยืนยัน


มีกัญชา ยาอี ยาม้า ดามุกไม่เข้าไปแทรกแซง แต่ก็มีการสมรู้รู้ร่วมคิดกันเหมือนกัน "เจนบอกมา"

และดามุกเขาจะพยายามตรอมใจหยื่อเป้าหมายให้ตายไวๆ ดูๆแล้วดามุกนี้เป็นพยาธิสังคมเอาเสียจริงเจียว
เจนกล่าว


ขออภัยคุณวินะ ที่อาเรื่องราวของลิซ่าเข้ามาในนิยาย "ชาร์พูด"
ก็เชื่อว่านิยายเชร์นัวร์ควจบลงหลังการแต่งตั้งให้เบนเป็นนางเอกคนต่อไปขอเรื่อง
ถ้าไม่พบงานที่วิซ่อนไว้ที่ใดอีกที่คฤหาสน์

"Lodging materail of Vivien"

อนึ่งขอประกาศเกี่ยวกเวสถานะดามุก
ในนิยายนี้ ผู้เขียนไม่ได้อ้างเชื่อมโยง
ไปยังครเลวถ้ามี หรือคนแกล้งเลวถ้ามีแบบดามุก
อันนี้เป็นคำให้การของเจนต่อขาร์ผู้เป็นนาย
เพราะว่าถ้าดามุกมีจริง มันคงขำกลิ้งแน่แน่ในโลกใบนี้
เพราะพฤติการณ์เลวทรามนี้เป็นป้จเจกบุคคล ปัจเจกลุ่ม มิได้มีตัวตนเป็นอื่น
ถ้ามีเป็นอื่นคือกลายเป็นอิทธิพลเป็นรัฐ คือปล้นเขามาเป็นรัฐ ถ้ามีก็เป็นคำถามทางรัฐศาสตร์ที่ตอบได้ว่ามันคืออะไรนิยายนี้ไม่เข้าถึงเรื่องนี้ แต่เรื่องนี้เน้นที่เหตุเกิดเฉพาะมิใช่สากล ฉะนั้นจึงไม่ไปเกี่ยวกับเรื่องอาชญากรรมและการเมืองแผนสกปรกdirty trick operationของใครแต่อย่างใด เช่นสถานะสงคราม หย่วย KGB CIA สายลับรัสเซีย อเมริกา หรือสันติบาลทุกชนิด ที่เราเคยดูหนังอ่านเจอในข่าว
เพราะว่าเขาเหล่านี้ทำงานในระบบรัฐะ
แต่ดามุกนี้มิใช่
ไวกิ้งเป็นโตรสลัดแล้วมาสร้างเมือง
อันนก็เป็นมีคำตอบในรัฐะแต่ดามุกมนนิยายเชร์นัวร์นี้ไม่เกี่ยวกัน


จึงประกาศให้ทราบใยที่นี่ อละคุณวิก็ยืนยันมาอย่างนี้ในการเขียนนิยาย

มาที่ คนกดชอบกดติดตาม ผ่านทางมือถือ

ชาร์พบว่าลิซ่าเจอตัวนี้กดเป็นล้านๆครั้งต่อวินาทีทั่วโลก คงจะทำให้มือถือเหนื่อยไม่ใข่น้อย
เพราะชาร์พบว่าตอนเหงาที่แก้นิยายให้คุณวิ ชาร์ก็ติดตามแอปวีซิง"Wesing" ของT encent.คอม
พบว่าเพลงแก้เหนื่อยและช่วยผ่อนปรน
ความเครียด ชาร์จึงเล่นตัวนี้ช่วงทำงาน
พบว่ามีการกดชอบกดติดตาม ชาร์พบว่า
มือถือเกือยจะกระเด็นจากโต้ะไม้สักที่รอปลวกมือขีพมากัดกิน


มือถือลั่นสั่นเตือนจากคนกดชอบกดติดตามกดชวนกันมากมาย 
แต่ชาี์ไม่มากเท่าลิซ่า


ถ้ารายของลิซ่าคงมีคนกดกันเป็นล้านคน
วพร้อมๆกันนี่เนี่ยะน่ะ


มือถือของลิซ่าคงจะแทบระเบิด
แย่
เพราะชาร์พบว่าจากวีซิงก็น่าดู

กรณีเแม้มือถือเกรดดีจะไม่ร้อนก็ตามหรือ
ถ้าปิดไว้


แต่ถ้าเเปิดไว้ 
มือถือของลิซ่าคงเต้นได้
กระโดดได้
แนน่นอน

เพราะพบว่าคนนิยม"ลิซ่า"มากมายนักเป็นประวัติศาสตร์ทีเดียวนะ่(2021)in Instagram..

ก็ดีแล้วละะที่มนุษย์ชาติเริ่มเห็นสัจธรรม

ขอวเพลงและมนุษย์ แทนการจมปลักในโลกมนุษย์ป่าเถื่อนที่ไม่รู้จักเสียงเพลงเอาเสียเลย และมิหนำซ้ำคนที่ไม่ให้โอกาสคนรุ่น
ใหม่ได้ไขว่คว้า ชาร์คิดว่าน่าจะคิดทบทวนดูอีกครั้ง
ว่าการคิดลบอย่างนั้นถูกหรือผิด


จบตอนนี้ด้วยเพลง

มื้อสุดท้ายแห่งเพลงชีวิต

When I am alone
When I am lonely
When I am only one

Only music song s can let me go
For any any
And any thing

Water eart nature want let me go
Better song and music
Oh I love song
I love Lisa
I love Chernoir
I love cafe
I love midnight dance
I like to go for a drive and ride
I like to go for promnade
With my girl friend
And have bit love 
And silence love verse with her
And  could her let me say
I love you so Oh yah
La lala La la la...

 


 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 


ตอนที่20นิยายเรื่อง:เชร์นัวร์"งานเข้า" แล้วชาร์เดินไม่รอดต้องพยาบาล
ในทรัสต์ที่คุณวิเมียหลวงที่ตายไปแล้วด้วยโรคหัวใจ วิไม่ระบุว่าให้ชาร์นำเงินๆไปใช้รักษาตัว
ชาร์จึงมีงบจากประกันอบัติเหตุรักษาตัว
ซึ่งไม่ค่อยพอจึงไม่ได้จ้างพยาบาลพิเศษมาดูแลช่วงที่คนป่วยพึ่งตนเองไม่ได้เอาไว้
จึงร้อนถึงทาสคือคุณเจนต้องมาทำหน้าที่
พยาบาลจำเป็น ผลคือชาร์ต้อวเรียกทนายมาปรับปรุงสัญญาที่ชาร์เคยทำไว้กับคุณเจนใหม่
ระบุเพิ่มเติมในนิยายว่าให้พยาบาลสามีคุณวิด้วยช่วงสามีคุณวิป่วย....

ก่อนตายชาร์อยากวิเคราะห์ว่าทำไมสามีตายของครอบครัวตายก่อนก่อนกันชนิดไม่ใช้ข้อมูลบุคคลที่สาม
ความผิดพลาดของการตัดสินใจในการดำเนินชีวิต

และทำไมคนทำผิด...
คิดได้จะบอกเอกตั้งให้เจนเป็นเพื่อนคูคิด
โดยไม่มีความสัมพันธ์ส่วนตัวเชิงลึกอะไรกัน
และชาร์ปฎิญญาว่าจะไม่ร่วมเพศกับใครอีกจนกว่าตายแล้วไปเกิดใหม่และได้พบกับวิเมียหลวงหรือนางเอกของเรื่องนี้อีกครั้ง
หรือจะเน้นลบเวรและทำแต่ความดีเจตนาดีแม้นิดหนึ่งที่ทำได้เแล้วตายไปไม่เกิดอีกเลย และจะผิดหวังอย่างไรก็ไม่คิดฆ่าตัวตาย
แม้จะหลงกลพวกผีดามุกเข้ามาสิงร่างให้มีอันเป็นไปในคราบของการเมืองรัยๆในมุมมองของปัจเจกชน และชาร์จะเน้นคุณธรรมที่เคยทำ
เป็นข้อต่อรองในการรอดอยู่และาำคัญเสมอว่า
"สิ่งผิดพลาดต้องมีการชดใช้จึงถูก ถ้าไม่มี
สวรรค์เท่านั้นจะลงโทษให้"
ชาร์มั่นใจ
และชาร์เชื่อว่าอุบัติเหตุรักนอกจอกับเจนที่ดามุกมีแผนทำจะไท้เกิด
ขึ้นเด็ดขาดเพราะคนทีอาหารที่กินและความอบอุ่นที่มีเป็นตัวกำหนดสรรพสิ่งและชาร์มีสองอย่างนี้อย่างเรียบง่ายและมีชีวิตที่ไม่โลดโผน
เชื่อว่ามโนปณิธานของตนเองคงมีศักดิ์และมีสิทธิ์
ที่จะทระนงในความเป็นมนุษย์ของตนเองได้
แม้ชีวิตจสั้นลงทุกๆวันก็ตาม

และชาร์เชื่อว่า"ฝนบนฟ่าที่ตกลงมาบนพื้ยผิวโลกนั้นเป็นการควบแน่นของมวลอากาศจึงเป็นมิใช่มนุษย์เป็นผู้สร้างฝนเสมอไป แต่ที่เป็นมันเป็นกฎของธรรมขาติและปฏิกิริยาของมวลอย่างแท้จริงเท่านั้น"





เพราะเมื่อต้องกินและต้องรักษาตัวมีของเก่าเป็นทรัพย์สิาส่วนตัวอะไรขายได้ก็ขายไป โดยไม่แตะต้องพินิกรรมของทรัสต์ที่คณวิทำไว้ให้
ก็จะขายไปเพราะคนเราตายแล้วเอาอะไรไปไม่ได้ถ้าเหลือไว้1พวกดามุกจะต้องเข้ามาครอง
เราจึงทำเสียก่อน
2.กันการตายอย่างอนาถและคนดูถูก
ชาร์ตัดสินใจปฏิบัติตามนี้เชื่อว่าทุกสิ่งรอบข้างตนเองต้องลงตัวได้และประหยัด และมีอะไรดี
เหมาะเจาะก็ทำทันทีคำว่าสายไม่มีสำหรับปทานุกรมชีวิตของชาร์
เพราะเชื่อส่ารถยนต์ต้องมีคนขับมันจึงจะวิ่งได้
แลดถ้าขับมันอย่างไม่ประมาทอีบัติเหตุคงไม่มี
ส่วนสติขณะขับอาจเผลอบ้างอันนี้มอบให้ประกันภัยทำสติแทนให้ชีวิตของฉันคงไปได้สวยก่อนตายลงอย่างสงบและเรียบร้อบและ
ไม่เป็นภาระแก่คนรุ่นหลังและชาร์เชื่อว่า
คนมาจากดินและกลับไปสู่ธาตุดินอีกอย่างนี้เป็นวัฏจักรไม่มีใครเลี่ยงได้ การตายของคนนั้นไม่อมตะแต่คุณธรรมของการตายนั้นแลอมตะ


พอดึกมากช่วงน้ำท่วมไหลหลาก
ที่เมืองชาร์มัวร์ เสียวรถไฟวิ่งผ่านถี่ขึ้นปกติไม่มี
ในยามดึกเพราะตารางเดินรถเปลี่ยนไปเพราะทางรถไฟตัดขาดจากกระแสน้ำพัดพา
ชาร์ตึงคิดได้ว่า"ขีวตคนเราก็เหมือนรถไฟ"
แต่นิยายเชร์นัสร์นี้มิใข้นิยายชีวิตจริงรัยแต่ชาร์ตั้งใจให้เป็นวรรณกรรมทางเลือกใหม่เท่านั้น
เขียนมันขึ้นเพราะงานเก่าคุณวิทิ้งไว้ให้แก้และชาร์
เติมเต็มบางส่วนมันเข้าไปหากจำเป็น ตามปัญญามีและที่าำคัญเมื่อตนเองว่างจากเรื่อง"โน่นนี่นั่น"ของวันเวลาที่ผ่านไป
ในทุกวันที่กระท่อมเชร์นัวร์และคฤหาสน์ชาร์มัวร์นี้เท่านั้น
ชาร์ตั้งชื่อเรื่อวนี้ว่าเชร์นัวร์เพราะให้เกียรตินักการเมืองดังของโลกท่านหนึ่งคือเช กุวารา
the Guvara นักรบชาวอเมริกาใต้อดีตอณานิคมสเปนที่ทำตัวแบบทำสงครามกองโจรอันทรหดอันเป็นแฟชั่นในยุคหนึ่งและถูกสังหารในที่สุด แต่ชาร์มิได้หมายเอาการเมืองและปรัขชญาของท่านผู้นี้มาเป็นปรัชญาขอ
งงานเขียนเรื่องเชร์นัวร์ของตนเอง แต่ชาร์เพียงนำแฟชั่นการใข้ชีวิตทรหดคล้ายผู้นำสงครามกองโจรท่านผู้นี้ให้มาในปริบทในการใช้ชีวิต
ของชาร์หลังคุณวิตายไปเท่านั้น

จากเหตุการณ์ที่ดามุกคุกคามสังคมชาร์มัวร์ที่เพิ่งรู้ว่ามีจริงจาก
เจนทาสผู้สวามิภักดิ์ของตนเองว่า"ดามุกมันมีอยู่จริง
แม้ชาร์คาดว่ามันคงเป็นอุปราการและปรากฎการณ์ทางสังคมที่จะมากกว่าที่มีมากกว่าปกติ


ที่ชาร์หรือเจนไปนำมาคิดมากเสียเวลาเปล่าแต่ชาร์ก็รับฟังที่เจนเล่ามาแต่การรับว่ามีอยู่จริงหรือไม่มีอยู่จริงชาร์ขอตัวคิดอีกที แต่ไม่บอกให้เจนรู้
เพราะถ้าบอกให้เจนรู้เจนก็จะไหวทัน จึงไม่เล่าอะไรให้ชาร์ฟังอีกและทาสเจนจะไม่มีเรื่องจะคุยด้วยเพื่ออารัมภบทในการปฏิสัมพันธ์ต่อกันระกว่างนายกับบ่าวไปเสีย

เจนพูดว่า" ดามุกนี่มีอยู่จริงนะค่ะ"
ชาร์ตอบว่าด้วยท่าทีอมยิ้มรับ
แต่ไม่ปฎิเสธว่ามีหรือไม่แฃะคิดในใจตนเองต่อไปว่า

"ก็ถ้าเจนอยากเล่าอะไรให้ผมฟัง เมื่อคุณมีอาหารอิ่มท้องมีรสชาติมีแรงเล่าให้ผมฟังผมก็ยินดีรับฟังต่อไปงัย"
ชาร์กล่าวต่อ

"ส่วนสมองและปัญญาผมอาจจะสะสมอาหารมื้อที่ชอบโต้แย้งและวิพากษ์อะรัยที่มีอยู่ในลำไส้"ผมจึงเป็นกับคุณอย่างนี้คือเงียบ"
"เจนผมต้องขออภัยน่ะ"
"ถ้าคุณเข้าใจผิดผม"
ชาร์ย้ำอย่างมั่นใจ



ขาร์พูดให้ตนเองฟังอยู่ในใจแย้มที่ชาร์บอกผ่านสายตาไปสู่เจน
"
เจนก้มหน้ารับฟังชาร์พูดผ่านสายตาอย่างพินิจและก็จากไป.....

เจนกินอาหารชั่นเยี่ยมทุกวันเธอผ่านตลาดนัดทุกวันเธอมีเงินใช้ฟุ่มเฟือยจากเงินเดือนจากคฤหาสน์ที่ทำหน้าเป็นทาสของชาร์
แต่ชาร์นั้นกินข้าวต้มปลาเค็มและขนมปังปิ้งมื้อเช้ากับไข่ลวก1ฟองทุกวัน
และมีเนื้อกินวันละ1ขีด ของหวานเป็นผลไม้
กล้วยสุกและผลเบอรี่แก่ดำสุกงอมคาต้นทุกวัน
เป็นอาหาร
แต่เจนกินองุ่น แอปเปื้ลเหล้าไวน์นอก
อาหารทะเลทุกวันทุกมื้อ
จนพวกดามุกอิจฉาและเข้าใจผิดว่าเจนทำกับข้าวให้ชาร์กินทุกวันนอนกอดกันเมื่อเหนื่อย
ชอบบีบข่วยคลำมห้เมื่อชาร์ผู้เป็นนายต้องการแบะร้องขอ แค่ดามุดมองเจนผิด
เจนไม่เคยเข้าห้องครัวของชาร์แม้วันเดียวเมื่อมาทำงาน
และห้องครัวของชาร์เป็นเขตหวห้ามสำหรับเจนอีกด้วย ขณะที่เจนมาทำงานที่คฤหาส์ชา
ร์มัวร์ทุกวันแม้ในยามที่ชาร์ป่วยหนักก็จัดห้อวึรัวเฉพาะและเขตจำเพาะใหม่สำหรับเจนจะพยาบาลชาร์อีกด้วย

แค่เจนก็ไม่เคยเล่าให้ใครรู้ถึงสถานการณ์ที่คฤหาสน์ชาร์มัวร์แม้นิดเดียว


เพราะเจนมีปรัขญาที่ว่า"ความในห้ามนำออกความนอกห้ามนำเข้า"ขณะเจนมาทำงานที่คฤหาสน์
แต่ที่เจนพูดพาดพิงถึงดามุกนั่นมันเป็นการพูดเชิงจินตภาพและคุยกันทางมือถือถึงพฤติการณ์ที่ต้องเฝ้าจับตาระวังของางคมชาร์มัวร์เท่านั่นที่เจนและชาร์คุนกันมีเท่
านั้น หลายคนคงงแต่จะเปิดเผยรายละเอียดต่อไป


คุยไปคุยมาเรื่องของเจนและดามุกที่เธอมารายงานให้รู้ในราคาจินตภาพ ทำให้ชาร์ต้ิงกลับไปเปิดตำราสมัยเรียนที่มหาวิทยาลัยอีกครั่งอีก
ครั้ง

แต่ชาร์ก็แบ่งรับแบ่งสู้ไม่กล้าโต้ตอบกับเธอว่ามานั่นมันมีมูลหรือไม่มีถ้ามีมูลก็ต้องไปดูว่ามันเป็นวิวัฒนาการของมนุษย์ตามสูตรของดาร์วินนักปรัชญาชาวอังกฤษว่าด้วยธรรมชาติที่ใครๆก็เรีย
นมาชนิด3หน่วยกิตอย่างต่ำในมหาลัยหรือมันเป็นสันดานของคน
ชาร์คิดหนักเมื่อเดิมทีคิดว่าที่เจนนำมานั้นเป็นเพียงเธอคิดมากแล้
วหาเรื่องคุยกับนายเชิงวิพากษ์แต่ตอนนี้เจนเท่านั้นที่ทำให้ชาร์หายใจต่อไปได้เพราะชาร์มีอุบัติเ
หตุนอนแคร่และพยาบาลคือเจนดูแลหยอดเข้าต้มทุกมื้อให้

ชาร์เองคิดว่าปัญหาทุกอย่างมันเป็นองค์รวมนะ่
คือโลกที่เราเห็นนี้ทุกวันนี้มันเป็นเช่นนั้นเอง
คืออยู่ด้วยกันได้แบบมีดีมีชั่วปนกันไปตามที่เพลงร้อง

มีให้ฟังและก็สนุกดีเพราะมีดนตรีบรรเลงเสริมจนบางครั้งที่อารมณ์นึกอยากฟังเพลง
ชาร์ยังไม่สามารถปลงใจได้เลยยว่าเพราะคนร้องหรือดนตรีที่ทำให้คนเราชอบฟังเพลงที่ร้ิองนั้นในจุดนี้ชาร์ตอนนี้
ยังหาข้อสรุปไม่ได้

ชาร์เกิดมาจากสกุลอกสามศอกทำมาสุจริตไม่เคยปล้นใครกินและมีฐานะต่อมาแบบสัมมา
และชาร์เกิดมาในยุคที่ตนเองเป็นเด็กในพานทองแล้วและไม่เคยรู้เลยว่า
แรงงานนั้นคืออะไร จนกล่ยเป็นทายาทแบยบนหอคอยงาช้าง หลังรัยมรดกเลือดก็รู้อย่างเดียว
ว่าเมื่อมีเสียมีสูญอะไรก็มีสิทธิทวงถามเอาคืนได้
ทำโทษคนผิดบำเหน็จคนถูกเป็นกฎหมายให้ยึดมั่นถ้าตัวนี้พลาดไปเกิดสงครามและสังคมวิกฤติแน่นอนเพราะความเที่ยงธรรม
แต่ก็ไม่ชี้ว่าดามุกผิดถูมีจริงไม่มีจริงในโลกตาม
ที่เตนเสนอมาพอดีชาร์มารู้ทีหลังอีกว่า
เจนมีขีวิตเหมือนชาร์ทุกประกาต่างแต่ความเป็นเพศเท่านั้นและไม่มีผัวอย่างที่ชาร์มีคุณวิให้เป็น
อย่างสถานะของชาร์ตอนนี้
เท่านั้นจากที่เจนเป็นทาสตามสัญญากับชาร์และคฤหาสน์ชาร์มัวร์และชาร์เป็นนายตามสัญญาของเจนด้วยเวินทรัสต์ขอวคุณวิตามกฎหมายเริ่มแรกแต้ตอนนี้เจนมีสถานะเพิ่มเข้ามา
คือเป็นพยาบาลและชาร์เป็นคนป่วยติดเตียง
ที่อดีตชาร์เคยเป็นพระเอกแบยพระนางต้องห้าม
ของเจนมาเป็นชายที่เจนสามารถจับถูกแตะลูบคลำคัวชาร์ได้ในฐานะคนป่ว
ย และขาร์เคยคิดไว้ก่อนอุบัคิเหตตุว่าจะตั้งให้เจนเป็นนางเอกแทนคุณวิที่ตายไปแต่ไม่ทีเพศสัมพันธ์กันและไม่จดทะเบียนสมรสส่วนมิเมย์และหิมะนั้นทำหน้าเสมือนเป์นเมียชาร์ก็จริงแต่มิเมย์และหิมะเป็นสัตว์จึงเป็นนางเอกไปแสดวหนังไม่ได้หนังจะสมบูรณ์ได้ต้องมีพระเอกและนางเอกคือคู่พระคู่นางให้คนชมดูนิยายที่เป็นหนัง(ภาพยนต์)นั้นๆจึงจะสนุก



เอาละมาที่แนวคิดเชิงคลาสสิก(โบราณบานบุรีโป้น)ของชาร์ที่เรียนมาคือ
แนวคิดปรัชญาบางอย่างของท่านเบอทรันต์ที่ว่า
สังคมเรานั้นมีเรื่องจะพูดหายเรื่องต่ถ้าพูดแล้วมันจะไม่สนุกเสพเห็นโดยสัวคมเหมือรกับว่า
ดูหนังรู้ว่าตอนจบพระเอกกับนาวเอกจะแสดงบทใดต่อเราก็ไม่อยากดู"ใช่มั้ย"
แค่ถ้าปิดแบะปล่อยวอบแวมๆทำให้คนอยากดูเพราะสงสัยไปคนเอาเองนะเจน มันยังงัย
ตามแนวปรัชญาของท่านนี้แต่ชาร์เข้าใจมาอย่างนี้ตอนเรียนอบบนิรนัยน่ะ

แบะก็สังคมยูโทเปียของมอร์(บรรไดสวรรค์และขนขั้นของมนุษย์หรือสังคมแบยรัฐในจินตนาการหรือรัฐในอุดมคติ
แนวคิดนี้เจนต้องไปดูเองนี่คือสิ่งที่ชาร์เข้าใจ
รวมทั้งแนวคิดหลักเหตุผลศาสตร์และตรรกศาสตร์อันเมามันส์สำหรับคนขยันคิดประจำยุคใหม่หรือยุคแบบทุกคนประเทศอาจจะมีอาวุธนิวเคลียร์คอยจ่อเชือดคอหอยโจรไว้พร้อมสรรพ์พร้อมและรอปฏิบัติแต่อาจปกปิ
ดไว้(ชาร์เดาเอา)กลัวทุเรศนึกขึ้นมาอย่างยุคนี้งัย


และแนวคิดของท่านทอยบีย์นักปรัชญาอังกฤษเข่นกันแนวคิดเรื่องการกลับสู่จุดเดิมที่ชาร์เข้าใจคือ cyclical theory ชาร์เชื่อว่าเป็นพลวัตร ทางประวัติศาสตร์และการซ้ำที่ชาร์เข้าใจอีกแนวคิดแบบ Bryondว่าทุกสิ่งๆสิ่งจะกลับมาจุดเดิมหมุนกลับไปกลับมาหรือมองเป็นลูกโซ่ก็ได้(ชาร์เป็นเพื่อนกับหลานนสาวท่านคน
หนึ่ง(ปกปิดชื่อ)เมือเรียนที่อังกฤษตรงนี้พอชาร์เล่าถึงเจนยิ้ม) คิดแบบ"บียอน"นี้อย่างนี้ถือเป็นมุมมองของชาร์มีอย่างนี้ต่อท่านทั้งหมดที่อ้างมาเพื่อมาดุลย์ปัญหาของเจนที่เสนอมาเรื่องดามุกและอื่นๆ



แค่ปัญหาดามุกอิจฉาเจนมีรถจักรยานยนต์สะดวกใช้เพื่อไปๆมาๆเมื่อเจนเผลอดามุกเอาาปูโยนทิ้งไว้ให้รถของเจนยางรั่ว มีปัญหากับเจน
ต่อมาและเจรู้มีแผนดามุกแกล้งอันก็แฟกเตอร์หนึ่งที่จะวิเคราะห์ต่อไปของเจนน่ะสำหรับชาร์นั้นถือหลักคือเมื่อผิดทำโทษถ้าถูกบำเหน็จไม่มีข้อละเว้นและกฎมอรัลเลียและกฎการชดใช้ และกฎถ้าผิดแก้ให้มันถูกถ้าถูกอยู่แล้วปล่อยให้ทมันถูกต่อไปอย่าไปแตะและเสือก ลัทธิทำอะไรแล้วทำไม่รู้ไมชี้ไม่มีอยู่จริง และลัทธิความลับไม่มีในโลกมีอยู่จริง ลัทธิการรับผิดชอบและการชดใช้และความยุติธรรม ลัทธิหนีไม่รอด ลัทธิฉวยโอกาสและด้อยโอกาส"ใช่"
เท่านั้นที่ชาร์เหลืออยู่ให้ชาร์ครอบครองเป็นตัวเจว็ดแห่งเทพเจ้าแห่งนครชาร์มัวร์ที่สมุติได้ในโลกสวรรค์และมนุษย์ต่อไปของนิยาย"เชนัวร์"ที่ปรากฏอยู่นี้
"ฟังจบลงเจนหัวเราะร่า"
เจนนำไปตรึกดูเพราะถ้าชาร์กล่าวมานั้นมันเป็น
ปรัชญาข้างๆคูเพราะนี่เป็นนิยายมิใช่ตำรา
ตึวต้อวงไปดูเทกต์อักครั้งแต่เจนเชื่อแน่ว่า
นิยายนี้ของท่านชาร์คงไม่มี"ลัทธิกินแล้วโกยแนบแน่อน"