วันอาทิตย์ที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2566

ลอร์ดลิเทล15(7872) "อิดี"

                 
        ลอร์ดลิเทล15(7872)
                  ตอน"อีดี"
                  (7722)
      อีกส่วนหนึ่งของหนังสือปริศนาเล่มนั้นที่ปกมัน!แม้ชิ่อหนังสือ!มันก็ไม่มี หรืออาจจะขาดหายไป " แต่ลอร์ดมิคานก็ไม่สนใจ" เรื่องปกและชื่อของหนังสือมากนัก นอกจากเนื้อหาและสาระสะดุดใจเท่านั้น ที่อยากสะกดตามว่า"มันมีอะไรน่าสนใจ"กับความเป็นไปของโลกภายนอกตัวเองในปัจจุบัน

        เมื่อลอร์ดมิคานพลิกกลับกลับมา  ที่ชิ้นส่วนของหนังสือจากที่ลอร์ดมิคานไปพบมา

มันไม่น่าขะทำตกหล่นในเทือกเขานี้เนื้อที่เทือกเขานี้มีตตั้ง1,000 เอเคอร์ สงสัยว่าจะเป็นงานจารกรรมชีวิตอัปยศของลอร์ดมิคานจากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งที่ว่างงานทำก็ได้หรือ ใครบ้านึกสนุกขึ้นมาจึงทำอย่างนั้น เพราะที่เขามีเทศบัญญัติว่า"เทือกเขานี้"ห้ามทิ้งขยะเป็นกฎหมายมีโทษหนัก""

      ที่จริงตาม ประวัติของลอร์มิคาน"ห้ามเปิดเผยคนอ่าน"ที่"หอแอกชีพประชากรศาสตร์"ของเมืองมิคาน"(archivedpopulation house science)อีกด้วย ชีวิตจริงในส่วนตัวมีสถานะมั่นคงมาก  แต่ไม่ยึดติดกับค่านิยมทสงสัตถุเหมือนใครอื่นเช่นใช้บัตรเครดิตธนาคาร เป็นต้น

       ท่านมีปราสาทของตนเอง อยู่คนเดียว เดียวดาย มีมรดกเป็นบุตรคนเดียว มีการศึกษา แต่ชอบใช้ชีวิตในนาม ชอบเป็นคนสามัญวิสัยชอบเป็นลอร์ดนิรนามชนิดนอกทำเนียบลอร์ด และไม่ชอบแสดงตน ชอบแสดงตนเป็นแทรมป์  (tramp)อย่างเจ้าชายกระบี่ไร้เทียมทานงั้น

     มีกลุ่มอนุรักษ์บางกลุ่มไม่เห็นด้วยและค้านต่อสถาลอร์ดแห่งมิคานแต่ถูกปัดตกไป เพราะอีกฝ่ายถือว่า"เป็นปรัชญาชีวิตของปัจเจกชนที่หายาก  และน่าศึกษามากกว่าชณะทีทสัวคมเกิดความเหลื่อมล้ำทสงชนชั้นวูงมากขณะนี้ที่เมืองมิคาน ปู้ที่ไม่เห็นด้วยอาจจะเป็นฝ่สยที่เสียผลประโยชน์อย่สงลับๆหรืออย่างเปิดเผยก็ได้  เพราะลอร์ดมิคานไม่ยอมเซ็นเอกสารใด ให้ใคร อะไรอีกที่เป็นนิติกรรมสัญญาผูกมัด  หลังท่านพ่อของลอร์ดมิคานคือดุกส์เควิน( Duke Kevin) เสียชีวิตลง

          หรือ"หน่วยจารกรรมอาสาพิเศษ" สนใจลอร์ดมิคานด้านพฤติการณ์กรรม มาหากินหยาดน้ำค้างที่เทือกเขาโอเฟตลอด เหตุชวนสงสัย ในเวลานั้นซึ่งมันแปลกมาก (weird)  จึงทำทีทำหนังสือขาดวิ้นหล่นไว้ที่ทางเทือกเขาโอเฟที่ลอร์ดมิคานเดินมาทุกวัน "เมืองโอเฟและเมืองมิคานและเมืองโนวา"มีพรหมแดนใกล้ๆกันแต่ในมุมกว้างและไม่สามารถเดินติดต่อกันได้สะดวกนอกจากเรือเฮลิคอปเตอร์(helicopter )เพราะ แต่ละเมืองมีแต่หุบเขามากมาย

   ฉากทัศน์ต่อไป  มาที่อีดี     อาการของป่ากูดี้มันเป็นเช่นนั้นคือชอบนุ่งผ้าบางๆแนบเนื้อฃอยตัวพลิ้วง่ายแบบปล่อยๆตัว ในบ้านหลังสามีคือพันต่ีมิค็อกตายลง  แกชอบเปลือยกายอยู่คนเดียสเสมอ แต่ปลอดสายตาคน เพราะป้าก๊ดี่มิๆด้เป็นเอกบิขั่นนิสต์(exhibitionist) =คนชอบเปิดเผยแสดงตนองแบบเปลือยๆแต่เป็นศิลปะ)

        ตอนเกิดเหตุ"อิดี"ปล้ำเธอนั้น เพราะ"อีดี"ตายใจ คิดว่าป้ากูดี้รักและชอยต

นในมุมมอง" แฟนซี ยู"(fancy you)

      ป้ากู้มั่นใจว่า "คนหลวไหลเท่านั้น ที่ใครอยากที่จะมีเพศสัมพัทธ์กับคนแปลกหน้า โดยไม่มิได้บอกล่วงหน้ามาก่อน "

      แต่ฉันจะไม่คบชู้กับใครอื่นอีก"ในใจของป้ากู้ดี้กำลังพูดตอบโต้กับอิดี ผ่านทางสายตาอันแข็งกร้าวและมีนัยตา"สีฟ่าหม่นป็นประกาย"อย่างเขียวปั้ด เหมือาตาเทพเจ้ากำลังดุและกำลังตะเพิดพวกพญามารเข้ามารบกวนลักพานางสนมของพระองค์ และกำลังหมมิ่นเหม่ต่อการถูกรุกรานอาณาจักรของพระองค์กระนั้น

         "อิดี"หน้าซีดเผือดสีหน้าฝาดเผือดเป็นสีเหมือน"ถั่วลิสงต้มสุกแกะเปลือก"  ทันทีที่ได้ยินหลายประโยคนั้นๆ

         และ"อิดี"ก้อไม่กล้าสบสายตากกับป้ากูดี้อีกเลย ถ้าจอนนั้นป้ากู้ดี  มีปืนอย่ในมือ  เธอคงยิงไหล่หนือบ่าของอิดีให้บาดเจ็บล้มลงแน่นอน (ปกติปืนอสตร้า.22(Astra. 22)ของป้ากูดี้มีจำนวน 1 กระบอกบรรจุกระสุนเต็มแมกาซิน(magazine) ตลอดเวลาพร้อมปลดล็อกเพื่อยิงป้องกันตนเอง

         ปืนนี้มันเป็นมรดกตกทอดจาก พันตรีมิค็อก แต่บังเอิญวันนั้นอยู่ที่ห้องนั่งเล่นห่างจากห้องนอนที่ชำรุด)สำหรับป้องกันตัวยามมีภัย อิดีจึงโชคดีไป

       " อิดี"ตอนนั้น แทบจะเอาหัวมุลงดิน  ตรงที่เกิดเหตุนั้น!  "แม้ผัวฉันจะตายไปแล้ว"

ป้าจูดี้ยืนกรานในความคิดที่ค้านอย่างแรงกับการกระทำของอีดีแบบนี้"การปล้ำและโอบกอดผู้หญิงด้านหลังแบบนี้แล้วใช้นิ้วมือ  จับผู้หญิงอย่างฉันขยี้บี้นมฉัน "เธอคิดว่าฉันจะเงี่ยนกนะสันต์นะ!"
เธอฝันไปหรือเปล่า

        "ที่ฉันไว้ใจอกเพราะเห็นว่าแกเป็นคณะของคนรับใช้ฉันนะ!  แม้วันนี้ ฉันจะนุ่งผ้าหลุดลุ่ย  กางเกงลิฉันก็ไม่ใส่นั่น! มืใช่ยั่วแกน่ะบอกก่อนนะอ้ายอิดี!  อ้ายพ่อหนุ่ม
          "ป้ากูดี้ สำทับตนเองว่า" ทำแบบนี้นั่น!มันเป็นวิสันของพวกโรคจิต หรือพวกกามวิปริตมีรสนิยมทางเพศแบบชุ่ยๆ น่ะ" ถ้าเธอเงี่ยนเพราะเหนื่อยมาก แกก็น่าจะบอกฉันตรงๆ !ฉันจะได้ให้เงินแกไปเที่ยวปล่อยอารมณ์ให้พอใจ ในที่เขามีผู้หฐหญิงแบบนั้น  แต่ในการทำแบบนี้มันไม่เหมาะ ทุเรศมากน่ะ!  เธอน่าจะสุภาพและเป็นคนกว่านี้
          ตอนนั้นพอเวลา เมื่ออิดีได้โอกาส อีดีจึงโอบกอดปล้าป้ากูดี้ ซึ่งป้สกูดี้ เธอนั่นสวยขาวนมยังเต่งตึ่ง อายุก็ยัวน้อย ไม่สมชิ่อที่คนทั่วไปเรียกสมญานามว่า"ป้ากูดี้" และสามีเธอตายไป5ปีแล้ว ใครเห็นาภาพนี้ ก็นึกว่าเธอนั้นเหงาอารมณ์ทางเพศเต็มที่แล้ว
         "ฉันไม่ใช่คนแบบนี้น่ะ" อนึ่งฉันมีเพื่นรู้จักเป็นท่านลอร์ดท่านหญิงก็หลายคนในชีวิตฉันๆจะไม่ให้ท่านเหล่านั้นเสียเกียรติท่านเพราะการกระทำขอวฉันเป็นหญับอกกอก
"อ้ายบ้า" ป้ากูดี้ด่ามันอยู่ในใจว่า:-
       "ฉันเสียใจมาก  ที่ไว้ใจมันเข้ามาทำหลังคารั่ววที่ชำรุดคาราคาซัง เพราะกิ่งไม้แห้งหล่นทับเมื่อคืนวาน  มันก็ใกล้จะเสร็จ มันป็นที่ห้องนอนหลังคาบ้านในยามวิกาลแบบนี้ และเห็นว่ามากัย"คนเดียว"ถ้ามากันหลายคนฉันก็คงไม่อนุญาตเธอเข้ามาทำแบบนี้หรอก
        วินาทีนั้น  ผลปรากฎว่าป้ากูดี้ได้ต่อสู้ขัดขวางไม่ยอมให้เจ้าอิดีนายช่างจำเแนเฉพาะกิจเล็กน้อยนี้
       " มันทำให้เธอตกใจมาก""
        จากมือกำยำสกปรกปูนซิเมนต์  ที่เอื้อมเชิงกอดปล้ำ ลวนลาม โดยมาบีบคลำหัวนมเธอแบบนี้ ที่ เธอไม่ได้สติและไม่ได้ตั้งตัวทัน และเตรียมตัวเตรียมใจมาแบบนี้" เธอคิดต่อไปอีก แบบพูดเองตอบเอง" นี่ดีน่ะฉันรูปร่างสูงสะโอดสะอง
         ฉันเป็นคนมีเนื้อมีแรงเพื่อเล่นยูโด(yod o =สำเนียงญี่ปุ่น) ได้ การต่อสู้ถ้ามีฉันป้องกันคนเองได้
         ยิ่งเจ้าอีดีนี้ตัวเตี้ยอย่างนี้  ยูโดสายดำอย่างฉันนี่"เธอหลังหักแน่ ถ้าฉันทำ"" อนึ่ง ถ้ามีเหตุร้ายแบยนี้เกิดขึ้นมา ถ้าเป็นข่าวไม่ว่าคนฝ่ายใดจะได้เปรียบเสียเปรียบ  "มันก็ขายขี้หน้าเค้าทั้งเมือง"เมื่อพากข่าวหน้าแรกในหนังสือพิมพ์ปรากฏขึ้นมา"ฉันไม่ชอบตกเป็นข่าวแบบนี้ นอกจากคำประกาศของศาล"
         และนมเธอก็แข็งตลอดไม่หย่อนยานนับแต่แต่งงานมาเ ป้ากูดี้จึงมีร่างทรงเซกซี่(sex s y )ไม่เหมือนคนทั่วไปหลังแต่งงานแล้ว  ไม่มีใครรู้ว่าเป็นเพราะอะไร  และสาเหตุหนึ่งคือคงจะ เพราะพันตรีมิค็อกไม่เคยจับนมเธอบีบคลึงขณะร่วมเพศกับเธอสักครั้งเดียว จะมีก็เพียงดูดอย่างเด็กทารกทำ
          อันนี้แม้จะแต่งงานและร่วมเพศเปิดพรหมจรรบ์แรกแห่งชีวิตของททั้งสองมา  ที่มีอะไรกันตลอเวลากันอย่างผัวเมียตามปกติ
           ถามเรื่องนี้ว่าใครบอกรู้ได้งัย! หรือนิยายเอาเองแบบมีอคติและมีการเมืองลี้ลับอะไรแอบแฝง.
            คำตอบคือ""ความลับจากบันทึกในมือถือที่เธอคุยสารภาพกับเพื่อนเก่าๆของเธอเอง
            หลังแต่งงานที่ป้ากูดี้พรรณนาเปิดใจออกมาหมด  เและเธอก็ไม่คิดว่าเพื่อนเหล่านั้นจะกดบันทึกการสนทนาทั้งหมดเอาไว้ (เพื่อนสนิทกลุ่มเธอสมัยโรงเรียนคือ"เคล-เดซี่-อีลา" จากโรงเรียนมัทธยม"สโนลา"เฉพาะเพศหญิงเท่านั้น(single sex school))เมื่อป้ากูดี้ถูกเพื่อนเก่าสมัยโรงเรียนถามมา เพราะป้ากูดี้เป็นสมาชิกเพื่อนในเซตรายแรกที่แต่งงาน  ก่อนเพื่อนทั้งหมดในเซตเดียวกันนี้ของโรงเรียนนั่นเอง
            บันทึกนั้นเมื่อถึงจุดพีค(peak) คือเมื่อตอนถึงจุดพีคที่เพื่อนเก่าที่อ่อนโลกมากถามมาคือ
           "คืนแรกที่แต่งงานทำงัยบ้าง "ต้องคลุมโปงแก้ผ้าเปลือยเปล่า และปล่อยเนื้อหนังมังสาสู้แสงไฟห้องนอน และฟังวิทยุไปพลาง ทำงัยบ้าง!บอกหน่อยได้ไหม! กูดี้  ? 
เจ็บไหม!สนุกไหม!  และป้ากูดี้เธอก็บอกเท่าที่เธอมีประสบการณ์  กับพันตรีมิค็อกผัวหล่อน ว่ามันเป็นอย่สงางนั้น  มันเป็นอย่างนี้ " อย่าครางให้มากหนวกหู"  ว่ามันเป็นอย่างนั้น มันเป็นอย่างนี้ แต่ไปๆมาๆเธอมาดันไม่มีลูก
          ไม่รู้จะทำงัยแบบธรรมชาติ  ประกันขีวิตอนาคตของม่หรทอ้าเงินในที่สุดป้ากูดี้ยืนยัน  ตอนมาพอมาถึงประโยค"ดันไม่มีลูก คือถ้าท้องจะได้  มรดกใช้เงินลูกได้ตามประเพณี" เพื่อนทุกคนกลับอึ้งกับประโยคนี้   และทุกคนกลับเงียบกริบกันหมด"เพราะต่างก็ไม่รู้เหมือนกันว่า
"เอากันอย่างงัย จึงจะมีลูกท้อวป่องออกมา"โดยคิดว่าไม่มีแผนเอาลูก  เป็นตัวประกันสักขีพยานรัก กันผัวมีชู้ง่าย และเอาสิทธิมรดกลูที่เกิดมารอดอบู่ มาเล่นได้ในอนาคต หรือรัย!
        "ป้ากูดี้ไม่คิดเป็นสีเทาแบบนั้นในเรื่องนี้""
           ตอนนั่นและตอนนี้เพร่ะป้ากูดี้แกก็แนโลกหเหมือนกันตอนก่ินแต่วงาน
           แกรู้อย่สวเดียวว่ผีวคือผู้เปิดพรหมจรรย์เธอเป็นแรกแบดห้ามมีชู้กีบใครเด็ดเจาดทุกกรณีมิฉเนั้นชีวิตสมราจะพีวทะลาและยอมเป=นข้าวเท้าหลังกับสาทีเสมอนี่คือตำราทฤษฎีที่เธอท่อวจำไว้ตงอดหบัวแต่งงารและรับสินสอดทอวหมง
           จากประโยคอุบาทว์ที่อิดีคิดว่า ตนเอง ไม่น่าจะได้ยิน และกล่าวกับตนเองว่า "จะมีอะไรสนุกๆกับป้ากูดี้สักหน่อย "ดันเป็นงั่นไป""ประโยคที่อิดีคิดว่าเป็นประโยคอุบาทว์สำหรับอิดี"นั่นก็คือ""
          "เธอจะทำอะไรฉัน ๆไม่เห็นด้วย
ทันใดนนั้นสิ่งนี้ก็ตามมาคือ
          ด้วยความไม่สบอารมณ์อย่างแรงองป้ากูดี้แล้วจึงซ็นเข็คมอบเงิน "ค่าแรงและไล่อิดีออกจากบ้านไปพร้มกับกล่าวว่า
         "นับจากนี้ไป"ยายเมทิลนางคนใช้ ที่นำเธอมาทำงานชิ้นนี้,"เขาด้วย"
        "ไม่ต้องกลับมาทำงานกับแกพร้อมนี่นะ่เงินค่าจ้าง"
          เอารับไปขอบใจมาก เดี่ยวฉันจะจัดการเองได้ในส่วนที่การซ่อมหลังคารั่วในห้องนอนของฉันนี่
          "ที่เหลือนั่นน่ะ""
           ฉันจะช่วยตนเองน่ะ
            หลังจากที่ป้ากูดี้ได้เขียนเช็คเงินเดือนล่วงหน้าให้อีก3เดือน"กับยายเอธิล
         มีความลลับลมคมในนิดนึตรงนี้
         ยาย"เอธิล"คนใช้เก่าของป้ากูดี้  ยายเอทิลแกฉลาดคือแกวางแผนให้"อิดี"มายั่วป้ากูดี้ โดยยายเอทิลหาเด็กและได้สั่งให้"อิดี" หนุ่มหล่อร่างเตี้ยมารับงานซ่อมหลังคารั่วนิดนึง  ที่ห้องนอนของป้ากูดี้ ตามที่ป้ากูดี้วานสั่งมาแบบมีให้สินจ้า
งและค่านายหน้าอย่างงามมาคือ
          "ให้หาเด็กมาทำหลังคาทีารั่วให้ปกติ มันรั่วนิดเดียว  "แกจงหามาให้"เพื่อแทนช่างก่อสร้างเฉพาะที่"
        เมื่อยายเอทิลนำเด็กมาให้ป้ากู้ดี้ ก็ทำเฉ
ย แสดงว่าป้สกูดี้พอใจ ฉะนั้นยายเอทิลผู้รับปากจัดหา  ยายเอทิลจึงปล่อยให้อิดีและป้ากูดี้อยู่กันสองต่อสอง ทำหลังคารั่วให้เสร็จก่อนพายุจะเข้าคืนนี้
และเพราะป้ากูดี้ผัวตาย
ตั้งแต่แกยังสาว  แต่"อิดีพอมาเห็นเนือนร่สงของป้ากกูดี้เท่านั้น อิดีดันทนไม่ได้ในเรือนร่างอันสวยสดของป้ากูดี้ อิดีจึงวางแผนหาจังหวะลวนลาม  แต่พอทำแล้วป้ากูดี้แกไม่เห็นด้วย  แผนการของยายเอทิลให้ป้ากูดี้เอาอิดีมาทำผัวจึงแตก ซึ่งอิดีไม่รู้เรื่องนี้มาก่อน   รู้แต่ว่าให้มาทำซ่อมหลังคมืเป็นรู ด่วนกันน้ำฝรจากพายุฝนที่จะมาคืนนั้น
         อย่างไรก็ตามทั่งป้ากูดี้และอิดีไม่รู้แผนของยายเอทิลเลย  
       จนบัดนี้ และป้ากูดี้ยังไม่รู้ว่าเป็นแผนชั่วจากยายเอทิลคนใช้ของแกมีการวางแผนนำอิดีช่าง
จำเป็นนั้นมา เมื่อไม่สบอารมณ์ในการจ้างงาน และท้ายสุดทั้งยายเอทิล(คนใช้เก่า แม่ชักสื่อหาคนงานมาทำงานเบ็ดเตล็ด)และอิดี(ช่างจำเป็น)จึงถูกไล่ออกจากงานและบ้านพักทั้งสองคนพร้อมกันในวันนั้นพร้อมเช็คเงินค่าจ้างที่พึงได้ของอิดีและเงินเดือนของยายเอทิลจ่ายล่วงหน้าชดใช้ให้สามเดือนละเลิกกันเท่านั่นนับแต่วันนั้นเแนต้นมา
        เรื่องยาย"เอทิล"และแผนการชั่วของยายเอทิลจึงจบลงเท่านั้นในข้อหาคือความ "ทะลึ่งและยายเอทิลนำคนมาทำ"ทะลึ่ง"กับแก"เป็ยสาเหตุให้ยายเอทิลคนใช้ถูกไล่ออกจากงานและอิดีคนรับจ้างจำเป็นถูกไล่ออกจากบ้านก่อนงานแก้รูหลังคารั่วนิดเดียวนั้นเสร็จลง
"จริงๆนะเรื่องของเธอเนี่ยน่ะ" ป้ากูดี้บ่นพึมพำ
            "ส่วนหลังคาที่จะซ่อมในห้องนอนของฉันก็ไม่เสร็จ "นี่ถ้าฝนดันตก  เพราะมันมีพายุ"เอลนีโญ"(e l n e n o =ภาษาสเปน)เข้ามาแบบฉุกเฉิน "ฉันคงแย่""ฉันต้องขับรถออกไปนอกบ้านนอนโรงรอนเเรมที่"เบดแอนด์แบรกฟาส์"(b e d & breakfast )ที่ในหมู่บ้านชนบททสงทิศใต้จากที่
         นี่ใกลๆกันห่างออกไปเป็นระยะทาง 20 กิโลเมตรห่างจากหมู่บ้าน"ดาร์ก-มอร์"(dark - moor)ของฉัน" ถ้าพายุมาจริง" ฉันต้องขับรถไปแน่นอนป้ากูดี้คิดวิตกต่างๆนานา ตอนนั้นหลังจากที่"อีดี"รับเช็ค(cheque )และเดินออกจากบ้านแกไปแล้ว
            ถ้าฝนตกในคืนนี้ที่น่าเป็นห่วงอย่างมาก 
สำหรับ ป้ากูดี้ที่ต้องดี้นรนช่วยตัวเอง  อย่างสุดเหวี่ยงแน่นอน กับงานที่ซ่อมหลังคากันน้ำฝนรั่วรดห้องนอนแสนรักของตนเอง 
        พอดีตอนนั้นจังหวะฝนด่วน นอกฤดูกาลจะมาพอดีอีกด้วย " ที่ช่างระยำทำแล้วต้องค้างคา เอาไว้นี่  "เธอต้องลำบากมาก จะฝืนนอนในรถยนต์ทีจอดพักทีทการาจ(garage) ก็มันเว่อร์แน่ !จะนอนนอกห้นอนอื่น  ก็กลัวจะผิดคำสาบาที่ให้กับสามีเธอไป ที่ว่าไม่ได้นอนในห่องนอนที่เคยนอยอบู่ด้วยกันในช่วงไว้ทุกข์นี้ 
        คือต้องนอนในห้องนอนที่เคยนอนด่วยกันก่อนตายนอนที่ไหน  หลังตายแล้วก็นอนที่นั่น   ถ้าฝนเสือกมาเปียกจริง เพรทะเจ้าพยากรณ์อากาศบางครรั้งก็เชื่อไม้ได้  เพราะอากาศศ มันก็ผีชนิดหนึ่งที่ตนเองเชื่อ
       ก็หรือไม่!ใช้ที่นอนมุมอื่นแทนในบ้านนี้แทนหรือในรถยนต์  "ก็เป็นความคิดที่ดี"  ป้ากูดี้แกกลับคิดว่า  แต่ถ้า"ผี" อันเป็น"สปิริต"(spirit )ที่ทั้งสองเชื่อว่า"มีอยู่จริง" ผีแฟนลอยวนมาาเห็นเข้า "เชื่อว่าผีพันตรีมิค็อกคงจะต้องร้องให้แน่นอน""
             อย่างไรก็ตาม ป้ากูดี้และจิตใจของแกตอนนี้ได้เก็บโกรธอิดีไว้อย่างชนิดเข้ากระดูกดำทีเดียว


         

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น